3 เทคนิค ฝ่าวิกฤติเงินเฟ้อ

สถานการณ์เงินเฟ้อ = ปัญหาปากท้อง = ต้องมีเทคนิคในการใช้ชีวิตมากขึ้น

ในปัจจุบันโลกของเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการขาดแคลนอาหารและพลังงานปิโตรเลียม ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครน รวมถึงความต้องการทรัพยากรที่มากขึ้นของมนุษย์อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างของต้นเหตุที่ทำให้เกิดสภาพปัญหาเศรษฐกิจเงินเฟ้อ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีต้นเหตุของปัญหายิบย่อยอีกมากมายในแต่ละประเทศ แม้แต่ในประเทศไทยเองก็มีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 13 ปี ซึ่งก็ทำให้ประชาชนอย่างเราได้รับผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารที่แพงขึ้น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่แพงขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2563 ค่าไฟที่มีราคาต่อหน่วยสูงขึ้น ราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่สูงขึ้น ราคาพืชผักที่สูงขึ้น ทุกอย่างที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตต่างปรับราคาสูงขึ้นทั้งสิ้น แต่ประชาชนยังมีขีดความสามารถในการหาเงินเท่าเดิม จึงทำให้เกิดปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนกระจายตัวไปอย่างกว้างขวางในประเทศไทย ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ประสบปัญหาเหล่านี้อยู่เช่นกัน คือการที่เรามีรายรับเท่าเดิม แต่มีรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้นำเทคนิคของตนเองมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านทุกคนได้นำไปปรับใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ ไม่มากก็น้อย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเทคนิคทั้ง 3 ข้อ มีอะไรกันบ้าง

เทคนิคที่ 2 ลงทุนให้กับเงินที่มี เอาชนะอัตราเงินเฟ้อให้ได้ สำหรับเทคนิคข้อนี้หากใครที่รับความเสี่ยงมากไม่ได้ อาจจะข้ามไปก่อนก็ได้ เพราะอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันมีอัตราที่สูงมาก นั่นหมายความว่าอัตราผลตอบแทนก็ต้องมีอัตราที่สูงมากเช่นเดียวกัน ซึ่งการที่เราต้องการผลตอบแทนสูง แน่นอนว่าเราต้องมาด้วยการแบกรับความเสี่ยงที่มหาศาล ดังนั้นหากจะใช้เทคนิคนี้ต้องมีการศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดี เพราะถือว่ามีความเสี่ยงพอสมควร สำหรับผู้เขียนมองว่าในปัจจุบันมีการลงทุนที่มากมายมากกว่าในอดีต ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนมีความสนใจในการลงทุนด้านทองคำ กองทุนรวม และสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะได้กำไร แต่ถ้าเราสามารถเอาชนะตลาดได้ เราก็มีกำไรขึ้นมาได้

เทคนิคที่ 3 บริโภคอย่างมีทางเลือก สำหรับเทคนิคในข้อนี้ผู้เขียนมีประสบการณ์โดยตรงในอดีต คือการที่เรายึดติดที่จะบริโภคสินค้าใดสินค้าหนึ่ง โดยพิจารณาจากแบรนด์เป็นสำคัญ โดยหลงคิดไปว่าราคาสูงเท่ากับคุณภาพดีแต่ลืมคิดว่าไปว่าบางแบรนด์ที่ราคาสูงอาจเป็นเพราะค่าเช่าที่แพงกว่า มีลูกจ้างเยอะกว่า จึงทำให้ต้องขายในราคาที่สูงกว่า ทั้งที่จริงคุณภาพอาจไม่ได้ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญก็ได้ ดังนั้นให้เราลองหันกลับมาบริโภคอย่างมีทางเลือก คือลองพิจารณาสินค้าในลักษณะเดียวกันจากหลายๆแบรนด์ และนึกถึงคุณภาพเป็นสำคัญ เพราะในบางครั้งสินค้าราคากลางๆ แต่กลับมีคุณภาพไม่แพ้สินค้าที่ราคาสูงเลย ตัวอย่างที่ผู้เขียนมีประสบการณ์คือในอดีตผู้เขียนชอบดื่มเครื่องดื่มของแบรนด์หนึ่งที่มีราคา 80+ บาท แต่ในปัจจุบันผู้เขียนเปิดใจที่จะดื่มเครื่องดื่มอื่นๆบ้าง ที่มีราคา 30-40 บาท ซึ่งก็พบว่าบางแบรนด์แม้จะราคาถูกกว่า แต่อาจจะเหมาะกับเรามากกว่าก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเพิ่มทางเลือกในการบริโภคให้กับตัวเอง เพื่อช่วยประหยัดเงินในยุคเศรษฐกิจแบบนี้กันนะครับ

และนี่ก็คือ 3 เทคนิคที่ทำได้ไม่ยาก หากใครชอบเทคนิคข้อไหนก็ลองนำไปปรับใช้กันได้เลย ขอให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้นะครับ

• ภาพปกทำเองจากเว็บไซต์ canva.com
• ภาพที่ 1 โดย cocoparisienne จาก Pixabay
• ภาพที่ 2 โดย Tumisu จาก Pixabay
• ภาพที่ 3 โดย klimkin จาก Pixabay
• ภาพที่ 4 โดย cocoparisienne จาก Pixabay

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดู มาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟให้เหมือน นักแสดงนำซีรีส์ "คืนนับดาว" คิมหันต์ (ไบร์ท), นับดาว (ใหม่ ดาวิกา) หรือ แทนคุณ (ออฟ จุมพล)พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

STAR COVER คืนนับดาว ส่งภาพเข้ามาได้วันนี้ ถึง 15 มิถุนายนนี้