อื่นๆ
เรื่องเล่าสยอง ตอน ผีทะเล
เมื่อย่างเข้าสู่เดือนมีนาคมของทุกปี เด็กหลายคนต่างก็ดีใจเมื่อเดือนนี้ใกล้เข้ามาถึง เพราะว่าในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ของโรงเรียนเเทบทุกโรงเรียนเลยก็ว่าได้ เเน่นอนว่าตัวผมเองนั้นก็ดีใจ ที่ได้จะได้มีเวลาพักผ่อน มีเวลาออกไปเที่ยวเล่นด้วยกันกับเพื่อนๆ ตามประสาเด็กๆทั่วไป เเต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นกับตัวผมในระหว่างช่วงปิดเทอม ชื่อของผมคือ โจ้ เด็กมัธยมต้นที่กำลังจะย้ายขึ้นไปมัธยมปลาย วันนี้เป็นวันที่ผมดีใจที่สุด เพราะมันคือช่วงเวลาของการปิดเทอม ช่วงเวลาเสพสุขชีวิตอันเเสนอิสระ
' ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ' เสียงกดกริ่งหน้าบ้าน
" รอสักครู่นะครับ " ผมขานรับคนที่กำลังกดกริ่งหน้าประตูบ้าน
" ว่าไงไอ้โจ้เพื่อนรัก ปิดเทอมนี้แกว่างป่าว " ต้นเสียงนี้ก็คือ เเมน เพื่อนร่วมชั้นเดียวกันกับผมเอง
Advertisement
Advertisement
" ว่างเสมอล่ะเพื่อน ว่าเเต่ทำไมมึงมาหาตั้งเเต่เช้าจังเลยวะ ปกติแกตื่นสายตลอดเลยหนิ "
" ธรรมดาเเหละ ปิดเทอมมันก็ต้องตื่นเเต่เช้า มาเก็บเกี่ยวช่วงเวลาเเห่งความสุขในการเล่นเกม "
" โอเคๆ เเล้วที่ถ่อมาหาเเต่เช้านี่มีเรื่องอะไร? " ผมถามไอ้เเมนกลับไปอีกครั้งด้วยความสงสัย
" อ๋อ คืองี้ ว่าจะมาชวนแกไปเปิดหูเปิดตา เที่ยวทะเลที่ภูเก็ต " เเมนตอบ
(ภาพจาก https://pixabay.com/images/id-3473335/ )
" เอาจริงเดะ เออกำลังเบื่อๆอยู่พอดีเลย งั้นตกลงเลยเพื่อน เเล้วเราจะไปกับใคร เเล้วไปยังไงกันวะ " ผมตอบกลับอย่างรวดเร็ว
" ว่าจะชวน น้องเจเจ น้องชายของพี่สาวข้างบ้านมาด้วยกัน ส่วนการเดินทางน่ะไม่ต้องห่วง เดี๋ยวขอป๊าพาไปส่งก็ได้ "
" ได้เลยๆ จะไปวันไหนบอกกันล่วงหน้านะ จะได้เตรียมตัวถูก "
" ไปวันนี้เเหละ "
" ห๊ะ! " สิ้นสุดคำตอบของไอ้เเมน ผมนี่ตกใจเเทบจะหงายหลัง เพราะว่าไม่นึกว่ามันจะออกเดินทางวันนี้
Advertisement
Advertisement
ผมตอบกลับไอ้เเมนไป พร้อมบอกกับมันว่า ถ้าจะไปขอไปช่วงค่ำๆหน่อย เพราะต้องเตรียมกระเป๋าเดินทาง มันก็ตอบตกลงผมตามเคย หลังจากช่วงระยะเวลานั้น สิ่งเเรกที่ผมทำคือการขอพ่อกับเเม่ว่าจะไปเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อนๆ เเรกๆเเกก็ไม่ยอมให้ไป เพราะมันอันตราย เรื่องน้ำเรื่องท่ากลางทะเล เผื่อโดนคลื่นซัดจมน้ำตายไปใครจะรับผิดชอบ เเต่ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องงัดลูกง้อออกมา จนในที่สุดก็สามารถไปเที่ยวกับเพื่อนได้ เเละหลังจากนั้นตัวผมก็เดินขึ้นไปบนห้อง เพื่อจัดเตรียมสัมภาระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์ยิบย่อยเล็กๆน้อย ซึ่งในระหว่างนั้นเองพ่อของผมก็เดินเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับถือสร้อยพระมาด้วย 1 เส้น
( ภาพจาก https://twitter.com/mostsava/status/853125144675442689 )
" เอาห้อยคอไว้นะลูก เวลาที่มันเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น ท่านอาจจะช่วยลูกให้รอดพ้นไปได้ " พ่อของผมพูดขึ้น
Advertisement
Advertisement
" ไม่ต้องก็ได้มั้งพ่อ ที่ทะเลเขามีพนักงานคอยช่วยเหลือตลอดเวลาอยู่เเล้ว ไม่ต้องห่วงผมหรอก " ผมตอบพ่อกลับไป
" เถอะน่า ถือว่าพ่อขอ ใส่เอาไว้จะได้ให้ท่านช่วยปกปักรักษา " พ่อของผมพยายามเซ้าซี้ให้ห้อยสร้อยคอพระ
" ก็ได้ๆ เซ้าซี้จัง " ผมตอบกลับพ่อไป พร้อมหยิบสร้อยพระมาห้อยคอเอาไว้
40 นาทีผ่านไป ผมได้ลงมาจากห้อง พร้อมทั้งกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลาง พร้อมกับการเเต่งตัวออกเเนวฮาวายๆนิดๆ
" พร้อมเเล้วใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวพ่อไปส่ง " พ่อของผมเห็นผมที่กำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น พร้อมด้วยอุปกรณ์เเละการเเต่งตัวครบครัน
" พร้อมเเล้วครับ " ผมขานรับกลับไป
ใช้เวลาเพียงไปกี่นาที รถของพ่อก็มาจอดหน้าบ้านของไอ้เเมนเป็นที่เรียบร้อย ผมสวัสดีพ่อเเล้วเดินเข้าไปหาไอ้เเมนทันที ทั้งไอ้เเมนเเละน้องเจเจดูเหมือนจะพร้อมกันหมดเเล้ว สงสัยมีเเค่ผมคนเดียวนี่เเหละที่มาช้ากว่าใครเพื่อน ต่างคนต่างขนของขึ้นรถ เเล้วเข้ามานั่งด้านในของตัวรถของป๊าไอ้เเมน รถมีลักษณะเป็นรถเก๋งสีบรอนเทา มองดูเเล้วเท่ เเวววับ น่านั่งมากๆ การเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้ราบลื่นไปได้ด้วยดี โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางอยู่ประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง ป๊าของไอ้เเมนขับรถมาจอด ณ โรงเเรมเเห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งจัดการเรื่องของห้องพักเเละค่าใช้จ่ายให้กับพวกเราด้วย ตอนเเรกผมเองก็เตรียมเงินมาเเล้ว เเต่ดูเหมือนป๊าไอ้เเมนเขาใจป๋า เลยเปย์ห้องพักให้พวกเราทั้ง 3 คนหมดเลย
ทุกอย่างราบลื่นลงตัว จนมาถึงจุดไคลเเม็กซ์คือการออกไปเล่นน้ำทะเล วันนี้อากาศเป็นใจมาก ไม่มีเมฆครึ้ม เเดดเองก็ไม่เเรง ทำเอาพวกเราสามคนยิ้มเเก้มปริเลยทีเดียว เเหม ก็นานๆทีจะได้มาเที่ยวทะเลบ้างอะไรบ้าง พวกผมลงไปเล่นน้ำกันตามปกติ มีตัวผมเอง ไอ้เเมน เเละน้องเจเจ ซึ่งพวกเราเป็นเหล่าชายฉกรรจ์ล้วน เลยไม่มีปัญหาอะไรมากมาย เวลาล่วงเลยผ่านไปจนตกเย็น เรียกได้ว่าพวกเราเล่นน้ำกันนานมาก ด้วยความที่ว่าไม่ได้เจอทะเลมาตั้งนานเเสนนานด้วยล่ะมั้ง เลยทำให้เล่นกันซะนานขนาดนี้
" เฮ้ย เราว่าพวกเราควรกลับโรงเเรมกันได้เเล้วมั้ง " ผมเอ่ยปากถามเพื่อนทั้งสองคน
" โห่ ไอ้โจ้ ไหนแกบอกอยากเล่นน้ำนานๆไงวะ นี่มันพึ่งผ่านไปกี่ชั่วโมงเอง " ไอ้เเมนตอบกลับ
" นั่นสิพี่โจ้ พวกเราเล่นกันต่ออีกสักหน่อยไม่ได้เหรอครับ " น้องเจเจเองก็ขอร้องอีกคน
" ตามใจทั้งสองคนละกัน เดี๋ยวเราเล่นต่อเป็นเพื่อนก็ได้ " ผมเองเห็นดังนั้นก็กล่าวปฏิเสธออกไปไม่ได้
" เราว่าตรงนี้คนมันเยอะว่ะ เราลองว่ายออกไปฝั่งทางนู้นดีมั้ย คนน้อยดี จะได้ไม่มีเสียงดังรบกวน " ไอ้เเมนพูดพร้อมชี้ไปชายหาดอีกฝั่ง
" จะดีเหรอวะ มันเริ่มมืดเเล้วนะเว้ย " ผมตอบกลับ
" อ๊ะ พี่เเมนรอผมด้วย " จู่ๆไอ้เเมนมันก็รีบว่ายออกไปอีกฝั่งที่ที่ไม่มีคน น้องเจเจเห็นดังนั้นเลยรีบตามออกไปบ้าง
" เฮ้อ ไอ้พวกนี้ " ผมถอนหายใจตัดพ้อออกไป
พอมาบริเวณชายหาดเเห่งนั้น ฟ้ามันก็เริ่มมืดเเล้ว เเถมที่นั่นยังเงียบ ไร้วี่เเววของผู้คน อีกต่างหาก มีเพียงเเสงไฟจากตึกใหญ่รอบหาดเเละเเสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมา พ่อค้าเเม่ค้าก็ไม่มีสักเจ้าเดียว หรือว่าที่นี่มันคือสถานที่ปิดกันนะ ตัวผมเองก็ชักสงสัยเลยถามไอ้เเมนเเละน้องเจเจ
" เห้ยคิดว่า พื้นที่เเถวนี้ มันคือพื้นที่ปิดไม่ให้คนเข้ามารึเปล่าวะ? "
" ไม่หรอกๆ ทำเลออกจะดีขนาดนี้ เขาจะสั่งปิดไปเพื่ออะไรวะ " ไอ้เเมนตอบ
" นั่นสิครับ " น้องเจเจเสริม
' กา กา กา กา ' ทันใดนั้นเองจู่ๆก็มีฝูงกาบินมาจากที่ไหนไม่รู้ พวกมันมากันเป็นฝูงใหญ่ พร้อมทั้งยังบินผ่านหน้าพวกเรา
" ทำไมเรารู้สึกขนลุกเเปลกๆวะไอ้เเมน " ผมทักไอ้เเมนไป เพราะตอนนี้ร่างกายผมมันรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัว ขนทั่วร่างเองก็ลุกซู่ขึ้นมา
" ผมก็ขนลุกเหมือนกันนะพี่โจ้ " นี่เป็นครั้งเเรกที่น้องเจเจเห็นด้วยกันกับผม เมื่อผมหันไปมองน้อง น้องเเกก็มีอาการสั่นกลัวขึ้นมาจริงๆ
" เฮ้ย พวกแก เราเห็นคนกลุ่มใหญ่ว่ายน้ำอยู่กลางทะเลว่ะ ลองไปทักทายพวกเขาหน่อยมั้ย อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไงที่ได้เห็นบรรยากาศดีๆเเบบนี้ "
" เห็นกับผีหน่ะสิ ไม่เห็นใครเลยนะเว้ย ไอ้เเมน มันเริ่มเเปลกๆเเล้วว่ะ เรากลับโรงเเรมเถอะ " ผมตอบไอ้เเมนไป เมื่อกลางทะเลไม่มีใครเลย
" น้องเองก็ไม่เห็นใครเลยเหมือนกันนะพี่ " น้องเจเจตอบกลับ
สิ้นเสียงตอบกลับ จู่ๆไอ้เเมนมันก็ว่ายน้ำตรงดิ่งไปที่กลางทะเล โดยไม่สนใจคำพูดของพวกผมเลย พอมานึกดูอีกที ตัวผมเองเริ่มรู้สึกเเปลกๆตั้งเเต่ครั้งเเรกที่มาพื้นที่ชายหาดโซนนี้เเล้ว ทำไมที่นี่ถึงไม่มีผู้คน ไม่มีร้านค้า มีเเต่เพียงหาดทรายสีขาว เเละน้ำทะเลสีครามที่เเสนน่ากลัว
(ภาพจาก https://www.thehouse.online/story615/ )
" ไอ้เเมน ไอ้เเมน ไอ้เเมนโว้ยย " ผมตะโกนเรียกไอ้เเมนที่กำลังว่ายน้ำตรงไปกลางทะเลในยามค่ำคืน เเต่ผลปรากฏว่า ไอ้เเมน...ไม่ตอบกลับมา
ตัวผมรีบว่ายน้ำตามมันไป หวังว่าจะช่วยเตือนสติมันได้ เเต่จู่ๆสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น น้ำเริ่มไหลเเรงขึ้นๆๆ จนมันซัดตัวผมออกไปไกล จนเกือบจะเข้าหาไอ้เเมนได้เเล้ว เเต่ทันใดนั้นขาของผมก็เริ่มชา ส่วนล่างของร่างกายเหมือนรับรู้อะไรไม่ได้ ควบคุมอะไรไม่ได้เลย เเน่นอนว่าเมื่อขาชา ร่างของผมก็เริ่มจมลงไปในทะเล จังหวะนั้นผมหันกลับมาหาไอ้เเมน เเล้วสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันกลับเเปลกออกไป มีเงาสีดำคล้ายๆคนนับสิบเงา ได้ล้อมรอบตัวไอ้เเมนเอาไว้ พวกมันพยายามกดหัวไอ้เเมนลง สภาพของมันไม่ต่างอะไรจากผมตอนนี้เลย
ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ ช่วยผมที ผมกำลังจะจมน้ำ อ๊อกก
ไม่มีใครตอบรับ เเม้เเต่น้องเจเจตอนนี้ก็ไม่ได้ยินเสียงของผม เเน่นอนว่าพนักงานเองก็เเทบจะไม่ได้ยิน เพราะโซนที่พวกผมอยู่ มันห่างไกลออกไปจากผู้คนหลายเมตร ร่างกายของผมตะเกียกตะกายทุรนทุราย เพราะตอนนี้ระดับน้ำมันสูงเกือบจะมิดหัวเเล้ว ภาพความทรงจำหลายอย่างไหลเขามาในหัว ตั้งเเต่ตอนเด็กยันตอนโต นี่เรากำลังจะตายงั้นเหรอเนี่ย
" พวกข้าจะฆ่าพวกแก " จู่ๆเสียงปริศนาดังขึ้นรอบๆตัวผม น้ำเสียงทุ้มเเละใหญ่ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของนับสิบเสีย
" หึ หึ หึ หึ หึ " เสียงเหล่านั้นมันดังระงมรอบตัวจนกระทั่งมันเงียบลง นั่นเป็นเพราะตอนนี้ทั้งร่างของผมมันได้ดำดิ่งลงในทะเลเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว
จู่ๆในหัวผมนึกคำพูดของพ่อก่อนจะออกมาจากบ้านได้ ว่าถ้าหากสวมพระนี้ไว้ที่คอ เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด ท่านจะปกป้องเราจากภัยอันตรายนั้นได้ ด้วยเหตุนี้เองผมจึงหยิบสร้อยออกมาพร้อมทั้งตั้งจิตอธิฐาน นึกถึงพ่อเเม่ผู้มีพระคุณ นึกถึงคุณงามความดี พร้อมทั้งขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำพลาดไป หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของผมก็ถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ เเต่เเรงกายมันหมดเเทบไม่เหลือเเล้ว
" พี่โจ้ พี่โจ้ " เสียงของใครคนหนึ่งดังก้องอยู่ในหัว ท่ามกลางความมึนงงของผม
" ผมเห็นพวกพี่ทั้งสองคนจู่ๆก็ว่ายลงทะเลไป เลยวิ่งไปตามพี่การ์ดมาช่วย " สิ้นสุดคำพูดคำก็รู้ทันทีว่านี่คือเสียงของน้องเจเจ
" ตอนเเรกพี่การ์ดเขาก็บอกนะว่าไม่พอเห็นวี่เเววของใคร เเต่จู่ๆก็เห็นร่างเงาสีดำๆอยู่กลางทะเล เลยลองว่ายไปหาดู ปรากฏว่าเจอพวกพี่จนได้ "
หลังจากเหตุการณ์นั้นหลายสิบวัน เรื่องราวทุกอย่างจบลงด้วยดี ผมเเละไอ้เเมนถูกพี่การ์ดประจำชายหาดช่วยเอาไว้ได้ เเต่ก็ยังคงเป็นคำถามที่วกวนอยู่ในหัวผมตลอดว่า เงาสีดำที่อยู่กลางทะเลนั้นคือใครกันเเน่นะ เขามาดีหรือมาร้าย ทำไมถึงทำร้ายเรา เเต่สุดท้ายก็ช่วยเราเอาไว้ในช่วงที่พี่การ์ดกำลังตามหาร่องรอย จนกระทั่งดึกคืนหนึ่ง ในระหว่างที่ผมเเละพ่อกับเเม่กำลังนั่งกินข้าวกัน ผมได้เล่าประสบการณ์นั้นให้พวกเขาฟัง ฝ่ายเเม่นั้นไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ เลยได้เเต่อธิบายเเนววิทยาศาสตร์ไป ส่วนฝ่ายพ่อนั้นได้บอกผมไปว่า
" ดีเเล้วที่เเกรอดมาได้ นี่เเกรู้มั้ยว่าที่ภูเก็ตน่ะ เคยมีเหตุการณ์สึนามึถล่ม คนเนี่ยตายเกลื่อนหลายร้อยศพเลยล่ะ " พ่อเล่าเรื่องราวให้ผมฟัง
(ภาพจาก https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_683063 )
" บางคนก็ตายไปโดยที่ไม่มีญาติมารับเอาร่างกลับไปทำพิธีกรรมทางศาสนา จนสุดท้ายก็กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่เเล้วนั้น " พ่อกล่าว
" พวกเขาต้องการหาตัวตายตัวเเทน เพื่อที่จะทำให้ตัวเองได้ไปเกิดใหม่ เเล้วให้คนอื่นมาตายเเทนตัวเองยังไงล่ะ "
" นี่ผมเกือบจะกลายเป็นผีเฝ้าทะเลไปซะเเล้ว " ผมตอบกลับพ่อไป
" คราวหน้าก็จำเอาไว้ว่าอย่าเข้าไปในที่ที่มันลับสายตาผู้คน เซฟตัวเองให้ดี ท้องทะเลมันน่ากลัว มีหลายศพที่เสียชีวิตไปกลางทะเล พรุ่งนี้เช้าเเกเองก็อย่าลืมซื้อของมาใส่บาตร เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พวกเขาบ้างล่ะ เเล้วก็อย่าลืมไปขอบคุณน้องเจเจมันด้วย " พ่อกล่าว
" ครับ " ผมตอบกลับพ่อไป ต่อจากนี้ตัวผมคงไม่กล้าลงไปเล่นน้ำทะเลตอนกลางคืนอีกนานเลย
ความคิดเห็น