10 หนังสงครามโลกที่คุณไม่ควรพลาด

(ที่มารูปภาพ: https://pixabay.com)

1. Empire of the sun (1987)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 7.7/10

เรื่องย่อ: เรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของเด็กชายชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อว่าเจมี่ เขาอาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้กับพ่อแม่ของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งจากความวุ่นวายระหว่างญี่ปุ่นและเซี่ยงไฮ้ ทำให้เขาถูกจับผลัดพรากจากพ่อแม่ และต้องใช้ชีวิตอยู่ในค่ายเชลยของญี่ปุ่นจนกว่าสงครามจะจบท่ามกลางสงครามของผู้ใหญ่ที่ดำเนินไป ก็ได้เกิดมิตรภาพอันงดงามระหว่างเจมี่และเด็กชายชาวญี่ปุ่นขึ้น ที่จะชวนให้เราซึ้งกินใจไปกับมิตรภาพ     ที่งดงามในช่วงสงครามอันโหดร้าย

2. Schindler's List(1993)(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 8.9/10

เรื่องย่อ: หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของชินด์เลอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เบื้องหน้าเขาเป็นนักธุรกิจที่มีอำนาจและสนิทสนมกับพรรคนาซีเป็นอย่างดี แต่เบื้องหลังเขาได้แอบช่วยชาวยิวนับหลายพันคนโดยใช้ข้ออ้างทางธุรกิจ เนื่องจากเขาทนไม่ไหวกับความโหดร้ายที่ชาวยิวได้รับอย่างไม่ยุติธรรม หนังเรื่องนี้ทำให้เห็นถึงความโหดร้ายในช่วงสงครามและสิ่งที่ชาวยิวต้องเจอ และลุ้นไปชินด์เลอร์ให้ช่วยเหลือชาวยิวให้รอดพ้นจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

5. Pianist (2002)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 8.5/10

เรื่องย่อ: เรื่องราวอ้างอิงชีวประวัติของวลาดิสลอว์ สปิลมัล เขาเป็นนักเปียโนที่อาศัยอยู่กับครอบครัวในเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ จากเดิมครอบครัวของเขาเคยอยู่อย่างสุขสบาย มีกินมีใช้ พอนาซีบุกเข้ายึดโปแลนด์ได้ก็เริ่มมีการกวาดต้อนและจำกัดเสรีภาพของชาวยิวมากขึ้นเรื่อยๆ      ในท้ายที่สุดก็มีการกวาดต้อนชาวยิวไปค่ายกักกันเชลย หนังเรื่องนี้จะทำให้เห็นความโหดร้ายที่ชาวยิวต้องเจอ และการเอาตัวรอดของสปิลมันที่    ถูกตามล่าโดยพวกนาซี

6. Fury (2014)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 7.6/10

เรื่องย่อ: สร้างจากเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของหน่วยรถถังกองกำลังพันธมิตรที่มีกำลังเพียงหยิบมือแต่ต้องบุกการป้องกันอันแน่นหนาของนาซีเข้าไปยึดเบอร์ลินให้ได้ โดยหนังจะเล่าเรื่องของรถถังฟิวรี่ที่นำโดยจ่าโคลลิเยร์ หรือวอร์แดดดี้ซึ่งเป็นหัวหน้ารถถังฟิวรี่ กับลูกน้องอีกสี่คน ที่ต้องร่วมมือกันต่อกรกับกองกำลังของนาซีและรถถังที่มีประสิทธิภาพจนมีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของนาซีให้ได้

7. Hacksaw Ridge (2016)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 8.1/10

เรื่องย่อ: เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของเดสมอนด์ ดอสส์ แพทย์ประจำกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเป็นนายทหารที่ปฏิเสธการใช้อาวุธ การฆ่าคน หรือความรุนแรงทุกรูปแบบ สิ่งที่เขาต้องการคือการได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเท่านั้น ซึ่งกว่ากองทัพจะยอมรับความต้องการของเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อถูกส่งเข้าไปในสนามรบเดสมอนด์ก็ได้แสดงวีรกรรมที่กล้าหาญช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บโดยไม่คิดชีวิต นอกจากนี้หนังเรื่องนี้ยังได้แทรกประเด็นของศาสนาและความศรัทธาไว้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

8. Dunkirk (2017)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 7.9/10

เรื่องย่อ: เรื่องราวของยุทธการดันเคิร์กที่เกิดขึ้นจริงในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าทหารของอังกฤษและฝรั่งเศษเพลี่ยงพล้ำให้แก่ฝ่ายศัตรู และถูกปิดล้อมไว้ที่ชายหาดเมืองดันเคิร์ก ซึ่งหากยังปล่อยไว้ต่อไปก็คงจะกลายเป็นเป้านิ่งให้ทหารฝ่ายนาซีฆ่าทิ้งและเสียกำลังพลไปอย่างมากมาย เหล่าชาวบ้านและชาวประมงจึงร่วมมือกันนำเรือซึ่งไม่มีอาวุธหรืออะไรที่ใช้ในการป้องกันหรือทำสงครามได้เลยออกไปช่วยเหลือทหารอังกฤษและฝรั่งเศษที่ถูกปิดล้อมอยู่

9. Midway (2019)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 6.7/10

เรื่องย่อ: เรื่องราวปฏิบัติการมิดเวย์ ในปี 1942 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถือว่าเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้อเมริกาพลิกมานำญี่ปุ่นได้หลังจากที่อเมริกาโดนญี่ปุ่นถล่มที่เพิร์ลฮาเบอร์แบบไม่ทันตั้งตัวจนได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งปฏิบัติการการนี้เกิดหลังจากเหตุการณ์ที่เพิร์ลฮาเบอร์ 6 เดือน  โดยญี่ปุ่นวางแผนที่จะยึดเกาะมิดเวย์อะทอลล์ ที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างกลางสหรัฐและญี่ปุ่น จึงเกิดการทำต่อสู้กันทางอากาศระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่นขึ้น

10. 1917 (2019)

(ที่มารูปภาพ: https://www.imdb.com)

คะแนน IMDb 8.3/10

เรื่องย่อ: 1917 เรื่องราวของสองทหารหนุ่มเบรค และสกอฟิลด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยทั้งสองได้รับภารกิจพิเศษที่ต้องรีบไปแจ้งข่าวให้ทหารฝ่ายเดียวกันที่มีกำลังพลกว่า 1600 นาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีพี่ชายของสกอฟิลด์อยู่ด้วย ให้ยุติการโจมตีในวันรุ่งขึ้นให้ทันเวลา ก่อนที่จะเพลี่ยงพล้ำให้กับฝ่ายศัตรู ซึ่งในระหว่างการเดินทางก็มีอุปสรรคมากมายที่ชวนลุ้นให้เอาใจช่วยทหารทั้งสองให้รอดไปได้ นอกจากนี้ภาพยนต์เรื่องนี้ยัง  ถ่ายทำแบบ long take ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เดินทางฝ่าอันตรายไปกับเบรค และสกอฟิลด์อีกด้วย