อื่นๆ
ถอดสรุป 24 ข้อคิดจากท่านว. วชิรเมธี "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้น...ดีเสมอ"

โลกปัจจุบันมักสอนให้คนมองบวก
การมองบวกมี 2 แบบ คือ
การมองแบบคนโง่
และการมองแบบคนมีปัญญา
=======================
1) มองแบบคนโง่
คือ ไม่เป็นไรหรอก
มันมีปัญหากับทุกคนแหละ
แล้วไม่ยอมแก้ไขให้ดีขึ้น
นี่คือ สิ่งที่คนโง่มอง
====================================
2) มองแบบคนฉลาด หรือมีปัญญา
สมมติถ้ามีปัญหา เขาจะคิดว่า...
ปัญหาเกิดขึ้นมาเพื่อมอบปัญญาให้กับเรา
นี่คือ สิ่งที่คนฉลาดมอง
===================================
3) การมองแบบคนโง่ ไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้น
เป็นการปลงโดยไม่มีปัญญามากำกับ
เป็นการปล่อยแทน ไม่ใช่ปลง!
ฉะนั้น การมองบวกมีอยู่ 2 ขั้นตอน
.
(3.1)ยอมรับความจริง คือ ไม่หนีความจริง
ว่าได้เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว
.
(3.2)รับมือกับความจริง ด้วยทัศนคติเชิงบวก
ในเมื่อมันหนีไม่พ้น
.
เช่น คุณป่วย คุณอย่ามาหลอกตัวเอง
Advertisement
Advertisement
ว่าฉันไม่ได้ป่วยสักหน่อย
คนมองบวก คือ ป่วยก็ป่วย เอาล่ะ ยอมรับ
แต่ทางแก้คือ ป่วยเป็นโอกาส
===================================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Karin Henseler จาก Pixabay
ตอนท่านอาจารย์พุทธทาสป่วย
วันหนึ่งหมอสั่งต่อเติม
ห้องป้องกันการติดเชื้อให้ท่าน
และสั่งนักสั่งหนา ว่าห้องนี้มันจะมีฝุ่นไม่ได้
.
สักพักหนึ่งมีหมอมาตรวจที่มุมห้องมีใยแมงมุม
หมอใหญ่โกรธมาก
“หลวงพ่อ! ใยแมงมุมมาอยู่ในห้องได้ไง
นี่มันห้องปลอดเชื้อนะ”
หลวงพ่อบอก
.
“หมอ แกด่าใคร อาตมาเนี่ยสั่งเอง”
“สั่งยังไง”หมอใหญ่ถาม
“ก็แมงมุมมันมาชักใยน่ะ
อาตมาอยากรู้ว่ามันไม่ได้จบสถาปัตย์มันสร้างบ้านยังไง”
เห็นไหม นี่คือสุดยอดคนป่วย
เอาปัญญาแม้กระทั่งจากแมงมุม
==========================
4) เวลาที่คนด่าเรา
ถือเป็นเครื่องวัดความดังของเรา
Advertisement
Advertisement
ถ้าไม่ดัง ไม่โดน
ใครจะมาเสียเวลากับคนกระจอก
==========================
5) ไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
หมาที่ตายแล้ว ใครเขาจะเอาเท้าไปเขี่ย
แต่ถ้ามีคนเขี่ยคุณทุกวัน
แปลว่าคุณไม่ธรรมดา
===========================
6) การที่เขามาด่าเรา การที่เขามาวิจารณ์เรา
เหมือนเขามาขีดเส้นตายให้เรา
ว่าเราเนี่ยสำคัญ
การที่เราทำอะไรก็ตาม
แล้วมีคนสนใจอยู่ตลอดเวลา
แปลว่าเราเป็นคนมีค่าของสังคม
===========================
7) สนุกทุกงาน สำราญทุกคน
เวลาใครโยนงานยากๆให้เรา
ให้รับมา และทำไปเลย
ถ้ามันดี เราก็ต่อยอด
แต่ถ้ามันไม่ดี เราก็เก็บไว้เป็นบทเรียนไป
=============================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย truthseeker08 จาก Pixabay
8) อยู่กับคนต้องให้เกียรติคน
อยากให้เขารักต้องให้เกียรติเขาก่อน
และเคารพเขาก่อน
อย่ารอให้ใครมาเคารพเราก่อน
Advertisement
Advertisement
=============================
9) เอาใจเขามาใส่ใจเรา
สิ่งไหนที่เราไม่ชอบ
อย่าไปทำสิ่งนั้นกับคนอื่น
=============================
10) ให้มองทุกๆปัญหา เป็นความท้าทาย
ให้มองว่าผู้ใหญ่เอ็นดูเรา
จึงมอบหมายงานนี้ให้เรา
แทนที่จะเป็นคนอื่น
=============================
11) ถ้ากลัวอะไร แล้วไม่สู้
จะต้องกลัวไปตลอดชีวิต
แต่ถ้ากลัว แล้วสู้ซะ
จากนั้นจะไม่มีอะไรให้กลัวอีกแล้ว
=============================
12) ให้มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความท้าทาย
อย่าไปกลัว อย่าไปโทษเวร โทษกรรม
=============================
13) เวลาทำงานทำด้วยความสนุกสนาน
อย่าทำไปบ่นไป
ให้คิดว่าเมื่อไหร่จะเช้านะ
อยากไปทำงาน
.
เหมือนสตีฟจ๊อบ
เขาตื่นตี 3 มารอพระอาทิตย์ขึ้น
เพราะอยากไปทำงาน
=============================
14) คนที่เป็นนักจับผิด จิตไม่ดีทุกวัน
เห็นแต่เรื่องเน่าๆของคนอื่น
สุดท้ายตัวเองก็จะคายแต่สิ่งเน่าๆออกมา
.
กินขยะเข้าไป คายขยะออกมา
กินดอกไม้เข้าไป คายดอกไม้ออกมา
กินสิ่งใดเข้าไป ย่อมคายสิ่งนั้นออกมา
=============================
15) คนพูดไม่ดี ข้างในก็ไม่ดีหรอก
อยากรู้ข้างในให้ชวนเขาพูด หรือฟังเขาพูด
อีกวิธีไปส่องเฟซเขาก็รู้
ดูคำพูดคำจาแต่ละอย่างที่เขาโพสต์ไว้
แค่นั้นก็รู้จนหมดไส้หมดพุงแล้ว
=============================
16) คนที่คิดลบจะพูดลบ ทำลบ
พูดถึงแต่สิ่งไม่ดีของคนอื่น
คนพวกนี้เหมือนหนอนอยู่ในส้วม
คือกินของเน่า!
แต่กลับยังคิดว่ายังได้กินของดี
==============================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Hans Braxmeier จาก Pixabay
17) ถ้าคุณจับผิดเขา
= คุณสะท้อนความเน่าของคุณออกมา
อย่าริษยา เหมือนการจุดไฟเผาตัวเองทุกคืนทุกวันไม่มีความสุข
คนอื่นเผาเรา เราพอรับได้
แต่เราเผาตัวเองนี่คือ โง่เลย
=============================
18) ริษยา 1 คนเหมือนมะเร็งที่ลุกลาม
ริษยา 100 คน มะเร็งในร่างเรา
ยิ่งลุกลามเข้าไปใหญ่
จิตใจเรายิ่งต่ำลงๆ
เราจะทำสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร
==============================
19) อย่าเสียเวลากับความหลัง
ความหลังเหมือนสิ่งที่แบกอยู่
บนหลังเรา ดั่งเป้ใส่ของ
ชีวิตเหมือนการเดินขึ้นเขา
เราเดินขึ้นไป เพื่อทำคุณงามความดี
แต่มีเป้หนักๆบนหลังมัน
จะเดินสะดวกไหม?
==============================
20) อยากเดินไปที่สูงต้องทำตัวเบา
ปลดเป้ที่หลังออก จะได้เดินสบายๆ
อะไรที่จบไปแล้ว ให้มันจบ
อย่าไปดึงไว้ อย่าไปรั้งไว้
แค่ปล่อยก็ลอยตัวแล้ว
.
อย่าไปยึดติดกับความหลัง
อย่าให้อดีตมากรีดปัจจุบัน
อะไรที่จบแล้วให้มันจบไป
อย่าไปย้ำคิดย้ำทำ
=============================
21) อย่าทำเพราะไม่รู้จักพอ
ทำอะไรให้รู้จักพอเหมาะพอดีกับตัวเอง
พอดี แล้วมันดี ถ้าไม่พอ ทำให้เกิดทุกข์
.
เหมือนเราเคยยกน้ำหนัก 100 ปอนด์
แล้วเราดันดัดจริตไปยก 150
หลังหักได้นะ
อะไรที่เกินพอดี ถ้าคุณไปยก คุณจะไม่ไหว
หลังมันจะหัก จิตใจมันจะหัก
===============================
22) มีคนจำนวนมากที่ทำอะไรไม่พอเหมาะ
ไม่พอดี ไม่ดูกำลังตัวเอง
กินข้าวไม่ดูท้องตัวเอง ก็ท้องอืด
ใช้จ่ายไม่ดูกระเป๋าตัวเอง ก็ทุกข์เพราะเงินทอง
.
ประดับประดาเนื้อตัวตัวเอง
ไม่ดูว่าควรจะแต่งแค่ไหน
รายได้ต่ำ แต่รสนิยมสูง
ทุกอย่างควรอยู่บนความพอเหมาะพอดี
==============================
23) ตัวอย่างของความพอดี
คือ น้ำในลูกมะพร้าว
ลองเอามะพร้าวมาลูกหนึ่งและเฉาะออกมา
น้ำในลูกมะพร้าว ไม่พร่องและไม่ล้น
.
เคยเห็นไหม จู่ๆ มองต้นมะพร้าว
แล้วน้ำมันไหลลงมามีไหม?
น้ำมะพร้าวไม่เคยล้นจากกะลา
และไม่เคยพร่อง พอดีเสมอ
=============================
24) สายบัวเหมือนกัน อยากรู้ความลึกของสระ
ให้ดึงสายบัวขึ้นมา น้ำแค่ไหนสายบัวแค่นั้น
ก้านบัวบอกลึกตื้นชลธาร
คือ ดึงบัวขึ้นมา มันก็เท่ากันพอดี
=============================
แอดแกะบทความนี้มาจากคลิปของท่านว.วชิรเมธี
ทางช่องยูทูบของท่าน https://www.youtube.com/watch?v=lzWlDJeW0gA
.
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ใครไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุกการติดตามที่มีให้กันเสมอมา ^-^
===============================
เรียบเรียงโดย : Neemmy BK
Blockdit : https://www.blockdit.com/neemmy.bk
เครดิตรูปภาพหน้าปก : ภาพโดย Karin Henseler จาก Pixabay
ความคิดเห็น






