อื่นๆ
รีวิวเกม " TimeOut " โลกใบใหม่ที่เวลามีค่ามากกว่าเงินทอง
ในบทความนี้ผมขอรีวิวเอาใจคนรักเกมอินดี้อีกเช่นเคยกับ " TimeOut " เกมไซไฟสวมบทบาทในโลกดิสโทเปียแบบพิกเซลนัวร์ 2.5 มิติ ( มีความตื้นลึกในมุมมองสองแบบ ) อันมีจุดเริ่มต้นมาจากโปรเจกต์จบปีสุดท้ายของผู้พัฒนาที่มีเพียงคนเดียวในรั้วมหาวิทยาลัยประเทศสิงคโปร์ เกมนี้จะมีอะไรน่าสนใจจนทำให้ผมต้องหยิบยกมารีวิว เราไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้เลยครับ
เนื้อเรื่อง | Story
ฉากหลังของเกมเป็นโลกดิสโทเปียแต่กลับให้อารมณ์ย้อนกลับไปบนแผ่นดินอเมริกายุค 50 แต่ทุกสิ่งในโลกใบนี้กลับแตกต่างจากที่พวกเราเข้าใจ เพราะสิ่งที่เรียกว่าเงินนั้นไร้ความหมาย ทำให้ทุกคนจำเป็นต้องอาศัย " เวลา " ในการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือเวลาในโลกนี้กลายเป็นกุญแจสำหรับการ " ต่อชีวิต " เพราะถ้าหากเวลาของคุณกลายเป็นศูนย์เมื่อไหร่ ลมหายใจของคุณก็จะดับลงทันทีเช่นกัน
Advertisement
Advertisement
ในวันสุดแสนธรรมดา " เชอร์วูด ( Sherwood ) " นักสืบเอกชนผู้ตกอับกับเวลาชีวิตที่เหลือเพียง 5 นาทีกับอีก 40 วินาที เขาได้รับสายเรียกเข้าจากลูกค้าสาวที่กำลังสิ้นหวังสุดขีดไม่แพ้กัน เนื่องจากสามีของเธอต้องจากไปเพราะพลาดท่าเอาเวลาของตนไปซื้อ " เวลาปลอม " จากชายปริศนาในเมือง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องตามสืบเพื่อเปิดโปงเรื่องราวความจริงทั้งหมด
ตัวละครหลัก | Character
ตัวละครหลักใน TimeOut แบบไม่สปอยจะมีเพียงสามคนเท่านั้น (ส่วนที่เหลือผมอยากให้คุณผู้อ่านไปสัมผัสในเกมเองครับ)
- 01 : เชอร์วูด ( Sherwood ) นักสืบวัยกลางคนที่เราต้องสวมบทบาท ที่คาดว่าชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงตกอับสันนิษฐานจากเวลาชีวิตที่เหลืออยู่
- 02 : เจนนิเฟอร์ ( Jennifer ) เธอคนนี้คือ " ผู้ว่าจ้าง" เพียงคนเดียวที่เรารับใช้ในเกมนี้ ส่วนสาเหตุที่ว่าจ้างเป็นเพราะเธอสูญเสียสามีไปจากการซื้อเวลาปลอมจากชายปริศนาคนหนึ่ง
- 03 : ชายปริศนาใต้หน้ากาก ( ไม่ทราบชื่อ ) ชายผู้มีเวลาใช้ชีวิตเหลือเฟือต่างจากเราโดยสิ้นเชิง และเป็นผู้ที่ใจดียอมให้เชอร์วูดกู้ยืมเวลาได้มากถึงห้าปี แต่ก็มาพร้อมกับเงื่อนไขที่เราต้องจ่ายคืน
Advertisement
Advertisement
ความรู้สึกหลังเล่น
เกมนี้ใช้เวลาประมาณ 20 - 25 นาทีก็เล่นจบเนื้อเรื่องหลักได้ ( แต่มีฉากจบหลายแบบ ) ส่วนตัวผมประทับใจในกราฟิกของเกมที่แปลกใหม่สำหรับผม อย่างที่บอกครับว่าตัวเกมเป็นพิกเซลนัวร์แบบ 2.5 มิติ แถมสไตล์ภาพรวมไปถึงบรรยากาศก็ดูย้อนยุคได้รับกลิ่นอายบนแผ่นดินอเมริกายุค 50 ( ทำให้นึกถึงหนังเก่าๆ ในอดีต ) แถมมาพร้อมเพลงประกอบสุดไพเราะแต่ปนเหงาไปพร้อมกัน
ถึงแม้ไอเดียเรื่องการใช้เวลาของเกมจะไม่ได้สดใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกใช้ในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง " In Time ล่าเวลาสุดนรก " ที่ออกฉายไปแล้วเมื่อสิบปีก่อน ( ซึ่งคือหนึ่งในแรงบันดาลใจของผู้พัฒนาเกมนี้ ) แต่ตัวเกมกลับนำเสนอในมุมมองที่แตกต่างทั้งเรื่องชนชั้นที่แตกต่างกัน และการกระทำของตัวละครภายในเรื่องที่มีเหตุผลเป็นของตัวเอง บทสนทนาของตัวละคร NPC ที่ถ้าหากเราตั้งใจหยุดอ่านจะพบกับเนื้อเรื่องและแนวคิดของคนในเมืองสอดแทรกมาให้เรารู้สึกอินเข้าไปอีก
Advertisement
Advertisement
หากจะพูดถึงข้อเสียที่ผมยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ นั่นคือระบบการต่อสู้ที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในช่วงหนึ่งของเกมที่ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างบังคับทิศทางยาก แต่ข้อเสียจุดนี้ก็เป็นเพียงจุดเล็กน้อยๆ ที่จะเอาไปด้อยค่าภาพรวมของเกมไม่ได้
เพราะสุดท้ายแล้ว TimeOut ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเกมอินดี้ที่ผมอยากให้ได้ " ไปต่อ " เพราะผมติดใจบรรยากาศในเมืองมากๆ หวังว่าทางผู้พัฒนาเขาทำเกมยาวออกมาให้เล่นอีกในอนาคต และเพื่อให้ความฝันนี้เป็นจริงผมจึงอยากให้ทุกคนลองกดซื้อมาเล่นยามว่างดูครับ สามารถดาวน์โหลดได้ที่หน้าเว็บไซต์ทางการของผู้พัฒนาในราคาเพียง $2.00 เท่านั้น
คะแนน 8.5 / 10
เครดิตรูปภาพประกอบ
1. รูปภาพหน้าปก Christopherlee , JustReview(ผู้เขียนบทความ)
2. รูปภาพประกอบ
- ภาพที่ 1 , 2 , 3 , 4 :TimeOut Game Play
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น