ในยุคสมัยนี้เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง หลาย ๆ ท่าน ก็หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น นอกจากจะรูปร่างหน้าตาที่สวยงามแล้ว การมีสุขภาพดี ไม่มีโรคภัยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ บทความนี้ก็จะมาแนะนำให้รู้จักกับพืชชนิดหนึ่ง ที่มีทั้งสรรพคุณและปนะโยชน์ดี ๆ มากมาย เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนรักสุขภาพ พืชชนิดนี้ที่จะมาแนะนำ ก็คือ มะม่วงหิมพานต์ มะม่วงหิมพานต์ หรือภาษาถิ่นใต้ เรียกว่า ยาร่วง เป็นพืชขนาดเล็ก-กลาง แตกกิ่งเป็นพุ่ม มีดอกเล็ก ๆ เป็นช่อ สีแดงอมชมพู มีผลแก่สีเขียว และผลสุกมีสีเหลืองกับสีแดง ลักษณะผลคล้ายผลลูกแพร์ มีเมล็ดห้อยอยู่ใต้ผล หรือที่เรียกกันว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และนี่ก็เป็นลักษณะโดยคร่าว ๆ ของมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งมะม่วงหิมพานต์มีสรรพคุณและประโยชน์ดี ๆ มากมาย แบ่งออกตามแต่ละส่วน ดังนี้ 1.ใบมะม่วงหิมพานต์ เป็นใบสีเขียว ๆ ปลายโค้งมน มีสรรพคุณช่วยสมานแผล เช่น รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลในกระเพาะอาหาร แก้อาการท้องร่วง และรักษาริดสีดวงได้ นอกจากนี้ใบมะม่วงหิมพานต์ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ นั่นคือ สามารถนำมาเป็นผักเหนาะ หรือเป็นทำเป็นผักลวกทานคู่กับน้ำพริกได้ รสชาติจะจืด ๆ ฝาดๆ2.ผลมะม่วงหิมพานต์ มีสรรพคุณ ช่วยรักษาโรคบิด ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยกระตุ้นสมอง ผลมะม่วงหิมพานต์ก็ยังมีประโยชน์ดี ๆ สามารถนำมาทานสด ๆ โรยน้ำตาล หรือปั่นเป็นน้ำ เพื่อดื่มได้ และยังหมักทำเป็นไวน์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารพื้นบ้านได้ นั่นก็คือ แกงเลียง ซึ่งรสชาติของผลมะม่วงหิมพานต์ก็จะเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ฝาด ๆ ค่ะ 3.เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ก็มีประโยชน์ตามชื่อเลยค่ะ นั่นก็คือสามารถคั่วแบบวิธีพื้นบ้านโดยคั่วบนกระทะในกองไฟ หรือจะอบแห้งตามที่ขายกันทั่ว ๆ ไปก็ได้ ซึ่งเมล็ดก็มีสรรพคุณช่วยในเรื่องการบำรุงเส้นผมและผิวหนัง บำรุงรักษาสุขภาพเหงือก และฟัน กระดูก เป็นต้น เห็นมั้ยคะว่าแต่ละส่วนของมะม่วงหิมพานต์ล้วนมีสรรพคุณดี ๆ และประโยชน์ดี ๆ มากมาย สำหรับใครที่สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากมะม่วงหิมพานต์ได้ รับรองว่าเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกายแน่นอนค่ะ