15 วิธีเอาชนะความขี้เกียจ

1.อย่ากลัวความล้มเหลว
หลายๆ คน กลัวความล้มเหลวจึงเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยเพื่อที่จะได้ไม่เกิดความล้มเหลว การกลัวความล้มเหลวนั้นเกิดจากการที่เรายึดติดกับอัตตาตัวตนมากเกินไป ไม่ยอมให้ตัวเองผิดพลาดบ้างเพื่อจะได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากมันเมื่อเข้าใจแล้วว่า การกลัวความล้มเหลวเกิดจากการยึดติดกับอัตตาตัวตนที่มากเกินไป ดังนั้นแล้ว เราจึงควรปล่อยวาง เมื่ออัตตาตัวตนลดน้อยลงความคาดหวังก็ลดน้อยลงตามเช่นกัน ความล้มเหลวก็จะไม่เกิดขึ้น

เครดิตภาพ : Pixabay

2.หาแรงบันดาลใจ
หากคุณค้นพบสิ่งที่ใจต้องการแล้ว คุณย่อมรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร สิ่งที่คุณต้องทำต่อจากนี้คือทุ่มเทเวลาให้กับสิ่งที่อยากทำเยอะๆ อย่าปล่อยให้กับดักของกิจวัตรประจำวันเดิมๆ มาดึงคุณออกจากสิ่งที่คุณชอบ เมื่อคุณทุ่มเทและใช้เวลากับสิ่งที่รัก คุณจะรู้สึกว่าชีวิตของคุณมีความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ และอาจต่อยอดสิ่งที่ชอบไปเป็นงานหลักในอนาคต

เครดิตภาพ : Pixabay

6.ให้คำมั่นสัญญา
เราต้องมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้ สัญญากับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ หากเราสัญญาไว้แล้วแต่ไม่ทำตามเราก็จะกลายเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้นั้นเอง

เครดิตภาพ : Pixabay

7.เริ่มให้เกิน15นาทีแรกถ้าเกินแล้วจะฉลุย
คิดอะไรได้จะทำอะไรก็ลงมือทำเลยไม่ต้องรอให้ถึงเวลา อยากทำอะไรก็รีบทำก่อนความอยากทำจะเลือนหาย กลายเป็นเสียใจที่ไม่ได้ทำ

เครดิตภาพ : Pixabay

8.ทำด้วยใจรัก
การทำอะไรด้วยใจรัก เต็มใจทำมันจะมีความสุขและเราจะทำสิ่งนั้นได้ดี อะไรก็ตามแต่ที่ทำด้วยหัวใจมันมักจะยิ่งใหญ่เสมอ การทำสิ่งใดโดยไม่รักสิ่งนั้นๆจะมีแต่ความทุกข์

เครดิตภาพ : Pixabay

9.ฟิตร่างกายให้พร้อม
ร่างกายจะฟิตได้เต็มร้อย ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างร่วมด้วย ทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้านอนไม่พอ แต่ไปวิ่งก็ไม่ไหว รวมถึงรับประทานอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อความฟิตก็ยิ่งช่วย

เครดิตภาพ : Pixabay

10.กำหนดกรอบเวลาทำงาน
การกำหนดรายการงานที่ต้องทำในแต่ละวัน จะทำให้เราทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะสามารถทำงานทั้งหมดให้เสร็จภายในวันเดียวได้ แต่ผลงานที่ทำออกมาอาจจะไม่ได้มาตรฐานเมื่อเราได้ทราบสถานะการทำงานของงานแต่ละชิ้นแล้ว เราสามารถกำหนดได้ว่างานแต่ละชิ้นต้องใช้ระยะเวลาการทำงานในแต่ละวันกี่ชั่วโมง ถ้าเราไม่กำหนดระยะเวลาการทำงานแต่ละชิ้นให้แน่นอน เราอาจจะทำงานไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีเป้าหมายว่าจะเสร็จเมื่อไร ดังนั้นเราควรจะกำหนดเวลาการทำงานต่อชิ้นให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้มีเวลาไปทำงานอื่นต่อ

เครดิตภาพ : Pixabay

11.เป็นผู้รอที่ดี
คือ “ทฤษฎีมาร์ชแมลโลว์” นั่นเอง เป็นการทดลองโดยให้เด็กรอมาร์ชแมลโลว์เป็นเวลา 15 นาที ถ้าใครรอได้ก็จะได้ขนมมาร์ชแมลโลว์เพิ่มอีกหนึ่งอัน ซึ่งจากการทดลองนี้ มีเด็กจำนวนน้อยมากที่อดทนรอได้เกิน 15 นาที หลังจากการทดลองนี้ ยังได้ทำการติดตามเด็กกลุ่มที่สามารถรอได้เกิน 15 นาที พบว่าเด็กกลุ่มที่สามารถอดทนได้มีโอกาสทำอะไร ๆ ได้สำเร็จมากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถอดทนได้

เครดิตภาพ : Pixabay

12.มองภาพเล็กไว้ก่อน                          อย่างสุภาษิตไทยที่ว่าไว้ อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน  สำนวนนี้มักจะใช้สอนให้รู้จักอดทนรอเวลาที่เหมาะสม กับการทำอะไรบางอย่าง ค่อยๆลงมือทำไปวันละนิด

ภาพโดยนักเขียน

13.ให้รางวัลตัวเองเพื่อสะสมกำลังใจ
การให้รางวัลสำหรับความสำเร็จเป็นแรงเสริมทางบวกเมื่อพฤติกรรมใดได้รับรางวัลก็จะมีการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมแบบนั้นอยู่เสมอเพื่อให้เราได้รับรู้ความสำเร็จของตัวเอง

เครดิตภาพ : Pixabay

14.ท่องไว้ว่า"ฉันทำได้"
จำไว้ว่าความประหม่าเป็นสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาเองเท่านั้น อย่าปล่อยให้มันครอบงำการตัดสินใจของคุณ ความมั่นใจต่างหากที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ

เครดิตภาพ : Pixabay

15.ขยันและอดทน
สุดท้าย ขยัน อดทน คือ หนทางของความสำเร็จ แน่นอน… มาเลิกขี้เกียจกันเถอะ

เครดิตภาพ : Pixabay

หวังว่าข้อคิดเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้หลาย ๆ คนได้บ้าง เวลาที่คุณรู้สึกท้อแท้ ก็อย่าลืมนึกถึงข้อคิดดี ๆ เหล่านี้ จำไว้ว่าแม้บางวันอาจไม่ใช่วันของคุณ แต่ว่าซักวัน วันของคุณต้องมาถึงแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่ายอมแพ้ก่อนที่จะเริ่มต้น เอาใจช่วยทุกคนนะคะ