ไลฟ์แฮ็ก
2 ทักษะ lifelong learning การเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างทักษะในการประสบความสำเร็จ
การทำงานให้ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากหัวหน้าเพื่อเป็ยแนวทางที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเองในวิชาชีพที่เราเลือก ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่พนักงานออฟฟิศนั้นใฝ่ฝัน เพราะว่าทุกคนเมื่อทำงานก็คงจะอยากทำงานออกมาให้ดีและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และการได้เลื่อนขั้นและได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้นก็คงจะเป็นสิ่งที่พนักงานออฟฟิศทุกคนนั้นต่างต้องการทั้งสิ้น นอกจากการมีความรู้ความสามารถแล้วสิ่งที่สำคัญที่คุณนั้นควรจะมีนั้นก็คือ Soft Skill ความคิดสร้างสรรค์และการบริหารจัดการเวลา และเนื่องจากในปัจจุบันนี้การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและเศรษฐกิจนั้นเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้พนักงานตามทันเทรนด์ต่าง ๆ นั้นก็คือเราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ต้องทำตัวเหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้วที่สามารถรอรับข้อมูลใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยวันนี้เราจะมาเสนอแนวความคิด lifelong learning ซึ่งเป็นวิธีคิดที่จะช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่เรา
Advertisement
Advertisement
สรุปแบบย่อ ๆ สำหรับคำว่า lifelong learning คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อการทำงานในยุคนี้
lifelong learning ถือเป็นทักษะที่ในศตวรรษที่ 21 นายจ้างนั้นต้องการอย่างมาก
1. สร้างการเรียนรู้ของตัวเอง
การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตัวเองถือเป็นทักษะสำคัญอย่างยิ่งที่พนักงานยุคใหม่นั้นจำเป็นต้องมีอยู่ในตัวเอง การเรียนรู้นั้นมีหากหลายรูปแบบและแต่ละรูปแบบก็ให้ผลลัพทธ์ที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับการเรียนรู้ของนักเรียนรู้ตลอดชีวิตนั้น และการเรียนรู้ในแบบของตัวเองนั้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดนั้นคือ การระบุเป้าหมายของตัวเอง โดยตัวคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณจะเรียนเพื่ออะไรและเรียนไปทำไม
- ระบุเป้าหมายในการเรียนรู้
- ใช้ทรัพยากรอะไรบ้างสำหรับการเรียนรู้
- ค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้มีไหม ถ้ามีในแต่ละครั้งนั้นเป็นเท่าไหร่
- ผลลัพธ์ที่ได้จากการเรียนรู้ด้วยตัวเองนั้นมีอะไรบ้าง
Advertisement
Advertisement
โดยการเรียนรู้ต้องสามารถที่จะประเมินผลในระดับความสามารถของเราได้ เพราะเราจะได้นำแนวทางและผลลัพธ์ที่ได้จากการเรียนรู้นั้นไปแก้ไขและพัฒนาให้สอดคล้องแก่ตัวเราเองและบริษัทของเราด้วย
2. ตั้งเป้าหมายแบบ Smart ในการเรียนรู้สิ่งใหม่
ภาพถ่ายโดย Retha Ferguson จาก Pexels
การตั้งเป้าหมายแบบ Smart นั้นถือเป็นอักษรย่อที่จะทำให้คุณสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายได้ โดยหลักเกณฑ์นี้ได้นำมาจากแนวคิด หลักการบริหารจัดการของ ปีเตอร์ ดรักเกอร์ เขาได้ใช้คำว่า Smart แบบนิยามความแตกต่างขอแต่ละบุคคล โดย Smart ประกอบไปด้วย
S = Specific = ชัดเจน
เป้าหมายของคุณนั้นควรที่จะชัดเจนและมีความเฉพาะเจาะจง เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้วคุณจะไม่สามารถที่จะรวบรวมความตั้งใจและรู้สึกถึงแรงจูงใจที่แท้จริงในการประสบความสำเร็จได้ โดยจะมี 5 คำถามที่คุณจำเป็นต้องตอบให้ได้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินชีวิต
Advertisement
Advertisement
What - อะไรที่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น ๆ
Why - ทำไมเป้าหมายนี้ถึงสำคัญต่อชีวิตคุณ
Who - ใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง
Where - ที่ไหนที่สามารถดำเนินตามแนวคิดของคุณให้เกิดขึ้นได้
Which - อะไรที่เกี่ยวของที่สามารถทำให้คุณนั้นบรรลุเป้าหมายได้บ้าง
ภาพถ่ายโดย https://unsplash.com/photos/KOID4ns1Ii4
M = Measurable = วัดผลได้
การมีเป้าหมายที่วัดผลได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราจะมีแรงจูงใจเพื่อทำให้เราสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายได้ การประเมินความคืบหน้านั้นสามารถช่วยให้คุณรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นอยู่ใกล้เป้าหมายของคุณหรือไม่
A = Action - oriented = ระบุว่าจะทำอะไร
เป้าหมาที่กำหนดไว้คืออะไร และสามารถที่จะทำมันให้บรรลุเป้าหมายถือเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราจะต้องนึกถึงตลอดเวลา เพราะเป้าหมายนั้นถือเป็นาิ่งที่ท้าทายความสามารถของเราอย่างมาก โดยการตั้งเป้าหมายนั้นเพื่อที่ะทำให้คุณมองหาโอกาสที่จะสามารถทำให้คุณบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้
R = Relevant= มีความเกี่ยวเนื่องกัน
เป้าหมายนั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่และมีความเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายในชีวิตอื่น ๆ ด้วยหรือเปล่า เพราะว่าพวกเราทุกคนนั้นต่างต้องการการสนับสนุน ต้องการความช่วยเหลือเพื่อที่จำทำให้เราบรรลุเป้าหมายในสิ่งที่เรานั้นวางไว้
T= Time - bound = ผูกพนกับเวลา
ทุก ๆ เป้าหมายที่คุณกำหนดขึ้นมานั้นมีความสัมพันธ์กับเวลาทั้งสิ้น ดังนั้นคุณต้องกำหนดขอบเขตของเป้าหมายและเวลาเพือที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้ตัวคุณเองสามารถที่จะโฟกัสในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อทำให้ตัวเองสามารถบรรลุเป้าหมายได้
ความคิดเห็น