ไลฟ์แฮ็ก

3 วิธีเปลี่ยนความขี้เกียจ ให้เป็นความขยัน ทำอย่างไรดี?

321
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
3 วิธีเปลี่ยนความขี้เกียจ ให้เป็นความขยัน ทำอย่างไรดี?

หากคุณรู้สึกว่าคุณเป็นคนขี้เกียจบ่อย ไม่ชอบทำงานหรือเวลาได้รับมอบหมายงานมาก็ชอบทำในวันสุดท้าย ทำไปสักพักหนึ่งก็รู้สึกหมดกำลังใจ หมดความสนุก หมดความสนใจไม่อยากจะทำต่อ คุณเข้ามาถูกทางแล้ว หากคุณขี้เกียจหรือมีนิสัยตามที่ผมได้บอกกล่าวไว้ ไม่ต้องกังวลเลยเพราะความขี้เกียจนั้นอยู่กับมนุษย์มานานแล้วและเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากที่จะขยัน คุณต้องมีพลังบางอย่างเกี่ยวกับความคิด ที่ทำให้คุณสามารถกระตุ้นตัวเองได้อยู่เสมอ แต่ก่อนอื่นผมขอแนะนำว่าแทนที่คุณจะคิดว่า "เพราะว่าฉันขี้เกียจ ฉันถึงไม่อยากทำ" ซึ่งจริงๆแล้วประโยคนี้เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดกัน ผมอยากให้คุณเปลี่ยนไปคิดว่า "เพราะจริงๆแล้วฉันไม่อยากทำตั้งแต่แรกต่างหาก ฉันถึงขี้เกียจ"

สามารถสรุปได้ว่า หากคุณสามารถเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้อยากทำสิ่งนั้นได้เมื่อไหร่ละก็คุณก็จะไม่ขี้เกียจอีกต่อไป สาเหตุที่ผมแนะนำแบบนี้ก็เพราะว่าถ้าคุณคิดว่าความขี้เกียจคือต้นเหตุที่ทำให้คุณไม่อยากทำอะไร คุณก็จะอยากที่จะกำจัดความขี้เกียจออกไปจากตัวคุณ แต่ตามที่ผมได้บอกกล่าวไว้ว่าความขี้เกียจนั้นเป็นนิสัยปกติของมนุษย์ทุกคน คุณจึงไม่สามารถกำจัดความขี้เกียจได้อย่างแท้จริง ดังนั้นการแก้ที่ความรู้สึกไม่อยากทำ ให้รู้สึกว่าเรื่องนั้นจำเป็นต้องทำและอยากทำมันง่ายกว่าเยอะเลย แต่สุดท้ายคุณก็อาจจะกลับไปขี้เกียจเหมือนเดิมจนกว่าคุณจะเติมแรงกลับไปให้คุณขยันใหม่ได้ และแน่นอนอยู่แล้วว่าทุกคนบนโลกนี้จะมีระดับความขี้เกียจที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องใช้ระดับแรงกระตุ้นที่แตกต่างกัน ซึ่งแรงที่จะมากระตุ้นคุณนั้นอาจจะเป็นแรงบันดาลใจที่ได้รับจากคนรอบข้าง อารมณ์ของคุณในขณะนั้น หรือปัจจัยอื่นๆ ทีนี้เราก็มาถึงประเด็น "วิธีการเปลี่ยนความขี้เกียจ ให้เป็นความขยัน" ของเราแล้ว โดยวันนี้ผมได้เลือก 3 วิธีหลักๆที่จะทำให้คุณขยัน มาให้คุณอ่านกัน เริ่มที่

Advertisement

Advertisement

1. การเริ่มทำงานคือขั้นตอนที่ยากที่สุด

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง เราก็จะคิดถึงพลังงานที่ต้องใช้ในการทำสิ่งนั้น พอเราคิดถึงพลังงานที่เราต้องใช้ในการทำ เราก็จะรู้สึกว่าทำเรื่องนี้แล้วจะต้องเหนื่อยแน่ๆ เราเลยไม่เริ่มทำ เช่นบางคนอยากลดน้ำหนักแต่ไม่อยากเริ่มออกกำลังกาย เพราะว่าตอนที่เราจะเริ่มออกกำลังกายเราก็จะลืมเป้าหมายที่เราตั้งไว้ในตอนแรก และเราก็จะไปนึกถึงภาพความเหนื่อยล้า อาการปวดต่างๆแทน หรือแม้กระทั่งตอนครูสั่งให้ทำรายงาน 1500 ตัวอักษร เราก็อาจจะมีความคิดว่า "รายงาน 1500 ตัวอักษร ยากเกินไปหรือเปล่า" นี่แหละคือตัวอย่างเวลาเราคิดถึงพลังงานที่ต้องใช้หรือรู้สึกถึงความยากในการทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราไม่อยากทำงาน ดังนั้นทันทีที่เราได้รับมอบหมายงานมาเราควรหยุดมีความคิดแบบนี้และให้เราเริ่มทำงาน โดยเริ่มจากการแยกสิ่งที่เราจะทำให้เป็นขั้นตอนเล็กๆ ที่เราสามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการทำรายงาน 1500 ตัวอักษรประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

Advertisement

Advertisement

  1. เขียนคำนำ
  2. สารบัญ
  3. เขียนย่อหน้าต่างๆ
  4. หาภาพประกอบ
  5. พยายามเขียนให้ถึง 1500 ตัวอักษร

ให้คุณแยกขั้นตอนออกมา ยิ่งคุณแยกเยอะ คุณก็จะยิ่งรู้สึกว่ามันง่าย อย่างข้อ 3.เขียนย่อหน้าต่างๆ ให้คุณแยกออกมาเป็นย่อหน้าที่ 1 ย่อหน้าที่ 2 3 4 5 หรือถ้าคุณคิดว่าย่อหน้าเดียวเยอะเกินไป คุณก็สามารถแยกไปอีกเป็นครึ่งย่อหน้าที่ 1 2 3 4 ก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกับที่ว่าเรื่องที่คุณจะทำนั้นมันยากแค่ไหน ขอให้คุณเขียนขั้นตอนและวางแผนว่าจะทำขั้นตอนไหนบ้าง อย่างไร และเริ่มลงมือทำมัน เรื่องที่คุณทำนั้นก็จะเป็นเรื่องที่ง่าย ทำให้คุณมีความขยันที่จะอยากลงมือทำมันเริ่ม, เริ่มต้น, อย่างไร

2. หาความสุขและรู้เป้าหมายในการทำงานนั้น

การที่คุณอยากที่จะมีความขยันในการที่จะทำอะไร คุณก็ต้องมีแรงบันดาลใจหรือว่าแรงผลักดันที่จะเคลื่อนคุณให้ไปถึงเป้าหมายที่คุณวางไว้ แรงผลักดันของคนส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นคืนสุดท้ายของวันส่งงาน เช่นหากคุณยังคิด "อีกตั้งหลายวัน ไปทำคืนสุดท้ายก็ได้" ให้คุณหยุดคิดทันที ถ้าคุณเปลี่ยนความคิดของคุณ แรงผลักดันของคุณก็จะไม่ใช่คืนสุดท้ายของวันส่งงานอีกต่อไป แต่มันจะเป็นการที่คุณอยากที่จะสบาย ไม่อยากที่ต้องมาเร่งในคืนสุดท้าย เป็นการที่คุณอยากทำงานออกมาให้ดีที่สุดและสุดความสามารถของคุณต่างหาก เช่นสำหรับตัวผมเป็นคนที่อยากให้งานหรือทุกอย่างที่ผมทำสมบูรณ์แบบและไม่มีข้อผิดพลาด ผมก็จะคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรดีให้งานเราพัฒนาขึ้นเพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำงานนี้ไม่ก็ผมไม่อยากให้ใครมาบอกให้ผมแก้งาน ผมก็อยากจะที่จะทำงานออกมาให้ดีที่สุด สุดความสามารถของผม พร้อมกับหาความสุขในการทำงาน

Advertisement

Advertisement

อย่างผมเองผมชอบตกแต่งหน้าปกรายงาน ผมก็จะทำหน้าปกในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อที่ผมจะได้มีแรงกระตุ้นอีกแรงหนึ่งในการทำงาน ซึ่งทุกงานก็ต้องมีเป้าหมาย คุณก็ต้องรู้ว่าเป้าหมายของคุณนั้นคืออะไร โดยเป้าหมายนั้นสำคัญมากในการทำอะไรก็ตามเพราะว่าถ้าคุณยิ่งสร้างเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เท่าไหร่เมื่อควบคู่กับความสุขและความชอบในการทำงาน คุณก็จะเกิดแรงกระตุ้นที่ทำให้คุณสามารถทำงานได้อยู่ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วคุณจะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้วคุณไม่ได้ทำตามเป้าหมาย แต่เป้าหมายต่างหากที่ทำงานให้คุณ เป้าหมายต่างหากคือสิ่งที่กระตุ้นคุณให้ทำงาน ไม่ใช่คุณกระตุ้นเพื่อเป้าหมาย ถึงแม้เป้าหมายนั้นจะใหญ่แค่ไหนคุณก็ต้องอย่ายอมแพ้ในเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ จงเชื่อมั่นในตัวเองและทำมันให้สำเร็จเป้าหมาย, ความสุข, passion, ความชอบ

3. คิดถึงอนาคต

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมขยันได้คือการที่เราคิดถึงอนาคต ว่าหากเราขี้เกียจไม่อยากที่จะทำอะไรเลยจะส่งผลเสียต่อชีวิตเราอย่างไรบ้าง เช่น ก่อนการสอบ หากเราไม่ติวสอบ เราก็จะมีโอกาสสอบไม่ผ่านซึ่งจะมีผลต่อเกรดของเรา เราจึงบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือ หากเราไม่ลดน้ำหนัก เราก็จะมีโอกาสเป็นโรคต่างหรือสุขภาพร่างกายไม่ดีได้ เราจึงบังคับตัวเองให้ลดน้ำหนัก ซึ่งความกังวลเหล่านี้เป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ดีให้กับตัวเอง แล้วทุกคนที่เคยผ่านสถานการณ์นี้ ไม่ว่าจะขี้เกียจแค่ไหน ก็จะบังคับตัวเองให้มาทำงานและขยันได้อนาคต, เรียนจบ, ขยัน

และนี่ก็เป็น 3 วิธีที่ผมใช้เพื่อที่จะทำให้ตัวเองขยันขึ้น ผมหวังว่า 3 วิธีนี้จะสามารถช่วยทุกคนให้เปลี่ยนความขี้เกียจ ให้เป็นความขยันได้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบ

ขอบคุณ

  • ภาพปกและภาพประกอบทุกภาพโดยนักเขียน(Saharat)

อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !

STAR COVER

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์