ไลฟ์แฮ็ก
5 ช่วงเวลาสำหรับจัดการหนังสือที่อ่านไม่จบ
ปัญหาหนึ่งของคนที่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ อาจเริ่มมาจากการไม่รู้ว่าตนเองควรจัดเวลาอ่านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ แต่รู้หรือไม่ ว่าในระหว่างวันอาจมีช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือที่ซ่อนอยู่ในแต่ละช่วงเวลา แม้จะเป็นช่วงเวลาที่เล็กน้อย เพียง 10-15 นาที ก็นับได้ว่ามีค่ามากพอแล้วที่จะทำให้คุณสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันดีกว่า ว่าช่วงเวลาใดบ้างในเศษเวลาประจำวันที่จะทำให้คุณสามารถสร้างความคืบหน้าในการจัดการหนังสือที่อ่านไม่จบลงไปได้บ้าง
1.หลังรับประทานในแต่ละมื้อ
เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยกับคำพูดที่ว่า “หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” จะทำให้เราเรียนรู้ได้ยากกว่าเดิม นั่นอาจเป็นสิ่งที่หลายคนเผชิญหน้ากับอาการง่วงอย่างเป็นปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้วขณะที่เราอ่านหนังสือในช่วงระยะเวลาเพียง 10 นาที หลังรับประทานอาหาร จะก็ส่วนช่วยทำให้เราสามารถจดจำข้อมูลได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เรียกได้ว่าคุณค่าทางโภชนาการคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเช้า แต่ไม่ว่าจะรับประทานอาหารในเวลาใดก็ตาม การใช้เศษเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อเรียนรู้หรือทบทวนเนื้อหาก็นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ควรค่าเช่นกัน
Advertisement
Advertisement
2.ระหว่างรอรถ
ไม่ยอมปล่อยช่วงเวลาแห่งการรอคอยให้เสียเปล่า มีงานวิจัยหลายส่วนบ่งบอกว่า การอ่านหนังสือในสถานที่อึกทึกได้มีส่วนช่วยทำให้เรามีสมาธิมายิ่งขึ้นได้เช่นกัน ในทางหนึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นเรื่องของการโฟกัสได้ดียิ่งขึ้นภายใต้เสียงที่กึกก้องหลากหลาย เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เราไม่สามารถฟังเสียงได้ทุกอย่างแต่จะสามารถมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นแล้วช่วงเวลาของการรอรถ ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทางหรือรถส่วนตัวที่รอใครมารับก็ตาม ลองใช้ช่วงเวลานี้หยิบหนังสือของคุณขึ้นมาและใช้ช่วงเวลานี้ให้คุ้มค่าดูนะคะ
3.ระหว่างรอธุระประจำวัน
การรอทำธุระระหว่างวันอาจเป็นช่วงเวลาที่หงุดหงิดไม่น้อยสำหรับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือยาวนานก็ตาม หลายคนมักจะเหม่อลอยหรือใช้เวลาไปอย่างสูญเปล่ากับเวลาเหล่านี้เมื่อเทียบปริมาณทั้งหมดในระหว่างวัน การใช้เวลาในส่วนนี้เพื่อเก็บข้อมูลจากหนังสือไปทีละน้อย ก็อาจจะช่วยให้หนังสือของคุณมีความคืบหน้าในการอ่านได้บ้าง
Advertisement
Advertisement
4.หลังออกกำลังกาย
ว่ากันว่าหลังช่วงเวลาออกกำลังกาย ก็คือช่วงเวลาที่รอการฟื้นฟูดีๆช่วงหนึ่ง เป็นเรื่องน่าประหลาดที่หลายคนมีสมาธิเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการออกกำลังกายมาใหม่ๆ(ยกเว้นว่าต้องไม่เหนื่อยจนตาลายนะคะ) เราเชื่อว่าหลายคนมีเวลา Cooldownในช่วงนี้ หากจะใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อฟื้นฟูร่างกายและเติมพลังงานเสมอไปด้วย ก็เป็นเรื่องที่ดีในการจัดการกับหนังสือของคุณให้จบไปได้อีกสักเล็กน้อย
5.ก่อนเข้านอน
มีผลการวิจัยได้กล่าว การจดจำคือสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงก่อนนอนและหลังตื่นนอน ผู้อ่านหลายคนออาจมีความคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือในช่วงระยะเวลาก่อนเข้านอนกันเป็นประจำอยู่แล้ว นั่นคือเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการที่จะจดจำข้อมูลเพื่อใช้ในเช้าวันถัดไป การหยิบหนังสือเพื่ออ่านก่อนเข้านอนคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว จดจำไว้ว่าอย่าทำกิจกรรมอื่นๆเพื่อกลบข้อมูลของคุณเด็ดขาด
Advertisement
Advertisement
จริงๆแล้ว การอ่านหนังสือไม่ได้มีการจำกัดอยู่ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น จึงจะมีประสิทธิภาพ เพียงแค่เรามีวินัยและนึกถึงการอ่านบ่อยๆก็จะช่วยให้เราสามารถใช้เวลาในแต่ละช่วงไปได้ เพียงแต่ในระหว่างวันเราอาจจะอยู่กับการโฟกัสเรื่องของการให้เวลาสำหรับการอ่านมากจนเกินไป จึงไม่สามารถจัดสรรเวลาได้ดีเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องคำนึงถึงชนิดของหนังสือด้วยว่าสิ่งที่อ่านอยู่เป็นหนังสือประเภทใด จึงจะทำให้เกิดการอ่านที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะหนังสือบางประเภท เช่น หนังสือวิชาการ หรือหนังสือการเรียนที่ต้องใช้พลังงานสมองเพื่อทำความเข้าใจ ย่อมต้องใช้ช่วงเวลาที่ถูกจัดสรรไว้อย่างเฉพาะเจาะจงที่สุดจึงจะให้ประสิทธิภาพมากกว่า ด้วยเหตุนี้ขอให้ใช้เวลากันได้อย่างเหมาะสมด้วยนะคะ
อ้างอิงข้อมูลประกอบ
www.dumblittleman.com/the-best-time-to-study/
www.oxfordlearning.com/best-time-day-to-study/
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : pixabay
ภาพปกบทความ/ภาพประกอบที่1/ภาพประกอบที่2/ภาพประกอบที่3/ภาพประกอบที่4/ภาพประกอบที่5/
เริ่มต้นด้วยการประกอบอาชีพ Content creator ...รักการบรีฟงานที่ละเอียด
ความคิดเห็น