5 ต้นกล้าสร้างสุขที่ควรปลูกไว้ในใจ

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ถ้าพูดถึงต้นไม้หลายคนก็นึกถึงความเจริญงอกงามและการเป็นร่มเงากันนะคะ สำหรับต้นไม้ก็เป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์แก่โลกรวมถึงสิ่งมีชีวิตในโลกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งอาหารให้เหล่าสิ่งมีชีวิต เป็นที่อยู่อาศัย เป็นต้น เรียกได้ว่าต้นไม้ก็มีคุณประโยชน์และเป็นทรัพยากรที่มีค่าไม่แพ้ทรัพยากรอื่นในโลกเช่นกันค่ะ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำไมเราควรปลูกและอนุรักษ์ต้นไม้ ต้นไม้ต้นหนึ่งก็ต้องเคยเป็นต้นกล้ามาก่อน ดังนั้นนอกจากเราจะปลูกต้นไม้บนโลกแล้ว ผู้เขียนก็อยากให้คุณมาปลูกต้นกล้าภายในใจกันบ้างนะคะ

ตามที่ได้เกริ่นไว้ในเบื้องต้นหลายคนคงสงสัยว่าการปลูกต้นกล้าในใจปลูกอย่างไร ถ้าเปรียบจิตใจความคิดของคนเราก็เปรียบเสมือนต้นไม้ โดยต้นไม้แห่งความคิดในแง่ดีก็คงเป็นต้นไม้ที่ให้ประโยชน์กับตัวเราเองและคนรอบข้าง มีความมั่นคงไม่อ่อนไหวไปตามกระแสลมได้ง่าย ดังนั้นผู้เขียนก็มีข้อคิดที่ดีมาฝากคุณผู้อ่านให้ได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันโดยการปลูกต้นกล้าแห่งความคิดในแง่ดี ทั้ง5ต้นนี้ที่จะเติบโตในใจคุณเพื่อพัฒนาตัวคุณเองและส่งพลังในแง่ดีไปถึงคนรอบข้างด้วยค่ะ

การวางใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์ที่จะมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกัน ในยามสุขก็อย่ายึดติดกับความสุขมากเกิน และในยามทุกข์ก็อย่ายึดติดกับความทุกข์มากเกินไป เพราะทั้งสุขและทุกข์เข้ามาเดี๋ยวก็ผ่านไป สิ่งที่ทำได้คือมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาปกติที่คนเราต้องเป็นเช่นนี้ วางใจเป็นกลางดีที่สุด ชีวิตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงชะตาหรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างแต่เกิดจากการตัดสินใจของตัวเราเองในการตัดสินใจที่จะคิดพูดและทำอะไรลงไปก็ควรทำลงไปด้วยสติปัญญาและความรอบคอบของตัวเราเองนึกถึงผลที่จะเกิดเพราะสุดท้ายแล้วคนที่รับผลที่เกิดขึ้นนั้นก็คือตัวเราเองค่ะ คุณเป็นคนกำหนดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลอย่างไรในอนาคตได้ด้วยการกระทำของตัวคุณเอง

---

ต้นกล้าต้นที่ 2 รักและเห็นคุณค่าในตัวเอง

รักตัวเอง หลายคนก็คงเคยได้ยินกันนะคะและคงจะมีการให้นิยามสำหรับคำนี้ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมองว่า การรักตัวเองคือการเห็นแก่ตัว บ้างก็ว่า การรักตัวเองคือการทำตามใจตัวเอง หลายคนก็มีความแตกต่างสำหรับการให้นิยามของคำว่า รักตัวเอง แต่แท้จริงแล้วการรักตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัวและไม่ใช่การที่ทำตามใจตัวเองตลอดเวลาค่ะ เพราะบางทีการที่เราตามใจตัวเองในทางที่ผิดก็คือการทำร้ายตัวเอง ต้นกล้าการรักตัวเองที่ผู้เขียนอยากให้คุณผู้อ่านปลูกไว้ในใจคือการรักตัวเองในทางทราถูกเตือนตัวเองและพาตัวเองเข้าไปอยู่ที่ที่ทำให้คุณพัฒนา

แต่ในการรักตัวเองก็ย่อมมีอุปสรรค อุปสรรคที่ว่าเกิดจากความคิดของเราเช่นกันค่ะ การคิดว่าตัวเองไร้ค่าหรือไม่มีค่า ผู้เขียนอยากให้คุณลบความคิดเหล่านี้ออกไปค่ะการคิดแบบนี้จะยิ่งทำให้คุณไม่เห็นค่าในตัวเองทางออกของปัญหานี้คือ การเลิกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับชีวิตคนอื่น ทุกคนมีทั้งหน้าตา ทักษะ ความสามารถที่แตกต่างกันมีดีกันคนละแบบตัวเราเองก็เช่นกันค่ะ ยิ่งในสังคมออนไลน์สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้ เพราะโลกออนไลน์ทุกคนก็ต่างโพสต์ชีวิตในมุมบวกต้นกล้าในใจแห่งการรักและเห็นคุณค่าในตัวเองจะเติบโตในใจเราได้หากคุณเปลี่ยนทัศนคติที่ชอบดูถูก หรือเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น และเมื่อเรารักตัวเองมากพอเห็นคุณค่าในตัวเองมากพอสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้มีความสุขโดยที่ไม่ต้องร้องขอความรักจากคนอื่น

---

ต้นกล้าต้นที่ 3 ทุกความผิดพลาดคือบทเรียนเตือนใจ

หลายคนคงเคยมีวันที่ไม่เป็นใจสำหรับเราหรือวันที่คุณผิดพลาดทุกอย่างดูแย่ทำให้คุณเสียใจ เสียความรู้สึก เพราะมนุษย์ทุกคนเมื่อเกิดมาบนโลกนี้แล้วไม่มีใครที่ไม่เคยพลาดหรือล้ม แม้กระทั่งคนดังระดับโลกที่ประสบความสำเร็จได้ก็ต้องผ่านอะไรมามากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยของแต่ละคนไม่ว่าปัญหาหรืออุปสรรคจะมากแค่ไหน ทุกอย่างล้วนเป็นบทเรียน บทเรียนที่สอนให้เราเติบโตขึ้น ในความที่มันแย่หรือมันไม่ดีก็ย่อมมีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ สิ่งที่ดีที่ว่านั้นก็คือบทเรียนที่สอนให้เราเติบโตและเข้มแข็ง หากคุณใช้ตรงจุดนี้ให้เป็นประโยชน์มองว่ามันคือบทเรียน สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องเตือนใจให้คุณระมัดระวังมากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากเราเก็บความผิดพลาดมาต่อว่าตัวเองและจมปลักกับอดีตก็่อมไม่ก้าวไปข้างหน้าวนเวียนอยู่ในแบบเดิม สิ่งที่ทำให้คุณก้าวออกมาจากจุดนี้ได้คือเลิกโทษตัวเองและคิดไว้ว่ามันคือบทเรียนเตือนใจ ก็เป็นอีกต้นกล้าหนึ่งที่ควรปลูกไว้ในใจค่ะ ยิ่งปลูกต้นกล้าเหล่านี้ไว้ในใจมากยิ่งหล่อหลอมให้คุณเป็นคนที่เข้มแข็งแบบไม่ต้องฝืนค่ะ

ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะไม่ผิดพลาดเลยความผิดพลาดถือว่าเป็นเรื่องปกติแต่ในเมื่อผิดหรือพลาดไปแล้วจงเก็บบทเรียนนั้นไว้เป็นข้อคิดเตือนใจ ไม่ให้สิ่งที่ผิดสิ่งที่พลาดมันย้อนกลับมาซ้ำ สิ่งที่ผ่านมาแล้วมันย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สิ่งที่ที่ทำได้คือทำทุกวันที่เป็นปัจจุบันให้ดีที่สุดต้นกล้าแห่งการเก็บความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียนอยากให้คุณผู้อ่านปลูกต้นกล้าชนิดนี้ไว้ในใจ เพราะจะทำให้สามารถที่จะพัฒนาศักยภาพ ของตัวเองให้ก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ การโทษตัวเองหรือจมปลักกับความผิดพลาดนั้นไม่มีประโยชน์ จงยิ้มและหัวเราะรวมถึงให้กำลังใจตัวเองกันค่ะ

---

ต้นกล้าต้นที่ 4 สร้างสรรค์ความดี

"ความดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องทำเอง" ทุกคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันนะคะ โดยความดีทุกคนสามารถเริ่มต้นได้จากตัวคุณเอง ความคิด การพูด และการกระทำ 3สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันค่ะ เพราะความคิดที่ดีจะส่งผลให้เราพูดและกระทำในความดี โดยการทำดีนั้นไม่ต้องรอโอกาสหรือรอว่าจะต้องมีเงินทองที่มากมายเพราะการทำความดีต้องทำด้วยใจที่บริสุทธิ์และไม่เดือดร้อนตัวเราเองและผู้อื่น การทำความดีก็ไม่ยากและเริ่มได้ที่ตัวคุณเองไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งที่ดี แบ่งปันน้ำใจไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ เป็นต้น หรือถ้าคุณมีความสามารถ สิ่งเหล่านั้นก็นำไปสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคม เช่น ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเย็บปักถักร้อยก็นำความสามารถตรงจุดนี้เย็บหน้ากากอนามัยแจกผู้ยากไร้ หรือให้อาหารสุนัขหรือแมวจรในช่วงแบบนี้ก็ได้ค่ะ ถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก สำหรับตัวผู้เขียนคิดว่าความดีนั้นเมื่อเราทำไปแล้วไม่ต้องรอผลค่ะเพราะเมื่อทำได้แล้วผลที่ได้คือความสบายใจและความอิ่มเอิบใจค่ะและการสร้างความดีไม่จำเป็นต้องสนใจคำตำหนิที่ว่า เราสร้างภาพ เพราะอย่างไรก็ตามสิ่งที่ดีก็จะส่งผลต่อตัวเราค่ะ

ต้นกล้าแห่งการสร้างสรรค์ความดีผู้เขียนอยากให้คุณนั้นปลูกไว้ในใจ เพราะสิ่งนี้ส่งผลดีทั้งตัวคุณเองและตัวคนรอบข้าง ยิ่งทำความดียิ่งทำให้โลกและสังคมของเราน่าอยู่มากขึ้น ทำดีโดยไม่หวังผลนั้นดีที่สุดค่ะ สิ่งที่เราทำแล้วได้ตอบแทนกลับมาคือความสุขใจค่ะ สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับค่ะ ผู้เขียนอยากเชิญชวนคุณผู้อ่านให้มาสร้างสรรค์ความดีเพื่อให้โลกและสังคมน่าอยู่กันมากขึ้นค่ะ ถึงไม่มีใครเห็นแต่ผู้ที่กระทำรู้อยู่แก่ใจจะอย่างไรก็แล้วแต่มันก็สร้างความสุขและสบายใจให้กับตัวเราค่ะ

---

ต้นกล้าต้นที่ 5 ให้อภัย

"โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"เป็นธรรมมะวาทะของพระพยอม หลายคนอาจจะเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้างนะคะไม่มีใครหรอกค่ะที่จะไม่เคยโมโหเพราะเป็นมนุษย์ก็ต้องมีรักโลภโกรธหลงเป็นธรรมดา คุณต้องควบคุมและจัดการความโกรธได้ เพราะการที่คุณโกรธหรืออาฆาตพยาบาทเพราะการโกรธและอาฆาตพยาบาทก็เป็นความรู้สึกในแง่ลบที่มีพลังทำลายล้างสูงนอกจากทำลายคนอื่นแล้วคนที่ได้รับผลมากที่สุดคือ ตัวคุณเอง ไม่ว่าคนที่ทำให้คุณโกรธแค้นจะทำไว้เจ็บแสบมากแค่ไหนคุณก็ต้องให้อภัยค่ะมันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ให้อภัยกันแต่อาจจะไม่ได้กลับไปเป็นแบบเดิม มันดีกว่าการที่แก้แค้นเป็นกรรมต่อกันไม่จบไม่สิ้นค่ะ ซึ่งทั้งเราและคนที่เราแค้นก็ได้รับผลกระทบการที่จะหยุดสิ่งที่นี้ไม่ให้ความเสียหายมันมากขึ้นไปก็คือ การให้อภัยค่ะ

ต้นกล้าแห่งการให้อภัยเป็นสิ่งที่คุณควรปลูก ให้อภัยทั้งตัวคุณเองและคนที่ทำให้คุณโกรธ การให้อภัยคือการรักตัวเองอย่างหนึ่ง รักตัวเองโดยการที่ไม่ปล่อยให้อารมณ์เพียงชั่ววูบมาพรากความสุขหรือทำความเดือดร้อนให้แก่ตัวคุณเองค่ะ ไม่ว่าใครจะทำอะไรไว้กับคุณขอให้คุณให้อภัยเขาและคิดว่ามันเป็นบทเรียน ให้เรารู้จักระมัดระวังตัวเองมากขึ้นค่ะ

---

จบไปแล้วนะคะกับ "5 ต้นกล้าสร้างสุขที่ควรปลูกไว้ในใจ" ทั้ง5ต้นกล้านี้จะสัมฤทธิ์ผลได้ก็ต่อเมื่อคุณปลูกไว้ในใจโดยการนำไปปฏิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ชีวิตและจิตใจงดงามดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาและให้คุณประโยชน์แก่โลก ต้นกล้ากว่าจะเติบโตเป็นต้นไม้ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ก็ต้องผ่านการดูแลจิตของคนเราก็เช่นกันค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณในการคิดดี ทำดี พูดดี แล้วชีวีจะมีสุข

---

เรื่องโดย : ไอจัง

ขอบคุณภาพจาก : pixabay

ภาพปก / ภาพ 1 / ภาพ 2 / ภาพ 3 / ภาพ 4 / ภาพ 5 / ภาพ 6 / ภาพ 7 / ภาพ 8 / ภาพ 9 / ภาพ 10 / ภาพ 11 / ภาพ 12/ ภาพ 13 / ภาพ 14 / ภาพ 15 / ภาพ 16 / ภาพ 17