วันนี้จะมาแชร์สาระดี ๆ ว่าด้วยเรื่องของอาหารการกิน😋 จากประสบการณ์ของผู้เขียนซึ่งเรียนจบด้านอาหารสุขภาพและโภชนาการ (Functional Food and Nutrition) "อาหาร" นิยามเดิมเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการดำรงชีวิต กินเพื่ออยู่เท่านั้น แต่ในยุคปัจจุบันอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี💪🍅🥗 จึงมีแทรนด์การกินอาหารเพื่อสุขภาพเกิดขึ้น รวมถึงการกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่มีการกล่าวอ้างสรรพคุณและคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งการกล่าวอ้างสรรพคุณและคุณประโยชน์ของอาหารเหล่านี้มีการโฆษณาเกินจริง กล่าวถึงในทาง "ป้องกัน บำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค" ❌️ วันนี้เราจึงมาแชร์เทคนิคฉลาดกิน ฉลาดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ จะมีเทคนิคอย่างไรไปติดตามกันค่ะ เทคนิคฉลาดกินอาหารเพื่อสุขภาพกินอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เน้นกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ปลา ไข่ ผัก และผลไม้ (กินให้ได้วันละ 500 กรัม) หากคิดว่ากินได้ไม่เพียงพอแนะนำให้กินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มเติมในสิ่งที่เรากินได้ไม่ครบ 5 หมู่ เช่น โปรตีนเสริมต่าง ๆ วิตามิน C น้ำมันปลา และ Zinc เป็นต้น) 🥬🥦🍓🍒กินข้าวไม่ขัดสี Rice Bran ต่าง ๆ ซึ่งมีใยอาหารสูงและคงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้มากกว่าข้าวขัดสีกินอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ซีเรียลผสมข้าวโอ๊ต Corn Flakes (ซีเรียลธัญพืช) และถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ ใยอาหารชั้นดี ที่เรียกว่า “พรีไบโอติก” กินคู่กับโยเกิร์ต (เพื่อให้ “พรีไบโอติก” เป็นอาหารแก่ “โพรไบโอติก”) 🥜กินโยเกิร์ต ซึ่งเป็นแหล่งของ “โพรไบโอติก” มีจุลินทรีย์ที่ดี🦠 เมื่อบริโภคเสริมเข้าไปแล้วจะก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพลำไส้ ทั้งช่วยย่อยอาหารและผลิตสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ ได้แก่ กรดอะมิโน กรดแลคติก พลังงาน วิตามินเค วิตามินบี และสารปฏิชีวนะธรรมชาติหลายชนิดซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ลดการเกิดโรคท้องร่วง ท้องผูก และลดการกลับมาเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อโรค เป็นต้น 👍กินวิตามินเสริมในปริมาณที่เหมาะสม เช่น วิตามิน C แนะนำให้กินวันละไม่เกิน 2000 mg หากกินในปริมาณเยอะเกินไป จะทำให้เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ (และไม่ควรกินก่อนนอน เวลานอนเราไม่ได้ปัสสาวะเป็นเวลานาน 6-8 ชั่วโมง ร่างกายบางคนอาจเปลี่ยนวิตามินซีไปเป็นสารออกซาเลตได้ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของนิ่วชนิดหนึ่ง ดังนั้นควรกินวิตามินซีตอนเช้าพร้อมอาหาร แล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ สัก 1-2 แก้ว)🥛เลือกอาหารที่ให้ประโยชน์มากกว่ากินสดปกติ เช่น มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างเป็นแบบที่ละลายได้ดีขึ้น จึงให้ “ไลโคปีนสูงกว่า” กินสดปกติ 🍅 และเวลาที่ควรกินไม่ว่าจะกินก่อนอาหารหรือหลังอาหารก็ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น ก่อนอาหาร: ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ดีขึ้น หลังอาหาร: จะช่วยดูดซึมไลโคปีนได้ดีขึ้น👍 หรือเลือกกินผัก ผลไม้สดน้ำตาลต่ำ ที่ให้วิตามินในปริมาณสูงกว่าการนำไปผ่านความร้อน🥭🍌🍉 เช่น อะโวคาโด ฝรั่ง ส้ม มะม่วง แตงโม น้ำมะนาว น้ำเสาวรส น้ำลูกหม่อน น้ำมะเม่า เป็นต้นบริโภคเครื่องเทศและสมุนไพรเสริมเข้าไป เช่น กระเทียม หัวหอม ขิง ข่า หรือพืชตระกูลขมิ้น ซึ่งมีสารพฤกษเคมี ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ✅️ ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ❎️ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ อย่างน้อย 2 ลิตร หรือวันละ 8-10 แก้ว เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย 🥛หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารสำเร็จรูป เพราะมีปริมาณโซเดียมสูงมาก และควรงดเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูป ชา กาแฟที่มีปริมาณน้ำตาลและครีมเทียมในปริมาณสูง❌️สิ่งที่สำคัญนอกจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว อย่าลืม!!! พักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง ออกกำลังกาย ลดกิจกรรมหรือภาวะที่ก่อให้เกิดอาการเครียด เพราะถ้าหากเครียดเกินจะทำให้สมดุลของฮอร์โมนเปลี่ยน ยิ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เทคนิคฉลาดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพเราจะคุ้นหู คุ้นตา กับการกล่าวอ้างสรรพคุณและคุณประโยชน์ของอาหารเพื่อสุขภาพว่าช่วยในการ "ป้องกัน บำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค" ซึ่งถ้อยคำเหล่านี้ที่นำมาใช้ล้วนเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริง😡 ขัดต่อหลักการทางวิชาการและมาตรฐาน/กฎหมายในระดับประเทศและสากล ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้จำเป็นต้องมีหลักฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่นเพียงพอมาสนับสนุนเท่านั้น เราจึงขอแนะนำ Checklist การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งไม่ควรมีข้อความเหล่านี้❌️สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการกินนะคะ "Good Food is the basis of Good Health"💪🥗🍅ภาพปกจัดทำในโปรแกรม canvaภาพประกอบทั้งหมดโดยนักเขียน: Nok🐣ออกกำลังกายอยู่บ้านได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !