เพลง

10 เรื่องจริง Last Christmas ที่คุณอาจไม่เคยรู้

1.2k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
10 เรื่องจริง Last Christmas ที่คุณอาจไม่เคยรู้

ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งปี ที่เรียกว่าหลายคนรอคอย นั้นคือเทศกาลแห่งความสุขอย่าง "คริสต์มาส"​ เทศกาลที่เป็นที่สุดของความอบอุ่นมาก ๆ และมีเพลงประจำเทศกาลที่มากมาย เพลงที่เรามักได้ยินอยู่คุ้นหูอย่าง "Last Christmas" ก็เป็นหนึ่งในบทเพลงที่ยอมรับฟังนั้นสูงมาก ๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสทุกปี

ซึ่ง "Last Christmas" เป็นเพลงคลาสสิกในช่วงวันหยุดปี 1984 โดยศิลปินวง Wham! ที่ซึ่งเป็นคู่หูเพลงป็อปอย่าง George Michael และ Andrew Ridgeley จากอังกฤษโดยเพลง "Last Christmas" เป็นเพลงรักที่ไม่เหมือนใคร โดยเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง ความรักที่ถูกทรยศ โดยมีวันคริสต์มาสเป็นจุดอ้างอิงของเวลา และนั่นคือความอ่อนไหวทางอารมณ์ที่จับใจใครก็ตามที่ได้ฟัง แม้ว่ามันอาจจะดูเศร้า แต่มันก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คน และเป็นเหมือนแสงสว่างในวันเทศกาลนี้ ด้วยเนื้อเพลง และทำนองเพลงที่ฟังดูง่าย ๆ จึงสามารถฟังได้ทุกวัยจริง ๆ

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/get/g60b6ed7f2e230c4f38e260258248df6d8c244eb9becbf414a018dd64677a0d24e5fc3b360bccefce6ec6911a365d12eedf6b481e2dbe97d64f50e5c85e36c7e3_1920.jpg

และนี่อาจจะเป็น 10 เรื่องจริงที่หลายคนไม่รู้ เกี่ยวกับเพลง "Last Christmas"


1. George Michael เขียน "Last Christmas" ในห้องนอนในวัยเด็กของเขา

“Last Christmas” เขียนขึ้นในวันหนึ่งของปี 1984 เมื่อ George Michael และ Wham! เพื่อนร่วมวง Andrew Ridgeley ไปเยี่ยมพ่อแม่ของ Michael ในขณะที่พวกเขากำลังนั่งดูทีวีอยู่ จู่ๆ ไมเคิลก็พุ่งขึ้นชั้นบนไปยังห้องนอนในวัยเด็กของเขา และแต่งเพลงคริสต์มาสสุดคลาสสิก ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง “ George แสดงการเล่นแร่แปรธาตุทางดนตรี โดยกลั่นกรองแก่นแท้ของคริสต์มาสเป็นดนตรี” Andrew กล่าว “การเพิ่มเนื้อเพลงที่เล่าเรื่องราวของความรัก ที่ถูกหักหลังนั้นถือเป็นประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญ และบ่อยครั้งที่เขาทำอย่างนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงหัวใจ”

Advertisement

Advertisement


2. “Last Christmas” ไม่ใช่เพลงคริสต์มาสจริง ๆ

ไม่มีอะไรใน "Last Christmas" ที่เกี่ยวกับซานต้า กวางเรนเดียร์ ต้นไม้ หิมะ หรืออะไรก็ตามที่เรามักเชื่อมโยงกับวันหยุด เพลงนี้เกี่ยวกับความรักที่ล้มเหลว ซึ่งเพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม เมื่อ George Michael มอบหัวใจให้ใครสักคน และจบลงในวันที่ 26 ธันวาคม เมื่อคนนั้นได้ทิ้งทุกสิ่งไปจากเขา


3. George Michael เขียนเพลงและเล่นเครื่องดนตรีเองเกือบทั้งหมด

ตามเวลาที่ Wham! บันทึก "Last Christmas" ในเดือนสิงหาคม ปี 1984 George Michael ควบคุมวงอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากการเขียนและ Produce เพลงแล้ว George Michael ยังยืนกรานที่จะเล่น Synthesizer รุ่น Roland Juno-60 ในสตูดิโออีกด้วย จริง ๆ มันเป็นกระบวนการที่ลำบาก เพราะเขาเล่นคีย์บอร์ดอย่างแท้จริงด้วย 2 หรือ 3 นิ้ว จนถึงระฆังเล็ก ๆ จากรถล้อเลื่อนหิมะ และเขายังเล่นอีกหลายเครื่องดนตรีด้วยตัวเอง

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/get/g8dec577c8bda09326bdafa3f7fb755461299fc2df21bca581f0629e0fd8a1444d3c03c669f936076018a2deece09e068f3ca0b0eca93c92b8cb3261e9c4be7ee_1920.jpg

4. “Last Christmas” ไม่ถึงอันดับ 1 ในชาร์ตสหราชอาณาจักร

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ การที่ Last Christmas ไม่ได้เป็นเพลงยอดฮิตในอังกฤษ แม้ว่าวง Wham! จะมีต้นกำเนิดจากอังกฤษก็ตาม เพราะแม้ว่า Last Christmas จะเป็นเพลงที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลแต่ก็ไม่ได้ขึ้นไปติด ชาร์ตที่ 1 ของอังกฤษ โดยสามารถขึ้นไปอยู่ที่ 2 เท่านั้น


5. Last Christmas ถูกฟ้องข้อหาลอกเลียนแบบจากเพลงอื่น

ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 บริษัทสำนักพิมพ์ Dick James Music ฟ้อง George Michael ในนามของนักเขียนเพลง “Can’t Smile Without You” ซึ่งเป็นเพลงรักที่ร้องโดย The Carpenters และ Barry Manilow และอื่น ๆ โดยกล่าวว่า Last Christmas มีทำนองที่คล้ายคลึงกัน และจำนวนโน้ตก็คล้ายจนคิดว่าเป็นการลอกเลียนแบบเพลงนี้ไป แต่สุดท้ายก็ถูกยกฟ้องเมื่อ Chris Porter ซึ่งเป็นช่างเทคนิคในการทำเพลงชุดนี้ นำเพลงเก่า ๆ ที่มีทางคอร์ดและทำนองคล้าย ๆ กันมาเปรียบเทียบกว่า 60 เพลง


6. "Last Christmas" ได้ถูกขับร้องโดยศิลปินชื่อดังมากมาย

แม้ว่า แค่เพลง "Last Christmas" เองก็มียอดขายไปแล้วมากกว่า 1.90 ล้านชุด และมิวสิกวิดีโอต้นฉบับก็มีคนเข้าชมมากกว่า 550 ล้านวิว แล้วก็ตาม ยิ่งทวีความรู้จักมากขึ้น หลังจากเหล่าศิลปินชื่อดังต่าง ๆ อย่าง Jimmy Eat World, Hilary Duff, Good Charlotte, Ariana Grande, Carly Rae Jepsen, Gwen Stefani และ Taylor Swift ได้นำเพลงมา Cover และขับร้องใหม่ ทำให้เพลงมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก


7.  มีการเปิดเพลง "Last Christmas" ทุกวันมากกว่า 42K ครั้งในวันที่ไม่ใช่เทศกาลคริสต์มาส

การรายงานของ Viberate ได้เขียนไว้ว่า จำนวนการดู YouTube รายวันโดยเฉลี่ยของเพลง Last Christmas ในช่วงนอกฤดูกาล (ตั้งแต่ 1 มกราคม - 1 ตุลาคม) ในปี 2019 อยู่ที่ 42K วิว แต่เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส จะมีการเข้าดูเพลง Last Christmas ในแต่ละวันมีมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน


8.  มีการแข่งขันห้ามได้ยินเพลง "Last Christmas"

ในขณะที่ผู้คนหลายล้านคนชื่นชอบที่จะได้ยิน "Last Christmas" ทุกปี แต่ก็มีเกมบน Social โดย Whamageddon ตั้งกฎการแข่งขันที่ว่า "ต้องหลีกเลี่ยงการได้ยินเพลง Last Christmas" ตั้งแต่ 1 - 24 ธันวาคม โดยเด็ดขาด" โดยถ้าหากได้ยินเพลง Last Christmas ของต้นฉบับ จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ โดยการเขียนข้อความความพ่ายแพ้และติด # Whamageddon และหาผู้ที่ต้องเจอความพ่ายแพ้เช่นเดียวกันไปกับเรา เพราะมันเรียกได้ว่า เป็นเพลงที่ต้องเปิดฟังทุกครั้งที่เวลาเวียนมาถึงคริสต์มาสนั้นเอง ใครมี่สามารถหลุดรอดการได้ยินเพลงนี้นั้น แสดงว่าต้องพยายามจริง ๆ


9. “Last Christmas” กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งหลังจากการเสียชีวิตของ George Michael ในปี 2016

หากย้อนกลับไปในปี 1984 “Last Christmas” ไม่ได้เปิดตัวเป็นซิงเกิลเชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์สำหรับชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างไรก็ตาม แต่บิลบอร์ดได้เปลี่ยนกฎในปี 1998 และหลังจากการจากไปของ George Michael อย่างไม่คาดฝัน ในวันคริสต์มาสปี 2016 เพลงนี้ก็ได้เปิดตัว Hot 100 ในที่สุด ในเดือนธันวาคม 2018 กลับเข้าสู่ชาร์ตอีกครั้งและขึ้นสูงสุดที่อันดับ #25


10. กระท่อมบนภูเขาหิมะ 2 หลังที่ใช้ถ่ายทำ Music Video เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์

Music Video เพลงของ "Last Christmas" ถูกถ่ายทำในกระท่อมบนภูเขาหิมะ 2 หลังใน Saas-Fee ที่อยู่ใน Swiss Alps Chalet Schliechten ประเทศ Switzerland ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การนำมาไว้ใน Music Video โดยใช้เวลาถ่ายทำในช่วงวันหยุด พร้อมจัดฉากการเล่นลูกบอลหิมะ โดยพวกเขาเช่าในราคา 827 เหรียญต่อคืนในการถ่ายทำ

https://pixabay.com/get/gc1526bc9c9ec28183b3f4664ff91cc1880a9a7f8112e692902fac9c344e5340086287e3380456a7a94f72bbdc1044e353261b7cba5216eb9d6061495e07fd00a_1920.jpg

หากเรามองว่าเพลง Last Christmas เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมาก ๆ และมองว่าเป็นเพลงที่ดี และเหมาะกับการฟังในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ด้วยจังหวะที่ฟังได้ง่าย ๆ สบาย ๆ เหมาะกับบรรยากาศเย็น ๆ ในช่วงหน้าหนาว แต่ใครจะหารู้ไม่ ว่าเนื้อเพลงและเรื่องราวกว่าจะมาเป็น Last Christmas ที่เราได้ยินมันอย่างคุ้นหู มันเกิดเรื่องราวอะไรบ้าง และเนื้อหาของเพลงก็ช่างตรงกันข้ามกับความสนุกสนานของเพลงจริง ๆ


ขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความ

ขอขอบคุณรูปภาพประกอบรูปปก รูปที่ 1 Image by Michelle Raponi from Pixabay

ขอขอบคุณรูปภาพประกอบบทความ

ขอขอบคุณวิดีโอประกอบบทความ

🎧 ฟังเพลงจบแล้วยังอินมาร่วมแชร์ประสบการณ์ความฟิน 😆  กับคอมมูนิตี้ TrueID Entertainment ได้เล้ย 🎶✨

อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รู้หรือไม่
รู้หรือไม่
อ่านบทความอื่นจาก รู้หรือไม่

รู้หรือไม่? เราพร้อมเสิร์ฟสาระดี ๆ ให้คุณทุกวัน

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์