อื่นๆ
ทำไมต้อง ออสเตรเลีย (1)

ถ้าพูดถึงการเรียนต่อ ณ ต่างประเทศ รวมถึงหางานทำ ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในอันดับต้น ๆ ของประเทศปลายทางต้องเป็นออสเตรเลีย (ไม่ใช่ออสเตรีย- คนละทวีป) หรือที่รู้จักกันดีว่าแดนจิงโจ้ หมีโคอาลา (มาร์ช ไปเล่นตรงโน้น!)
ออสเตรเลีย
มาครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังแล้วจะจบด้วยความpeak
1.ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ แต่ไม่ได้แปลว่าสามารถท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศนะครับ เพราะใจกลางของความเจ็บปวด (ไม่ตลก) เป็นทะเลทรายกว้างมาก
ทะเลทราย สีน้ำตาลกลางประเทศ - ร้อนมาก!!!
ถ้าลองสังเกตพื้นที่สีเขียว ๆ นั่น คือ เมืองที่จะมีคนอยู่จำนวนมาก
2. สภาพอากาศจะ ต่างจากไทยเพราะเราอยู่ในแถบร้อนชื้น แต่เขาอยู่ใกล้ขั้วโลกใต้ ดังนั้น อากาศจะเย็นกว่าไทย แต่จะคาดหวังว่าจะมีหิมะไหม? ต้องเดินทางขึ้นไปบนเขา แต่ภาคพื้นผมไม่เคยเจอนะครับ = มันก็จำต้องปรับตัวไหม?
Advertisement
Advertisement
3. *** คุณภาพชีวิตของคนประเทศนี้ ซึ่งเราจะเห็นว่า มันดีมาก ยกตัวอย่าง เพื่อนบ้าน-คนท้องถิ่นใช้ชีวิตอย่างที่มนุษย์เราควรจะเป็น คือ ทำงาน 8 ชั่วโมง พัฒนาตัวเอง 8 พักผ่อน 8 ดังนั้น การที่เราทำงานหนัก ไม่ออกไปสังสรรค์ จะถูกมองว่าแปลก เพราะคุณสร้างสมดุลให้กับชีวิตไม่เป็น
4. มันสอนให้ผมตระหนักถึงการแบ่งเวลา และวางแผนชีวิตได้ - แต่ผู้อ่านบางท่านแย้งว่า ถ้าคุณภาพชีวิตดีทำไมเป็นเส้นเลือดตีบ ผมกลับมาเป็นที่ไทย ไม่ใช่ที่ออสเตรเลีย! (ยกตัวอย่าง 3 กรณี)
4.1 ทุก ๆ เย็นวันศุกร์ ผมมักจะชอบไปจำศีลที่ห้องสมุดคณะ (นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น)
ห้องสมุดมหาวิทยาลัย
แต่เพื่อนต่างชาติถึงกับต้องลากผู้เขียนไปผ่อนคลายนอกคณะเพราะกลัวจะจมกองหนังสือจนสู่ขิตไม่มีใครมาเรียก (555 ๆๆๆ) นี่มันสะท้อนให้ผมต้องรู้จักจัดสรรเวลาได้เป็น กล่าวคือ ผมจะต้อง 1. ทบทวนตำราก่อนเข้าเรียน ประมาณ 1 เดือน เมื่อเรียนเสร็จแล้วแต่ละวัน ผมจะมานั่งทบทวนสิ่งที่ผมจดได้แต่ละวัน ทุกครั้งที่ผมได้นั่งทบทวนสิ่งที่ผมจด ผมมักจะมองผ่านมองกระจกแล้วบ่อยครั้งจะเห็นท้องถิ่น และเพื่อนต่างชาติวิ่งออกกำลัง หรือเดินรอบ ๆ มหาวิทยาลัย มันจึงสะท้อนว่าผมได้ทุนมาเพื่อเรียนอย่างเดียว หรือเรียน+ใช้ชีวิต เมื่อผมได้รับเสียงสะท้อนจากทั้งคนท้องถิ่น และผู้ให้ทุนว่า ใบปริญญามันควรสะท้อนนอกจากความรู้แต่มันคือการใช้ชีวิตด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาคเรียนที่ 2 ผมจึงต้องปฏิวัติตัวเอง เป็นตั้งใจเรียน และดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ เพื่อให้สามารถเข้ารับปริญญา ด้วยสุขภาพที่ดี
Advertisement
Advertisement
4.2 ทุก ๆ สุดสัปดาห์ ผมกับเพื่อนต่างคณะ จะไป สวนสาธารณะเพื่อ ก. ปิ้งบาบีคิว บนเตาที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ ใช่ครับ! มีเตาหมูกระทะบริการขอแค่ทำความสะอาดเมื่อทานเสร็จแล้ว
ปล. เตาปิ้ง ตั้งอยู่ตลอดแนวแม่น้ำยาร่า.
เชิญ BBQ ฟรี
ข. ไปออกกำลังกาย
4.3 สภาพอากาศที่ออสเตรเลียค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อย ดังนั้น การวางแผนชีวิตแต่ละวันต้องมี กล่าวคือ แต่ละวัน ร่มต้องมา ครีมกันแดดต้องมา กระบอกน้ำต้องมา ฝนเอย แดด-คลื่นความร้อน ลมแรง ที่คนไทยไม่เจอคุณจะได้เจอที่ออสเตรเลียแน่นอน
ทิ้งท้ายแบบขิง ๆ
แฟนผมอยู่คณะนี้
สำหรับบทสรุปในตอนที่ 1. นี้ผมอยากเน้นว่า ประสบการณ์ตรงจากออสเตรเลียทำให้ผมตระหนักถึง การบริหารจัดการเวลาเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตอย่าลงตัวครับ และที่สำคัญที่สุด 2. ความรู้ก็ได้ ความรักก็ได้ (555)
ส่วนตอนที่ 2 ผมจะมาบอกว่า การเรียนก็ดี การเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย รวมถึงสิ่งที่ต้องพึงระวังเป็นอย่างมาก คือ อะไร เช่นอย่าเป็นผีน้อย เพราะคุณเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี ถูกยึดค่าตอบแทน และ ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ไม่คุ้มเสียครับ ... trust me 'cause I am a lawyer
Advertisement
Advertisement
ท้ายนี้ขอบพระคุณภาพ
1.ปก โดย Joey Csunyo จาก unsplash
2.ที่ 1 โดย OpenClipart-Vectors จาก pixabay
3.ที่ 2 โดย WikiImages จาก pixabay
4. ที่ 3 โดย มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น จาก website ของมหาวิทยาลัย
5.ที่ 4 โดย https://foursquare.com/ จาก website ของ foursquare
6.ที่ 5 โดย Peter Bennetts โดย website จาก Architecture and pedagogy: The Melbourne School of Design | ArchitectureAU
ความคิดเห็น






