อื่นๆ
สิ่งที่ MBTI 16 บุคลิกภาพเคยเจอและรู้สึกลำบากตอนเด็ก
MBTI หรือ Myers-Briggs Type Indicator คือแบบทดสอบบุคลิก ซึ่งจะทำการแบ่งมนุษย์ออกเป็น 16 แบบถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดย Isabel Briggs Myers และ Katharine C. Briggs ซึ่งต่อยอดมาจากทฤษฎีของ Carl Jung ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1962 ซึ่งถือว่ามีความน่าเชื่อถืออยู่ถึง 80% เพราะเป็นผลการวิเคราะห์จากการตอบคำถามของผู้ทดสอบโดยอ้างอิงจากสิ่งที่เราคุ้นชินในชีวิตประจำวัน งานอดิเรกที่เราชื่นชอบ กิจกรรมที่เราทำเวลาว่าง มาดูกันดีกว่าว่า สิ่งที่ MBTI 16 บุคลิกภาพเคยเจอและรู้สึกลำบากตอนเด็กจะมีอะไรบ้าง
ESTJ -- ตอนเด็กๆเป็นคนที่ร่าเริง พูดมาก กระตือรือร้น และมักจะชอบช่วยงานที่บ้านมากกว่าออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ESTJ เป็นคนที่รักในการรับผิดชอบเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องการให้ทุกคนทำตามหน้าที่และบทบาทของตัวเอง พ่อก็เป็นพ่อ แม่ก็เป็นแม่ ESTJ อาจจะรู้สึกสับสนมึนงงได้ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้มงวดมากๆ และอีกฝ่ายตามใจมากเกินไป
และอีกปัญหาหนึ่งที่ ESTJ เจอตอนเด็กคือพวกเขาไม่ใช่คนที่เห็นอกเห็นใจมากนัก พวกเขาสนใจอย่างมากเกี่ยวกับผู้คน แต่ก็ยังทำร้ายจิตใจเด็กคนอื่นๆโดยที่ไม่ตั้งใจ พ่อแม่ของ ESTJ สามารถช่วยให้ ESTJ มีความเห็นอกเห็นใจได้โดยการบอกให้พวกเขาระวังความคิดเห็นของตัวเอง
Advertisement
Advertisement
และถ้าพ่อแม่มองไม่เห็นความพยายามของ ESTJ ESTJ จะผิดหวังเป็นอย่างมากและรู้สึกไม่มีค่า เด็กๆชาว ESTJ ต้องการคำอนุญาตจากผู้ใหญ่ทั้งจากอาจารย์และพ่อแม่ในสิ่งที่ตัวเองทำ และ ESTJ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงแผนการ หรือการถูกขัดความคิดของตัวเองมากเท่าไร พวกเขาชอบทำอะไรเป็นรูทีนและสิ่งที่เคยชินมากกว่า
ISTJ -- ตอนเป็นเด็กๆ ชาว ISTJ เป็นเด็กเงียบๆและจริงจัง เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบสูงและมองโลกตามความจริงคนหนึ่ง แถมยังติดดินและมีความมั่นคงทางอารมณ์สุดๆ พวกเขารักสงบและเป็นเด็กเงียบๆ แต่ก็ยังสนุกกับการได้เล่นกับเพื่อนๆสักคนหรือสองคนที่สนิทกัน
ISTJ มีนิสัยและบุคลิกเหมือนคนแก่ตั้งแต่เด็กๆ ISTJ ในวัยเด็กไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง การถูกขัด หรือบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่พวกเขายังไม่ได้ทำใจที่จะเจอที ISTJ รู้สึกหวาดกลัวจนสติแตกได้เมื่อหลายๆอย่างไม่เป็นอย่างที่ ISTJ คิด การทำสิ่งหนึ่งอยู่ดีๆแล้วเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่เครียดมากๆสำหรับ ISTJ และตอนที่พวกเขามีสมาธิตั้งใจหรือจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วโดนขัดก็ทำให้พวกเขาหงุดหงิดหรือรำคาญใจ
Advertisement
Advertisement
คล้ายๆกับ ESTJ ISTJ สามารถทำร้ายความรู้สึกของเด็กๆคนอื่นได้โกยไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนรอบข้างมากพอ และยิ่งถ้าคนๆนั้นคือเพื่อนสนิทของ ISTJ จะทำให้ ISTJ เครียดมากๆ
ISTJ ในวัยเด็กชอบการอยู่คนเดียวและจะเกลียดมากถ้าถูกบังคับให้เข้าสังคม แม้แต่ญาติๆก็ตาม พวกเขาสนุกกับการอ่านหนังสือ การหาข้อมูล การเล่นเกม และพวกเขามีความรับผิดชอบมากเมื่อเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน ในฐานะพ่อแม่ ควรตามใจลูกบ้างเวลาที่เขาทำข้อสอบได้ที่หนึ่ง หรือรักษาคำพูดของตัวเองได้
ESFJ -- ในวัยเด็กเป็นคนที่รักเพื่อน ชอบใส่ใจ และอ่อนไหวง่าย มองโลกตามความจริง และชอบใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน เป็นที่รักของคนทุกคน ESFJ ในวัยเด็กมีความต้องการมากที่จะเข้าสังคม ต้องการจะมีเพื่อนเยอะๆ และเติมพลังของตัวเองด้วยการใช้เวลากับเพื่อนๆและครอบครัว ถ้า ESTJ มีพ่อแม่เป็น introvert อาจจะทำให้พวกเขารู้สึกเครียดได้ เหมือนต้องเก็บกดอารมณ์อยากเจอเพื่อน อยากเข้าสังคมของตัวเองไว้ข้างใน และรู้สึกว่าถ้าจะได้ไปเจอเพื่อนไปเล่นกับเพื่อนต้องแอบๆออกไป และ ESTJ ในวัยเด็กยังรู้สึกถูกทิ้งหรือโดนปฏิเสธเมื่อไม่ได้รับความรักและความสนใจเพียงพอจากเพื่อนหรือว่าพ่อแม่
Advertisement
Advertisement
ISFJ -- เป็นเด็กที่สุภาพ น่ารัก เงียบๆ ใส่ใจ และคิดมาก มักจะรับบทดูแลคนที่ใกล้ชิดตัวเองอยู่เสมอ เป็นคนที่ทุกคนสามารถไว้ใจและพึ่งพาได้ แถมยังเป็นคนที่รับผิดชอบและรักสงบมากๆอีกด้วย ISFJ ในวัยเด็กจะเครียดและทุกข์ทรมานมากถ้าพ่อแม่จะโกนหรือขึ้นเสียงใส่หน้าเขา พวกเขาต้องการการอธิบายดีๆด้วยเหตุผลมากกว่าว่าทำไมมันถึงไม่ดี มันไม่ดียังไง มากกว่าอยู่ๆก็ใส่อารมณ์และขึ้นเสียงเลย
ISFJ เป็นคนที่ขี้อายมากๆกับเพื่อนที่เพื่งเจอกันครั้งแรก ISFJ มีเพื่อนสนิทกลุ่มเล็กๆที่คบมานาน แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับ ISFJ ในการเปิดใจพูดกับใครสักคนก่อน ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนั้นทำให้ ISFJ รู้สึกเหงามากจริงๆ ISFJ ต้องการความผูกพันจากครอบครัว ที่ๆจะรู้สึกว่า เออ ที่ตรงนี้เนี้ย มันเป็นของเราจริงๆนะ มันเป็นที่ๆเรายืนอยู่แล้วรู้สึกปลอดภัย การย้ายโรงเรียน ปัญหาฐานะทางการเงินของครอบครัว หรือพ่อแม่แยกทางกัน เป็นเรื่องที่เครียดเศร้าและน่ากลัวมากๆสำหรับ ISFJ
ESTP -- เป็นเด็กที่ร่าเริงสดใส และรักกิจกรรมมากๆ พวกเขาเป็นเด็กที่ซุกซนและคึกคะนองเลยถ้าเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน ยิ้มและหัวเราะบ่อยมากๆ ชอบเล่นมุกตลกหยอดโน้นหยอดนี้ให้คนอื่นหัวเราะ เป็นนักเอนเตอร์เทรนคนอย่างแท้จริง ฉลาด กล้าหาญ และเป็นที่รักของคนรอบข้างด้วย
ESTP ตอนเด็กๆนั้นเป็นคนที่อยากรูัอยากเห็นและหุนหันพลันแล่น แต่ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการจำกฏต่างๆ พวกเขาอยากจะจับ อยากจะชิม อยากจะทำทุกๆอย่างที่พวกเขาไม่รู้เลย พวกเขาอาจจะต้องการคนที่ตั้งกฏและสอนพวกเขามากกว่าเด็กคนอื่นๆ
และเด็กๆชาว ESTP มักจะได้รับการดุจากพ่อแม่ตัวเองบ่อยๆเลย พวกเขาต้องการพ่อแม่ที่อดทน ใจเย็น ใจดี และไม่ใช้อารมณ์กับพวกเขาเวลาพวกเขาทำผิด ESTP หลายๆคนมักจะตะโกน ตี และเล่นกับเด็กคนอื่นๆแบบรุนแรงเป็นเรื่องปกติ เพราะพลังงานล้น และพวกเขาเคารพกฏเกณฑ์และทำตามหากอธิบายด้วยเหตุผลดีๆและไม่ใช้ความโกรธหรือใส่อารมณ์ตอนพูด
ESTP มีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการถูกสั่งให้นั่งนิ่งๆและห้ามคุยกันในห้องเรียนด้วย ชีวิตในโรงเรียนเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากๆสำหรับ ESTP ที่ต้องตื่นมาตอนเช้า ไปโรงเรียน เรียนหนังสือ ทำกิจวัตรประจำวันซ้ำไปซ้ำมาทุกๆวัน พวกเขาอาจจะรู้สึกเหฯ้ดเหนื่อยและหมดพลังงานกับชีวิตในโรงเรียนที่ต้องนั่งที่เดิมๆทุกๆวันและฟังอาจารย์หรือคุณครูบรรยายอยู่หน้ากระดานดำ และเมื่อพวกเขากลับมาบ้าน พวกเขาก็ต้องการโอกาสที่จะออกไปเล่นข้างนอกกับเพื่อนบ้านหรือทำอะไรอย่างอื่นด้วยตัวเอง
ISTP -- เด็กๆชาว ISTP เป็นคนที่รักอิสระเป็นอย่างมาก มองโลกตามความจริง มีไหวพริบ และมีความสามารถรอบด้าน พวกเขากระหายเป็นอย่างมากในการเล่นกีฬา การเดินป่า การล่าสัตว์ การออกผจญภัย พวกเขาเป็นเด็กที่มีเหตุผล เชื่อถือได้ ในขณะเดียวก็ใจกว้าง มีน้ำใจ และเป็นเด็กที่สนุกสนานคนหนึ่ง
พวกเขาอยากรู้อยากเห็นและช่างสงสัยเป็นอย่างมาก พวกเขาสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวพวกเขาอยู่เสมอ พระอาทิตย์ แสงแดด ดิน หญ้า ต้นไม้ น้ำ และมีช่วงเวลากับการอยากจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ให้ได้เพราะความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง พวกเขามีแนวโน้มจะสร้างปัญหาและแหกกฏของโรงเรียนได้ เพราะไม่ชอบการถูกบังคับเป็นเวลานานๆ และการฟังก็ไม่ใช่ความสามารถพิเศษของ ISTP
จริงๆ การฟังอะไรนานๆเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับ ISTP เพราะ ISTP ไม่ชอบการนั่งนิ่งๆอยู่เฉยๆเป็นเวลานานๆ พวกเขาถูกเข้าใจผิดบ่อยๆด้วยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น อยู่นิ่งๆนานๆไม่ได้ และไม่อดทน การโตมากับผู้ใหญ่ที่ใช้ฟังก์ชันการทำงาน feeler อาจจะเป็นเหมือนกับคำสาปสำหรับ ISTP ตอนเด็กๆได้ ในตอนที่พวกเขามีความสุขกับพ่อแม่ที่ดูแลและใส่ใจพวกเขา แต่เวลาที่พ่อแม่อธิบายเหตุการณ์ต่างๆกับเด็กๆชาว ISTP ด้วยอีโมชัน อารมณ์ ความรู้สึก และโลกเชิงนามธรรม สิ่งนี้อาจจะทำให้เด็กๆชาว ISTP รู้สึกสับสนงงงวยได้ เหมือนกับหาก ISTP ทะเลาะกับเพื่อนคนนี้ พ่อแม่ที่ใช้ feeler ในการทำงานก็คงจะ เก็บเพื่อนคนนี้ไว้นะลูก เอาเงินไปซื้อขนมแล้วคืนดีกับเพื่อนในขณะที่ ISTP สามารถไปคบกับเด็กคนอื่นและปล่อยเพื่อนคนนี้ไปก็ได้
ESFP -- ตอนเด็กๆ ESFP เป็นเด็กที่อยู่ไม่นิ่ง ซุกซน ชอบหัวเราะตลอดเวลา และชอบทำให้คนอื่นหัวเราะไปด้วย พวกเขาเป็นคนที่ติดดิน ร่าเริงสดใส กระตือรือร้น ทะเยอทะยาน มีชีวิตชีวา และมองโลกในแง่ดี ปัญหาที่ ESTP เจอเป็นปัญหาที่ xSxP หลายคนเจอส่วนมากคือไม่ชอบอยู่นิ่งๆเป็นเวลานานๆ
ในโรงเรียนถ้าเรามองเห็นเพื่อนที่มานั่งคุยกับเรา และย้ายโต๊ะไปคุยกับคนนั้นที คนนี้ที และวิ่งด้วยความเร็วแสงเพื่อหลบอาจารย์หนีกลับเข้าที่นั่งของตัวเองในห้องเรียน คนๆนั้นอาจจะเป็น ESFP ESFP ในตอนเด็กๆเข้ากับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี และเป็นที่รักของเพื่อนๆหลายๆกลุ่มด้วย แต่ ESFP ไม่ชอบชีวิตในโรงเรียน นอกจากเพื่อนๆที่เรียนในโรงเรียนเดียวกัน
ESFP ไม่ชอบการจัดตารางสอน ตารางเวลาที่ต้องทำทุกอย่างแบบโกแกง ESFP มักจะไม่ชอบอยู่ติดบ้าน ทันทีที่วางกระเป๋าลงก็จะชอบไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้านคนนั้น คนนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนที่รู้จักทุกคนในหมู่บ้านกันเลยทีเดียว ESFP ในวัยเด็กอาจจะมีพ่อแม่ที่ใช้คำพูดว่า อยู่เฉยๆ อยู่นิ่งๆ เงียบ นั่งลง บ่อยๆ และนั้นทำให้เด็กๆชาว ESFP หันไปสนใจการเล่นกีฬา ศิลปิน ดนตรี และหนังแทน
ISFP -- ตอนเด็กๆเป็นคนที่สุภาพ ง่ายๆสบายๆ และเห็นอกเห็นใจสูงมาก เป็นคนที่อ่อนไหวง่ายมาก และมักจะชอบวาดรูป ชอบฟัฟงเพลง และมีพรสวรรค์ในด้านนี้มากด้วย พวกเขารักสวยรักงาน และต้องการที่จะสร้างสรรค์ผลงานต่างๆที่แสดงออกถึงความเป็นตัวเอง ISFP ในวัยเด็กมีเพื่อนเยอะมาก สนิทกับทั้งเพื่อนๆและครอบครัว ISFP มีความอ่อนไหวง่ายมาก และถูกทำร้ายจิตใจตอนเด็กๆบ่อยๆ เช่นการตะโกน การเปลี่ยนน้ำเสียง หรือการวิพากย์วิจารณ์ในแง่ลบก็ทำให้ ISFP รู้สึกเศร้าและเครียดได้
พวกเขาต้องการการกอด การอ้อน การชื่นชม และการยอมรับจากผู้ใหญ่ และถ้า ISFP ไม่ได้รับความอบอุ่นแบบนี้ในวัยเด็ก พวเขาจะรู้สึกไม่มั่นคงและรู้สึกเศร้ามาก ยังไงก็ตาม เหมือนกับ xSxP ทั่วไป ISFP ส่วนมาก เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมากๆ
ISFP ในวัยเด็กส่วนมากรักการดูการ์ตูนและเล่นเกมมากๆ ชีวิตในโรงเรียนสำหรับ ISFP เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและน่าเหนื่อยหน่ายใจ แม้ว่าพวกเขาจะต้องการทำให้อาจารย์และพ่อแม่ภูมิใจ แต่พวกเขาก็มีความต้องการส่วนตัวของตัวเองเหมือนกันที่อยากจะทำให้สำเร็จ ถ้าหาก ISFP ในวัยเด็กมีพ่อแม่ที่จริงจัง เข้มงวด และไม่เคยพอใจเลยไม่ว่า ISFP จะทำอะไก็ตาม ISFP อาจจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ดีพอได้ ISFP ต้องการกำลังใจและการสนับสนุนอย่างมาก เมื่อโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสนใจอย่างมาก ผู้คนคิดอะไรอยู่ ทางเลือกที่พวกเขาเลือกทำเป็นเรื่องที่ถูกต้องมั้ย ต่างๆนาๆ
ENFJ -- ในวัยเด็กของ ENFJ นั้นเป็นคนที่ร่าเริงสดใส กระตือรือร้น มองโลกในแง่ดี พลังงานเปี่ยมล้นสูง เหมือนกับพระอาทิตย์ มีความคิดสร้างสรรค์ ใจดี อบอุ่น และมีเพื่อนๆหลายคนตั้งแต่เด็ก ชอบทำให้คนทุกคนมีความสุข และประประนอมอย่างมากในการตลเพทาอย เหมือนกับ NF ทั่วไป ENFJ มีความรักเพื่อนและมีความเชื่อมั่นที่รุนแรงเกี่ยวกับการทำสิ่งต่างๆเพื่อคนที่ตัวเองรัก พวกเขาสามารถคิดมากและอ่อนไหวง่ายในเรื่องที่ผู้ใหญ่ไม่ได้คิดอะไร นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เพ้อฝันและรักในจินตนาการเป็นอย่างมากด้วย
ENFJ ตอนเด็กๆเป็นคนที่ชอบเข้าสังคม ได้รับพลังงานจากคนรอบๆตัว รู้สึกเหงาเวลาต้องอยู่บ้านคนเดียวง ถ้าพวกเขามีพ่อแม่ที่เป็น introvert พวกเขาอาจจะรู้สึกว่าความต้องการของพวกเขาไม่ได้รับการเติมเต็มมากเท่าไร
ENFJ ส่วนมากกลัวที่จะทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น ดังนั้น การตัดสินใจของพวกเขาอาจจะเป็นไปเพื่อรักษาหน้าหรือรักษาอะไรสักอย่างเพื่อคนอื่นแล้วพวกเขาก็จะมานั่งเสียใจทีหลัง แต่เมื่อเวลาผ่านไป และพวกเขาโตขึ้น เขาจะช่วยให้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์หรือความรู้สึกแบบเดียวกับพวกเขาผ่านมันไปได้ด้วยความเข้าอกเข้าใจ การทะเลาะกันอาจจะทำให้ ENFJ รู้สึกเครียดได้อย่างเช่น การหย่าร้างของครอบครัว การตายของคนที่ตัวเองรัก การทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับคนที่อ่อนไหวง่ายอีกคนหนึ่ง
INFJ -- เป็นคนไทป์ที่โลกส่วนตัวสูงตั้งแต่เด็กๆเลย พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ รักความเป็นส่วนตัว เงียบขรึม สุภาพใจดี และเป็นเด็กที่ชอบเอาใจใส่คนหนึ่ง พวดเขาอาจจะตั้งคำถามทันทีที่สงสัย มีความอยากรู้อยากเห็นในระดับที่รุนแรงมากๆและดื้อรั้นด้วย โดยรวมแล้ว INFJ เป็นเด็กฉลาดและมีความเห็นอกเห็นใจ มักจะกังวลว่าทุกคนจะคิดกับตัวเองยังไง
โลกในความฝันของ INFJ นั้นดีมากๆ โลกที่ปราศจากสงคราม โลกที่ทุกคนรักกัน โลกที่ทุกคนปรองดอง ไม่มีคนทะเลาะกัน ดังนั้นหาก INFJ เกิดในครอบครัวทะเลาะกันทุกวัน หรือเป็น extravert ที่ผลักให้ INFJ เข้าสังคมหรือบังคับให้ออกไปเจอเพื่อนตลอดเวลา INFJ อาจจะเครียดได้ และอาจจะเป็นการรบกวนสมาธิของเด็กๆชาว INFJ ที่ตั้งใจจะทำโปรเจคก์ต่างๆที่อยู่ในหัวให้เป็นจริงด่วย แม้ว่าเขาอยากจะทำให้ผู้ใหญ่พอใจก็ตาม
INFJ ในวัยเด็กเป็นคนที่ขี้อายอยู่เสมอ แต่ก็ต้องการจะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆและคนใกล้ๆตัวด้วย INFJ จะมีเพื่อนที่สนิทที่สุดในห้องหนึ่งหรือสองคน และ INFJ จะเป็นที่รู้จักของเพื่อนๆทุกคนเพราะความอบอุ่นและใจดีรวมถึงจริงใจ
ถ้าหากคุณเป็นพ่อแม่ของ INFJ ควรปล่อยให้ลูกของตัวเองใช้เวลาอยู่คนเดียว หรืออยู่กับความฝัน แต่อย่าให้เวลาอยู่คนเดียวมากเกินไป พยายามปกป้องลูกจากโลกส่วนตัวที่ INFJ สร้างขึ้นมาเพื่อค้นพบความล้มเหลวหรือความผิดหวังด้วย แต่มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่จะปล่อยให้ INFJ ใช้เวลาของตัวเองคนเดียวกับความคิดของตัว INFJ เอง โดยไม่เข้าไปขัด เพราะยังไงจำนวนประชากรของ INFJ ก็มีแต่ 1-2% บนโลก ถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือ เขาก็คงจะเดินเข้ามาหาเราเอง เพราะ INFJ รักความสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก ถ้าถึงเวลานั้น เราก็ค่อยรับฟังเขา และหาวิธีให้ความช่วยเหลือเขา
INFJ ไม่ชอบความขัดแย้งเป็นอย่างมาก อารมณ์และความรู้สึกของคนอื่นมีผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกของพวกเขา และพวกเขาต้องการความประนีประนอม ถ้ามีใครสักคนทะเลาะกันพวกเขาจะรู้สึกเครียดและไม่มีความสุขและจะทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนคืนดีกัน หากครอบครัวทะเลาะกันทุกวัน ลูกๆชาว INFJ คงจะรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตอนเด็กๆ INFJ ยังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการตัดสินใจว่าตัวเองอยากทำอะไร หรืออยากเป็นอะไร โดยไม่เดินตามความคาดหวังของผู้คนรอบๆตัวอีก
ENFP — ENFP เป็นเด็กที่พูดมาก ร่าเริงสดใส และอยากรู้อยากเห็นมากที่สุดในทุกๆไทป์ พวกเขาฝันถึงสิ่งที่เป็นไปได้อยู่เสมอ และชอบทำกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความคิดและพลังงาน พวกเขาอ่อนไหวง่ายและรักในจินตนาการ พวกเขาต้องการแบ่งปันความคิดและความฝันของพวกเขาต่อมุมมองที่พวกเขามองโลกใบนี้ พวกเขาชอบที่จะหาเพื่อนและสนิทกันทุกคนรอบๆตัว นอกจากนี้ยังรักในการค้นพบสิ่งใหม่ๆอีกด้วย
การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานๆเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับเด็กๆชาว ENFP ที่อยู่นิ่งๆไม่ได้ และมีนิสัยซุกซน บวกกับขี้สงสัย ชีวิตในโรงเรียนเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมากสำหรับ ENFP ในตอนแรกๆ แต่เมื่อพวกเขาถูกบังคับ และต้องใช้สมาธิเรียนหนังสือในทุกๆวัน ความอยากรู้อยากเห็นก็กลายเป็นการถูกความจริงอันโหดร้ายตีเข้าปะทะที่หน้าแทน และนั้นทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ ENFP มีนิสัยขี้เล่นเป็นอย่างมาก ชอบเล่นกับเพื่อนๆในห้องหลังเลิกเรียนตอนที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ หรือกำลังมารับแต่มาไม่ถึงที ENFP ในวัยเด็กหลายๆคนอาจจะเจอปัญหาในการทำตามกฏของโรงเรียน หรือการทำการบ้านส่งให้ทันเวลา เพราะการใช้ฟังก์ชัน perceiving ที่ชอบเลื่อนงานไปเรื่อยๆ และค่อยมาปั่นงานในเวลาสุดท้ายตอนจวนตัวจริงๆ หรือมาอ่านหนังสือช่วงใกล้สอบ ซึ่งพ่อแม่ก็ควรจะตามเรื่องให้ ENFP หน่อยว่าอ่านหนังสือถึงไหนแล้ว หรือจัดห้องเรียนส่วนตัวที่จะช่วยเรื่องสมาธิในการเรียนรู้เพิ่มสำหรับ ENFP แต่ก็ไม่ลืมที่จะตกแต่งห้องด้วยสีสันลายการ์ตูนหรืออะไรก็ตามที่เขาชอบเพื่อเสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆชาว ENFP ด้วย
ENFP ที่เจอเรื่องแย่ๆตั้งแต่เด็ก สามารถป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้ ในภายนอก ENFP จะแสดงด้านที่ร่าเริง สดใส ขี้เล่น และกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่เมื่ออยู่คนเดียว ENFP จะรู้สึกกังวล กระวนกระวาย ไม่ปลอดภัย และกลัว ซึ่งนำพาไปสู่การโทษตัวเอง และป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งพ่อแม่ของเด็กๆชาว ENFP ก็ต้องให้กำลังใจลูกตัวเอง มอบความรักและการชื่นชมอย่างต่อเนื่อง เพราะ ENFP เป็นเด็กที่ออ่นไหวง่ายและมีความเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างมาก ENFP จะเป็นเด็กประเภทที่ลุกขึ้นยืนเพื่อช่วยเหลือเด็กคนอื่นจากพวกที่รังแกเพื่อนในห้อง
INFP — INFP ตอนเด็กๆเป็นคนที่รักในความเป็นส่วนตัวอย่างมาก และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นจริงจังกับเรื่องที่ชอบทุกๆเรื่อง ในครั้งแรกที่มองเห็นกันแบบผิวเผิน INFP อาจจะมีด้านที่ดูเย็นชา ดูเท่ และดูพึ่งพาได้ ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กวัยเดียวกัน แต่ข้างใน INFP มีความรู้สึกรุนแรงและความคิดเห็นรุนแรงที่ซ่อนอยู่ข้างในเกี่ยวกับคุณค่าและความหมายของสิ่งต่างๆบนโลก พวกเขาเป็นคนเงียบๆ จริงจัง และอ่อนไหวง่ายมากๆคนหนึ่ง คนที่ใส่ใจความคิดของคนที่สนิทรอบๆตัวพวกเขา INFP เป็นคนที่มีจินตนาการสูงเกี่ยวกับสิ่งที่สวยงาม โลกที่สวยงาม ชีวิตที่สวยงาม และมีความปรารถนาที่จะเข้าใจความหมายสิ่งต่างๆของชีวิต และรักในศิลปะเป็นอย่างมากเช่น เสียงเพลง ภาพวาด บทกวี งานเขียน การเต้น หรือการแสดงละคร
ตอนเด็กๆ INFP เป็นไทป์ที่อ่อนไหวง่ายมาก และใช้ชีวิตตามอารมณ์เท่านั้น พวกเขารู้สึกเจ็บปวดได้อย่างง่ายดายจากความกลัว ความเข้าใจในชีวิตจริงที่สวนทางกับความคาดหวังภายในใจ ความรับผิดชอบในหน้าที่ๆได้รับ INFP สามารถรู้สึกไม่มั่นคงได้ถ้าถูกทรยศหรือหักหลังจากคนที่เขารักหรือไว้ใจ และเพื่อปกป้องตัวเองจากโลกภายนอกที่โหดร้าย พวกเขาทุกข์ทรมานกับการเก็บอารมณ์ส่วนตัวและปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของการหลงลืมและการให้อภัย INFP รับรู้อารมณ์และความรู้สึกรวมถึงความต้องการของคนอื่นๆรอบตัว และมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำความเข้าใจความรู้สึกพวกเขาเหมือนภาษาต่างแดนสำหรับ INFP เหมือนกับรองเท้าที่ INFP จำลองเหตุการณ์ว่าถ้าเราลองเดินด้วยตัวเองด้วยรองเท้าคู่นั้นดูล่ะ INFP มีความสงสารและเห็นอกเห็นใจผู้คนรอบตัวที่ประสบปัญหา เรื่องเดือดร้อนและความทุกข์จริงๆ แต่พวกเขารับไม่ได้กับคำวิพากย์วิจารณ์ หรือความรู้สึกในแง่ลบจากคนอื่น ผลลัพท์คือ INFP จะทำตามกฏอย่างเคร่งครัดและอาจทำให้คนอื่นๆรู้สึกเจ็บปวดจากเรื่องเดียวกันกับสิ่งที่ตัวเองเคยเจอแม้ว่า INFP จะไม่ตั้งใจก็ตาม
มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับพ่อแม่ของ INFP ที่จะเตือนและพูดดีๆกับ INFP ที่ยังเป็นเด็กด้วยความรักและความปรารถนาดีจริงๆ ไม่ใช่การบ่น การใช้อำนาจ หรือการใส่อารมณ์ ชีวิตโรงเรียนที่ทุกอย่างเป็นรูทีนอาจจะทำให้ INFP เบื่อได้ พวกเขาชอบการเรียนรู้แบบแนว โก๊ะ เรียนบ้างเล่นบ้าง ทำงาน 30 นาทีต่อวัน ทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยมาทำใหม่ในวันต่อมา หรือในเวลาต่อมาที่มีอารมณ์อยากจะทำต่อ การทำทุกอย่างตามตารางเวลาและต้องส่งการบ้านให้ตรงเวลาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากในโรงเรียนสำหรับ INFP และยังแอบรู้สึกอึดอัดใจกับความคิด ทัศนคติ และการมองโลกของคนที่ใช้ sensor และ judges อีก
เพราะว่า INFP เป็นคนที่ใช้ชีวิตและสนใจแค่ความคิดภายในจิตใจและความคิดของพวกเขา พวกเขาไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวพวกเขา อย่างเช่น เเขาคิดว่าเขาจะได้เกรด 4 และสอบได้ที่ 1 ทุกวิชา แต่ในความจริงแล้ว INFP ลืมทำการบ้านไปส่งในห้องเรียนเมื่อถึงเวลา เป็นต้น INFP มักจะลืมของและซุ่มซ่ามบ่อยๆด้วย INFP บางคนก็เล่นกีฒาตั้งแต่เด็ก แต่นั้นก็เพราะพวกเขาต้องการทำบางอย่างที่พวกเขาคิดว่ามันมีความหมายจริงๆมากกว่าการเรียกร้องความสนใจ
INFP ตอนเด็กๆสนิทกับคนทุกคนในครอบครัวของตัวเองและจะรู้สึกเครียดมากถ้าสมาชิกในครอบครัวทะเลาะกัน พวกเขาร้องไห้ง่ายๆตั้งแต่เด็กๆ ในภายนอกพวกเขาเป็นเด็กที่ขี้อายและรักความเป็นส่วนตัว เด็กผู้ชาย INFP อาจจะมีแนวโน้มที่จะถูกเพื่อนแกล้งในโรงเรียนได้เพราะนิสัยที่อ่อนไหวง่ายของตัวเอง พ่อแม่ของ INFP ควรจะให้กำลังใจลูกๆเป็นอย่างมาก ยอมรับพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนยังไงก็ตาม
ENTJ — เป็นคนที่รักอิสระอย่างรุนแรง มีเหตุผล ทะเยอทะยาน และมีจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก ขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น และความอยากจะเป็นที่หนึ่งในทุกๆเรื่องที่ทำ ENTJ เป็นเด็กที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำและประสบความสำเร็จจริงๆ พวกเขามีความมุ่งมั่น เป็นนักพูดที่ดี และมีความมั่นใจในตัวเองมากๆ ENTJ เป็นคนที่ใช้เหตุผลและความคิด เพราะแบบนั้น ENTJ จึงไม่ค่อยสบายใจกับโลกของการใช้ความรู้สึกและอารมณ์ พวกเขาเกลียดที่จะร้องไห้ และคิดว่าการร้องไห้เป็นแค่การกระทำที่ไม่มีความหมายอะไรนอกจากเป็นการแสดงความอ่อนแอและความรู้สึกน่าอับอายออกมา
ENTJ เป็นเด็กที่ทะเยอทะยานมากๆ พวกเขาสามารถกัดและเคี้ยวไปพร้อมๆกันได้เลยเพื่อหน้าที่และความรับผิดชอบ พวกเขาไม่ชอบยอมรับความช่วยเหลือจากนอื่นเช่นเดียวกัน เพราะว่าพวกเขาเป็นห่วงว่ามันจะทำให้งานและแผนการของพวกเขาพัง เขาเลยสนุกที่จะทำงานให้เสร็จแค่คนเดียว
INTJ — เป็นเด็กที่ฉลาดมากและมีความคิดสร้างสรรค์ เข้าใจความจริงเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ค่อนข้างเงียบ จริงจัง และเป็นเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างรุนแรง ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเป็นแบบนั้น ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเป็นแบบนี้ และต้องการคำอธิบายที่มีเหตุมีผลตลอดเวลาในเรื่องที่ตัวเองสนใจ
INTJ ต้องการที่เงียบๆและสงบในการคิดทุกอย่างอย่างถูกต้องและชัดเจน คนอื่นอาจจะคิดว่า INTJ ในวัยเด็กกำลังใช้เวลาในการเพ้อฝัน แต่ความจริงแล้วความเงียบคือการกระตุ้นชั้นดีในการใช้สมาธิของ INTJ ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆจากความคิดและไอเดีย ในวัยเด็ก INTJ นั้นอาจเป็นคนที่ดื้อและหัวแข็งมาก พ่อแม่อาจจะรู้สึกว่า INTJ พูดอะไรไปก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ทำตาม INTJ ไม่อยากทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำ และนี้อาจทำให้พ่อแม่อยากจะได้รับความยอมรับและแสดงอำนาจได้ INTJ เคารพผู้ใหญ่ที่พูดความจริงกับเขาอย่างตรงไปตรงมา มีเหตุผล ให้เกียรติกันโดยอันดับการเกิดก่อนเกิดหลังเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ พ่อแม่ที่ฉลาดของ INTJ จะไม่เรียนรู้วิธีที่จะควบคุม INTJ แต่จะปล่อยให้ลูกๆชาว INTJ รับผิดชอบสิ่งต่างๆด้วยตัวพวกเขาเอง และให้โอกาสในการปล่อยให้ INTJ พิสูจน์ความสามารถของตัวเอง ในระหว่างนี้ก็คอยดูแลเขาไปด้วยแต่ไม่ต้องโอ๋เขามากจนเกินไป
ในตอนเด็กๆ INTJ จะสนใจความคิดและโลกภายในหัวของพวกเขาจนไม่สนใจการเข้าสังคม การเป็นส่วนหนึ่งของสังคม หรือสิ่งที่เพื่อนๆคิดและเล่นกันในช่วงเวลานั้น และนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ INTJ ในการปรับตัวและเข้าสังคม หรือมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆวัยเดียวกันก่อน INTJ สนใจและใส่ใจอย่างลึกซึ้งจริงๆเกี่ยวกับคนที่ INTJ รัก และนี้อาจเป็นเรื่องราวในชีวิตที่น่าอึดอัดสำหรับ INTJ วัยเด็กที่ต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนเพื่อตามใจพ่อแม่หรือคนในครอบครัว และต้องแกล้งทำเป็นชอบ small talk และใส่หน้ากากเพื่อเข้าสังคม
ENTP — มีนิสัยเป็นมิตร ทะเยอทะยาน ร่าเริงสงสัย ขี้สงสัย และเต็มไปด้วยจินตนาการที่มีต่อสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอ และกิจกรรม exclusive ที่เน้นความตื่นเต้น แถมยังเป็นคนที่สนุกสนานและมีอารมณ์ขันเป็นอย่างมาก พวกเขามีเสน่ห์เป็นความฉลาดที่รู้ว่าจะเล่าเรื่องยังไงออกมาให้น่าสนใจ และชอบแสดงออกเป็นอย่างมากด้วยการโต้เถียงกับคนอื่นในเรื่องที่ตัวเองคิดว่าสนุกๆ ในวัยเด็ก ENTP มีธรรมชาติเป็นคนที่ชอบสังเกต และนำไปสู่การตัดสินใจแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเป็นหลัก พวกเขาเต็มไปด้วยความคิดเห็นและการตั้งคำถาม ที่ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่า ENTP เป็นพวกจุกจิก หรือเจ้าบงการ เขาไม่ชอบความรู้สึกเวลาไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง และต้องการผลลัพท์ คำอธิบาย หรือวิธีการแก้ไขข้อเสีย และจริงจังมากๆจนนำไปสู่การโต้แย้ง ซึ่งนิสัยแบบนี้ทำให้เพื่อนๆและอาจารย์ที่อยู่ข้างๆปวดหัวเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่พ่อแม่ของ ENTP เอง
ENTP มีช่วงเวลาที่ยากลำบากรับมือกับผลลัพท์ต่างๆที่ตามมาทุกการกระทำของพวกเขาเอง พวกเขารักการปรับตัว แต่พวกเขาก็มีขีดจำกัดของการรับสิ่งที่เข้ามาเหมือนกัน ซึ่งนี้ก็จะสร้างความอึดอัดรำคาญใจให้กับพ่อแม่ของพวกเขาเอง เมื่อเขาต้องการหาคำตอบในปริศนาที่มีตอนนี้ เวลานี้ เดียวนี้ทันที และมันต้องเสร็จแบบเร็วๆ แต่กลับไม่สนใจที่จะทำความสะอาดห้องตามที่พ่อแม่สั่ง ENTP เป็นเด็กที่สนิทกับทุกคนในบ้าน พวกเขากระปรี้กระเปร่าและชอบการแสดงออกชอบการเป็นจุดสนใจ ชอบที่มีคนฟังคำพูด ความคิด และแผนการของเขา และเขายังเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆเพราะนิสัยมองโลกในแง่ดีด้วย ENTP จะเครียดเป็นอย่างมากถ้าโดนควบคุมอิสระ ถ้าโดนสั่งว่าห้ามออกไปเล่นนอกบ้าน หรือเรียนเสร็จแล้วต้องกลับบ้านมาอ่านหนังสือเรียนทันที
INTP -- คือคนที่มีความอยากรู้อยากเห็นและขี้สงสัยมากที่สุดแล้วในวัยเด็กของ mbti 16 บุคลิก พวกเขาอยากจะรู้ว่าโลกนี้ทำงานยังไง และอยากจะเข้าใจหลักการทำงานของโลก และใช้เหตุผลและความคิดในการวิเคราะห์ความจริงเพื่อสร้างทฤษฎีหรือข้อเท็จจริง พวกเขารักที่จะตั้งคำถามกับสิ่งที่พวกเขาค้นพบ พวกเขาเป็นเด็กที่น่ารัก ง่ายๆสบายๆ และเป็นคนตลกที่มีอารมณ์ขัน
INTP มีวิธีแปลกๆในการหาข้อมูลและต่อรองกับคำสั่งของพ่อแม่ INTP ในวัยเด็กตั้งคำถามกับทุกสิ่งทุกอย่าง และถ้าต้องอยู่กับพ่อแม่ที่เข้มงวดและจริงจังมากเกินไป INTP อาจจะรู้สึกเก็บกดได้ เหมือนๆกับ xNTx ทุกคนที่ต้องการความเคารพและการให้เกียรติกัน ไม่ใช่การใช้อำนาจ การคาดหวัง และความรุนแรงที่อ้างว่าทำลงไปเพราะรัก ทำไปเพราะหวังดี และถ้าพวกเขาโดนลงโทษบ่อยๆจากสิ่งที่พ่อแม่มองว่าไม่เชื่อฟังอำนาจของตัว เรื่องพวกนี้สร้างความอึดอัดคับแคบใจให้กับ INTP เป็นอย่างมาก คนที่ต้องการจะค้นหาและเข้าใจความจริงเกี่ยวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกอย่างมีเหตุมีผล
INTP มองเห็นความเป็นไปได้บนโลก โรงเรียนเป็นเรื่องยากที่จะมีสมาธิจดจ่อกับความคิดของตัวเอง เขาเกลียดการต้องทำสิ่งเดิมซ้ำซากและดำเนินชีวิตโดยมีเวลามากำกับ และต้องการการเรียนรู้ด้วยวิธีที่สร้างสรรค์และการเรียนรู้ที่รวดเร็วที่สุด INTP เป็นเด็กฉ ลาดที่ไม่สนใจเกรดหรืออาจารย์จะคิดยังไงเกี่ยวกับพวกเขา พวกเขาฉลาดและใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่มากกว่าที่อาจารย์ที่โรงเรียนคิด และพวกเขาก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้ใครรู้ ดังนั้น iNTP อาจจะรู้สึกเบื่อกับโรงเรียนที่เรียนแบบ ถามตอบท่องจำ ที่ปราศจากการตั้งคำถาม การคิดเอง การตั้งข้อสงสัย และทำให้ INTP ได้รับเกรดไม่ค่อยดีเท่าไรในตอนที่เรียนอยู่ และนำไปสู่ปัญหาในโรงเรียนหรือที่บ้านสำหรับพ่อแม่และอาจารย์ที่เข้มงวดและจริงจังอาจจะมองว่า INTP เป็นเด็กที่ขี้เกียจมากๆ และนั้นก็ทำให้พ่อแม่ของ INTP ยอมจ่ายค่าเรียนพิเศษให้กับลูกๆชาว INTP เพื่อเพิ่มคะแนนเกรดที่ดีในโรงเรียน
INTP รู้สึกอึดอัดและเหนื่อยได้ง่ายๆจากเสียงดังรบกวนของเพื่อนๆและเสียงคุยกัน พวกเขาใช้ชีวิตส่วนมากภายในหัวของพวกเขา และพบว่าการคุยกันเสียงดังเป็นอะไรที่รบกวนความสามารถในการรับรู้ข้อมูลของพวกเขา พวกเขารับรู้อะไรแบบปัจเจกเป็นอย่างมาก ผลลัพท์คือ INTP อาจจะซุ่มซ่ามหรือเชื่องช้าในเรื่องบางเรื่อง ซึ่งพวกเขาไม่ได้เฉื่อยชาหรือเชื่องช้าอะไร เพราะในแ่ละครั้งเวลาที่ถูกถาม เขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อดึงตัวเองออกมาจากโลกภายในหัวและความคิดของพวกเขา การอยู่ใกล้ๆกับเพื่อนๆที่ชอบส่งเสียงดังๆ ทำให้พวกเขาอึดอัด พวกเขาอาจจะฝังตัวเองไว้ในหัวและซ่อนหูของตัวเองไว้ใต้หมอนหรือไม่ก็แยกตัวออกมาจากความวุ่นวาย
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับ INTP คือการรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของคนอื่น INTP พบว่าบางครั้งมันยากที่จะเข้าใจอารมณืหรือความรู้สึกของคน และ INTP เข้าใจผิดบ่อยๆเกี่ยวกับการแสดงมารยาท และการหยิบยกประเด็นหัวข้อในการสนทนาในเรื่อง small talk และการเข้าสังคม ซึ่งนี้ก็สร้างความอึดอัดให้พวกเขาอีก
ผู้เขียนเป็น INFP ก็จริง แต่ในตอนเด็กกลับไม่ค่อยมีเรื่องที่เครียดมากหรือกลุ้มใจมากเท่าไร ยกเว้นเรื่องเรียนกับการรักษาเกรด และการเลือกสายที่เรียนสำหรับงานที่จะทำในอนาคตจริงๆ ผู้เขียนเลือกเรียนสายภาษาเพราะอยากตามใจแม่ แต่ในความจริงแล้วการแข่งขันกันกลับสูงขึ้นมากๆ และแม่ของผู้เขียนก็ไม่ยอมให้ผู้เขียนไปทำงานที่ต่างประเทศ แม่ของผู้เขียนบอกให้ผู้เขียนลองอดทนทำงานที่ประเทศไทยก่อนสองปี แต่เพราะเป็นช่วงโควิดเลยตัดสินใจพักงานเพราะสถานการณ์โรคระบาดที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไร สมัยก่อนผู้เขียนมีปัญหาด้านการเข้าสังคมนิดหน่อย จริงๆผู้เขียนคิดว่าผู้เขียนเอาตัวรอดได้ดีในสังคมโรงเรียนแม้จะคิดว่าชีวิตในรั้วโรงเรียนเป็นเรื่องที่น่าเบื่อนะ ผู้เขียนรักษาคะแนนสอบได้ดี แม้จะไม่ได้หวังการเป็นที่ 1 หรือต้องได้เกรด 4 หรือหวังเกียรตินิยมแน่นอน แต่ผู้เขียนคิดว่าผู้เขียนทำคะแนนได้ดีนะสมัยเด็กๆ
แหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 / 16
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
- mbti ตอนโดนลักพาตัว
- mbti 16 ไทป์กับศิลปะแบบ DIY (Do it yourself)
- งานแบบไหนที่ใช่เลยสำหรับ Introvert
- คำที่ introvert พูดบ่อยๆเวลาที่อยากขอตัวออกจากงาน ไปชาร์จพลังอยู่คนเดียว
- mbti กับสิ่งที่ไม่ชอบในวันหยุด
ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva
รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 / 16 โดย 2497381 / pixabay
อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น