การรักษาแชมป์ นั้นยากกว่าการเป็นแชมป์ คำพูดประโยคนี้ แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของลิเวอร์พูล ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากยิ่งแล้ว เมื่อพ่ายแพ้คาบ้านต่อคู่ปรับแกร่งอย่างเรือใบ สีฟ้า แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้ดีในการแก้ไขปรับปรุงทีมและความยอดเยี่ยมของฟอร์มการเล่น ที่บุกมาเด็ดปีกหงส์แดง คารังแอนฟิลด์ อย่างเจ็บปวด และแน่นอนว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ กำลังใจสำหรับเหล่าเดอะค็อป ทั่วโลก ก็หลั่งไหลไปสู่ทีมรักไม่หยุดหย่อน ผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปดังคาดหวัง หลังจากที่พ่ายเรือใบสีฟ้า ทำให้สถานการณ์การป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ของลิเวอร์พูล ว่ากันตามทฤษฎี ก็เป็นไปได้ยากแล้วที่จะรักษาแชมป์ในฤดูกาลนี้ไว้ได้ ในบทความนี้ ในฐานะแฟนหงส์แดง อยากเสนอบทวิเคราะห์สภาพจิตใจของนักเตะลิเวอร์พูล และคาดการณ์แนวโน้มการแข่งขันในศึกฟุตบอลต่าง ๆ ทั้งถ้วยใบใหญ่ในยุโรป และพรีเมียร์ลีกที่เหลือ ว่า น่าจะเป็นอย่างไร ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของทีมลิเวอร์พูล ดังนี้ วิเคราะห์ 7 ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของทีมลิเวอร์พูล ประเด็นแรก ขาดเธอ เหมือนขาดใจ คงต้องยอมรับแบบข้าง ๆ คู ๆ ว่า การขาดหายไปของพี่ยักษ์ในแดนหลังอย่างฟานไดจค์ ทำให้แผงหลัง เสียขบวน เสียทรง ขาดตัวหลักที่ไว้วางใจในการยืนเป็นป้อมปราการหลัก ซึ่งว่ากันไปตามสถานการณ์ที่ใช้ผู้เล่นตำแหน่งกองกลางอย่างฟาบินโญ่ และกัปตันเฮนโด้ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ต้องเข้าใจว่า ธรรมชาติและความเป็นมืออาชีพในตำแหน่งที่ตนเองถนัดนั้น ย่อมดีกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าในระยะยาว ดูผลประกอบการได้จากการเสียประตูแทบทุกนัดและเสียประตูร่วม 30 ประตูแล้ว เกือบเท่ากับทีมเล็ก ๆที่อยู่โซนล่างตาราง ประเด็นที่ 2 แดนกลาง ที่ไร้ความเสถียรภาพ เป็นที่รู้กันดีว่า คล็อปป์นั้น จะใช้ผู้เล่นแดนกลางเป็นผึ้งงาน มดงาน ที่ใช้พลังเยอะในการคุมเกม เชื่อมเกมและจัดการเกมรับ นับได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของทีมมาตลอด และการสับเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นแดนกลาง ที่ขาดทั้งฟาบินโญ่และกัปตันเฮนโด้ เพื่อคุมเกม ตัดเกมและประคองเกมรับ ที่ขาดพี่ยักษ์อย่างฟานไดจค์ ในแดนหลังไป ทำให้ผู้เล่นในแดนกลาง พะวงกับการช่วยเกมรับ และนักเตะตัวความหวังอย่าง ติอาโก้ ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์เพื่อเปลี่ยนแดนกลางให้ได้เปรียบมากกว่าที่เป็นอยู่ ประเด็นที่ 3 ประสิทธิภาพเกมรุกของสามประสาน ไม่มีใครปฏิเสธว่า ผู้เล่น 3 ประสานในแดนหน้า เป็น 3 ประสานที่ดีที่สุด เพราะสร้างความสำเร็จและมีผลลัพธ์จากการถล่มประตูเป็นกอบเป็นกำ แต่ในฤดูกาลที่จะต้องรักษาแชมป์นี้ มีแต่โม ซาลาห์ ที่ยังคงความยอดเยี่ยมอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งดูได้จากค่าเฉลี่ยของการทำประตู แต่นั่นยังไม่ดีพอสำหรับทีม เพราะทั้งเฟอมิโน่และมาเน่ ก็หลุดฟอร์มไปเยอะพอสมควร ประเด็นที่ 4 การตัดสินใจในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นในแต่ละนัด จากการสังเกตพฤติกรรมของคล็อปป์ในการปรับเปลี่ยนผู้เล่นและรูปแบบการเล่นในแต่ละเกม ที่ยังคงเน้นระบบการเล่น 4-3-3 เป็นหลัก แต่จะพบว่า ความเร็วในเกม ลักษณะการเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายของคู่แข่ง และสไตล์การเล่นที่คล้ายกันในหลาย ๆ เกม รวมทั้งการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อทีมเป็นรอง จะขัดใจแฟนบอลหรือค้านความรู้สึกของผู้ชม ซึ่งการตัดสินใจเช่นนั้น ก็เป็นเพราะข้อจำกัดของคุณภาพผู้เล่นที่ถูกคัดจากการซ้อมอย่างหนักก่อนแต่ละเกมการแข่งขัน โดยบางเกมนั้น มีการจัดตัวผู้เล่นที่คาดไม่ถึงลงสนาม จนถูกตั้งคำถามอย่างน่าสงสัย ประเด็นที่ 5 ตัวสำรองหรือผู้เล่นทางเลือกในการเปลี่ยนเกม ว่าไปแล้ว อันที่จริงผู้เล่นสำรองของลิเวอร์พูล ที่ลงไปในช่วงสถานการณ์ที่ทีมตกเป็นรอง หรือต้องการรักษาผลการแข่งขัน ก็ไม่ได้มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกองหน้า กองกลาง หรือกองหลัง ที่ยังต้องลุ้นจนนั่งติดเก้าอี้ไม่ได้ ว่าจะทำผลงานได้ดีหรือไม่ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้ลิเวอร์พูล ต้องเผชิญกับงานยากในการรักษาแชมป์ ประเด็นที่ 6 ใคร ๆ ก็อยากล้มแชมป์เก่า แน่นอนว่า ทั้งทีมเล็ก ทีมใหญ่ ต่างก็อยากเอาชนะแชมป์เก่าอย่างหงส์แดง เพราะมันคือศักดิ์ศรี ความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของทุกทีม ที่เอาชนะแชมป์เก่าได้ ซึ่งจะเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนได้จากเกมที่พ่ายต่อนักบุญ โดยผู้จัดการทีมนักบุญ ถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อสิ้นเสียงนกหวีด นอกจะนี้ จะเห็นทีมเล็ก ๆ ทีมกลาง ๆ ตั้งขบวนรถบัส เมื่อต้องเผชิญกับลิเวอร์พูล และหากเขาทำได้ดีมาก ๆ ก็จะเจาะเกมรับทางกราบขวา ที่เป็นบ่อน้ำมันของหงส์แดง จนทำให้มีชัยชนะต่อทีมแชมป์เก่า ประเด็นที่ 7 สภาพจิตใจของนักเตะหงส์แดง หลังจากผ่านความพ่ายแพ้คาบ้านในแอนฟิลด์ 3 นัดติด และพ่ายแพ้ต่อเกมที่เสียประตูแบบไม่ควรจะเป็นในเกมกับเรือใบสีฟ้า ย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้เล่นแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะเป็นการบ้านหนักของผู้จัดการทีมอย่างคล็อปป์ ที่จะต้องปลุกเร้าความเชื่อมั่น รวมพลังผู้เล่น ใช้จิตวิทยาในการให้กำลังใจลูกทีม เพื่อให้เดินหน้าต่อไปในสถานการณ์และศึกการแข่งขันที่เหลือ ทั้งศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกและพรีเมียร์ลีก โดยมีเป้าหมายติดอันดับท็อปโฟว์ ให้ได้ และแน่นอนว่า สถานการณ์ที่ขับเคี่ยว แก่งแย่งพื้นที่เล่นฟุตบอลยุโรปของทีมต่าง ๆ ย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะหงส์แดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ในทางทฤษฎี ที่บอกว่า ศึกยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร แต่ในทางทฤษฎีการรักษาแชมป์ของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ น่าจะปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว เพราะการเผชิญหน้ากับคู่ท้าชิงอย่างเรือใบสีฟ้า ก็พิสูจน์แล้วว่า ในฤดูกาลหน้า ทางลิเวอร์พูล จะต้องทำการบ้านอย่างหนัก ทั้งในเรื่องของรูปแบบการเล่น ที่หากยังคงสไตล์เช่นนี้ ก็คงถูกจับทางได้หมด และการเลือกหาผู้เล่นหน้าใหม่ ผู้เล่นที่ซื้อมาสำรองไว้พร้อมใช้งาน โดยการจัดระบบทีม ซักซ้อมแผนการเล่น และปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้มีความหลากหลายและคงความเป็นเครื่องจักรสีแดง ให้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ในฐานะแฟนบอลหงส์แดงอย่างเรา ๆ ก็คาดหวังว่า ทีมรักอย่างลิเวอร์พูล จะกลับมาสู่มาตรฐานการลุ้นแชมป์ อีกครั้ง...ด้วยปรัชญาของทีมที่ว่า You Will Never Walk Alone ที่เหล่าเดอะค็อปทั่วโลก ไม่เคยถอดใจ และไม่ยอมแพ้ต่อการเชียร์ทีมรัก... เครดิตภาพที่ 1 https://sport.trueid.net/detail/Vkq420dJNVBa เครดิตภาพที่ 2 https://sport.trueid.net/detail/Vkq420dJNVBa เครดิตภาพที่ 3 https://sport.trueid.net/detail/v9ZRVQvK1mG9 เครดิตภาพที่ 4 https://sport.trueid.net/detail/RJEjN4RX4rqz เครดิตภาพปก https://sport.trueid.net ออกแบบภาพปกโดยเปี๊ยกกี้ หงส์แดง ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !