5 ข้อควรรู้ ก่อนเซ็นสัญญาเช่าห้องพัก

ในปัจจุบันการเลือกเช่าที่พักอาศัยทั้งหอพักและพาร์ตเม้นท์ ถือว่ายังเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ที่มองหาที่พักใกล้ที่ทำงาน ใกล้แนวรถไฟฟ้า หรือผู้ที่ไม่ต้องการพักอาศัยเป็นเวลานาน แต่รู้ไหมครับว่า ผู้เช่าส่วนมากเมื่อเจอห้องพักที่ถูกใจแล้ว จะรีบจับจองและเข้าอยู่โดยทันที ถึงแม้ผู้เช่าจะรู้อยู่แล้วว่าก่อนที่จะเข้าอยู่จะมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่หลายๆคนกลับไม่ยอมอ่านเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทางหอพักได้กำหนดไว้ ส่วนมากจะเปิดผ่านๆเพื่อเซ็นชื่อหน้าสุดท้ายแล้วเข้าอยู่ทันที สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหาขึ้นผู้เช่าจึงไม่อาจโต้แย้งได้ ทำให้เกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่าที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ

วันนี้เรามีเทคนิคและความรู้เกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าก่อนเข้าอยู่อาศัยมาฝากกันครับ

5 ข้อควรรู้ ก่อนเซ็นสัญญาเช่าห้องพัก

4.ค่าน้ำ-ค่าไฟ(ต่อหน่วย) การเก็บค่าน้ำค่าไฟ ต้องเก็บตามมิเตอร์น้ำและมิเตอร์ไฟฟ้า เมื่อก่อนนั้นทางหอพักจะกำหนดค่าน้ำและค่าไฟเอง ราคาต่อหน่วยจึงค่อนข้างสูง แต่ในปัจจุบันผู้ให้เช่าต้องจัดเก็บค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้า เหมือนกับอัตราที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.), การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เรียกเก็บกับบ้านเรือนของประชาชนทั่วไป ซึ่งผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.กฎระเบียบหอพักและค่าปรับต่างๆ หอพักทุกที่จะมีข้อห้าม,กฎระเบียบ,และค่าปรับเมื่อผู้เช่าฝ่าฝืนและกระทำความผิดภายในหอพัก แต่ละที่จะมีข้อห้ามไม่เหมือนกัน ทางที่ดีผู้เช่าควรขอดูรายละเอียดข้อห้ามและกฎระเบียบกับทางหอพัก เพื่อป้องกันการทำผิดกฎ เพราะหอพักบางที่ ค่าปรับค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่จะผู้เช่าจะเข้าอยู่อาศัย การอ่านรายละเอียดของสัญญาเช่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะทำให้รู้ถึงกฎระเบียบต่างๆของที่พัก ค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต้องจ่าย และยังป้องกันการแอบใช้ช่องโหว่ที่ใช้แนบมาในสัญญาของผู้ให้เช่าได้อีกทางหนึ่ง เห็นไหมครับว่า แค่เรื่องง่ายๆเท่านี้ก็สามารถป้องกันปัญหาที่ตามมาได้หลายๆเรื่องเลยล่ะครับ.