ไลฟ์แฮ็ก

นักเขียนมือใหม่ ทำยังไงให้เขียนเก่งขึ้น

103
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
นักเขียนมือใหม่ ทำยังไงให้เขียนเก่งขึ้น

นักเขียนมือใหม่ ทำยังไงให้เขียนเก่งขึ้น

ถ้าคุณต้องทำ content บนโลกออนไลน์
ถ้าคุณต้องเขียนโพสต์ขายของ
ถ้าคุณต้องเขียนบล็อกให้ความรู้
ถ้างานเขียนเป็นหนึ่งในอาชีพของคุณ
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
บทความนี้ผมเขียนให้คุณโดยเฉพาะ

แล้วผมดีใจอย่างยิ่ง ที่ได้เจอพวกเดียวกันประเด็นคือแบบนี้ครับในวันที่ผมเริ่มต้นทำงานเขียนใหม่ๆ ผมเจอปัญหาสารพัดเขียนไม่ออก สมองตันไม่ไหลลื่น อ่านไม่เข้าใจฟุ้ง มโน ออกทะเลจับประเด็นไม่ได้ลูกค้าไม่ให้ตังค์

ถ้าจะเปรียบความล้มเหลวเป็นเหมือนการเฆี่ยนตี
แผ่นหลังผมคงเป็นไปด้วยรอยบอบช้ำจนนับไม่ถ้วน
กว่าจะเก่งอะไรสักอย่าง กว่าจะพัฒนาตัวเองได้
อุปสรรคคือเพื่อนร่วมทางของคุณครับ
และผมก็ดีใจมากๆที่ผมได้ผ่านจุดนั้นมาบ้างแล้ว

วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์
พร้อมกับให้มุมมองสำหรับคนที่กำลังเริ่มต้น
และยังไม่รู้ว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร
โดยไม่ต้องเจ็บหนักเหมือนผมไม่ว่าคุณจะเขียนเพื่อขายของ เขียนให้ความรู้ เขียนเพื่อสร้างตัวตน

Advertisement

Advertisement

1 สิ่งที่คุณต้องคิดเลยคือ คุณต้องเก่งขึ้นกว่าเดิม
คุณต้องยกระดับฝีมือตัวเอง
คุณจะอยู่จุดเดิมไม่ได้เด็ดขาด ถ้า 1 ปีผ่านไป
ความสามารถคุณยังเท่าเดิม นั่นเท่ากับว่า
คุณไม่ได้ขยับไปไหนเลยขออนุญาตที่ผมตัดสินคุณนะ
แต่เพื่อให้การเรียนรู้ร่วมกันในครั้งนี้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

ผมจะแบ่งปันประสบการณ์ 3 ข้อ

เป็น 3 เคล็ดลับ
ช่วยให้นักเขียนมือใหม่เขียนได้เก่งขึ้น
คุณจะเก่งขึ้นทันทีอย่างน้อย 2 เท่า หากคุณทำอย่างสม่ำเสมอ

มาเริ่มกันเลยครับ

ข้อ 1.
คุณต้องฝึกตัวเองให้เขียนได้ทุกวัน

ปากการูปภาพโดย ประภาส เอี่ยมสอาด

อันนี้ซีเรียสนะครับ อย่ามองเป็นเรื่องตลกเพ้อฝัน

บางคนบอกว่า อ้าว! แล้วถ้าแบบนี้ถ้าไม่มีไอเดียล่ะ
ขี้เกียจล่ะ ไม่ว่างล่ะ จำเป็นต้องเขียนทุกวันด้วยหรอ

จำเป็นครับ!! ผมมีเหตุผลด้วยนะว่าทำไมคุณจะต้องฝึกเขียนทุกวันในตอนเริ่มต้นหรือแม้แต่บางทีคุณเก๋าเกมแล้วก็ตาม คุณก็ยังต้องฝึกทุกวัน
เหตุผลก็เพราะว่าคุณต้องฝึกให้สมองคุณคุ้นชิน
คุณต้องฝึกให้สมองคุณคิดเรียบเรียงอยู่ตลอดเวลา

Advertisement

Advertisement

นึกภาพง่ายๆครับ
สมมุติคุณเพิ่งหัดขับรถใหม่ๆคุณออกถนนใหญ่ครั้งแรกใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กลัวซ้ายขวา คันนั้นจะแซง
คันนี้จะแทรกมือไม้สั่นไปหมด แต่คุณก็ผ่านไปได้ด้วยดีเพราะอย่างน้อย คุณก็ได้ลงมือทำมัน
แต่ถ้าหากหลังจากนั้นคุณทิ้งระยะห่างไปเลย
หายไปอีก 2 เดือนแล้วกลับมาขับใหม่
นึกสภาพสิครับคุณจะต่างอะไร
กับเด็กน้อยที่เพิ่งหัดขับรถครั้งแรกล่ะ ?

คุณต้องฝึกอยู่ทุกวันมากน้อยก็ต้องเขียน
เป็นบันทึกเรื่องราวเป็นไดอารี่ก็ยังดีใส่สมุดโน๊ต
ใส่คอมพิวเตอร์หรือใส่มือถือคุณ เอาเลยครับ เอาที่คุณถนัด
ให้กล้ามเนื้อคุณได้ใช้งานทุกวัน ให้สมองคุณได้ฝึกคิด ผมรับประกันครับ ถ้าคุณทำได้แบบนี้
1 ปีผ่านไป
คุณจะเห็นพัฒนาการอันน่าทึ่งของตัวเอง

.

ข้อ 2.
ลองฝึกเขียนหลายๆแนว โดยเฉพาะแนวที่คุณไม่ถนัด

หลากหลายรูปภาพโดย ประภาส เอี่ยมสอาด

เสียงคัดค้านตามมาแน่นอนครับ อ้าว! ก็ถ้าเลือกแนวที่ไม่ถนัดมันจะเขียนออกรึ มันจะไม่เครียดหรอ
แล้วมันจะสนุกได้อย่างไรผมอธิบายแบบนี้ครับ
คุณจะเป็นนักเขียนที่แพรวพราวมีไอเดียบรรเจิด
สามารถคิดได้กว้าง คิดได้ลึก
คุณต้องทดสอบหรือลองทำอะไรที่มากพอ

Advertisement

Advertisement

เพราะกฎธรรมชาติบอกไว้ว่า คุณจะให้อะไรใครได้
คุณต้องมีสิ่งนั้นก่อนคุณจะมีไอเดียที่หลากหลายได้
แต่ถ้าชีวิตคุณทำแต่เรื่องเดิม ๆ มันก็เป็นไปได้ยากที่จะเกิดขึ้น

เคยเขียนแต่บทความให้ความรู้ลองเปลี่ยนมาเป็นเรื่องสั้นแนวความรักดูบ้างสิครับ ท้าทายตัวเองหน่อย
ให้สมองได้ใช้ความคิด
คุณอาจจะค้นพบศักยภาพอีกด้านของคุณก็ได้

หรือถ้าอย่างน้อยที่สุดเมื่อคุณลองเต็มที่แล้ว
แล้วคุณได้คำตอบว่า...ไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ
เพราะมันก็ชัดเจนแล้วว่า ครั้งต่อไป
คุณจะไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้อีกแนวนี้คือแนวที่คุณไม่ถนัด

ก็ยอมรับซะ!! ค้นหาแนวที่ใช้ต่อไป

แต่คุณจะไม่มีทางได้คำตอบเหล่านี้เลย
ถ้าคุณไม่ลองทำมันคุณจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ
ว่าทางข้างหน้ามีอะไร ถ้าคุณไม่ลองเดินไปดู
จริงไหมครับ ?

.

ข้อ 3.
ยอมรับในผลงาน และพร้อมจะเดินต่อ

Social

ผมตั้งหัวข้อให้มันดูซอฟไปงั้นเอง
แต่คำพูดจริง ๆ อยากสื่อคือออกไปโดนด่าซะ
ไปเจอคำวิจารณ์ซะวันนี้เป็นโลกของ social media
ผลงานที่คุณเขียนฝีไม้ลายมือของคุณ
จะถูกประเมินได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่คุณโพสต์ลงไป

อย่ากลัวครับ!
อย่ากลัวว่าตัวเองจะเขียนไม่ดี เขียนไม่ได้เรื่อง
เขียนห่วย การที่คุณจะเก่งขึ้นได้
คุณต้องยอมรับในความสามารถตัวเอง
ว่าตอนนี้คุณอยู่จุดไหน ?

กรรมการที่ดีที่สุดคือลูกค้าของคุณ
ผู้อ่านของคุณนั่นแหละครับ ออกไปให้เขาตัดสินซะ
และยอมรับในคำตัดสินนั้น ถ้าคุณทำธุรกิจ คุณรู้นะครับว่าคุณไม่ได้เขียนเอง คุณเขียนเพื่อให้ลูกค้าอ่าน
และในเมื่อลูกค้าไม่พอใจในสิ่งที่เขาอ่าน
คุณก็ต้องกลับมาปรับปรุงตัวพร้อมกับเดินหน้าต่อไป
เก็บคำวิจารณ์ เก็บข้อคิดเห็น เก็บทุกอย่าง แล้วเอามาพัฒนาซะ!

ทหารที่ออกรบสงครามไม่มีใครหรอกครับ
ที่ไม่เคยมีบาดแผล แต่บาดแผลนั้น
มันจะทำให้เขามีประสบการณ์มากขึ้น

ไม่นาน เขาจะกลายเป็นทหารที่เก่งที่สุดในกองพัน
แล้วผมก็หวังว่า คุณจะเป็นคนนั้นเช่นกันนะ 😊

คุณจะเดินไปสู่ปลายทางได้อย่างไร
ถ้าคุณไม่เคยรู้เลยว่า ตอนนี้คุณอยู่ตรงไหนระหว่างทาง คำวิจารณ์จะช่วยคุณได้ครับ....ลุย !!
.

ประภาส  เอี่ยมสอาด

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์