5 ระยะของการคุกคามทางร่างกายที่ผู้หญิงต้องรู้ไว้ (ก่อนสายไป)

การได้รับรู้ข่าวสารเรื่องที่ผู้หญิงนั้นถูกคุมคามทางร่างกายหรือแม้แต่ชีวิต เป็นเรื่องที่เรารู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก แม้จะจับตัวผู้ก่อเหตุได้และรับโทษตามเหตุที่ก่อ แต่มันก็ไม่มีทางชดเชยสภาพจิตใจหรือชีวิตของเหยื่อที่ต้องสูญเสียไปจากเหตุการณ์ร้ายแรงนั้น ๆ ได้เลย บทความนี้เรากลั่นกรองมาจากสิ่งที่เราเคยได้ยินมาจากหลาย ๆ คู่ถึงรูปแบบความสัมพันธ์ที่มีความคล้ายคลึงกันว่าลักษณะพฤติกรรมหรือความสัมพันธ์แบบไหนที่อาจก่อให้เกิดการทำร้ายร่างกายหรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษต่อไปในอนาคตได้ ซึ่งเพื่อน ๆ จะได้เตรียมตัวตั้งรับอย่างมีสติ จะมีอะไรบ้าง เรามาวิเคราะห์กันเลยค่ะ

ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels

1. โทรหา โทรจิก โทรตาม ทุก 10 นาที

คนรักกันโทรหากันทุกวันนั้นเป็นเรื่องปกติมากนะคะ  การโทรหากันวันละ 3-4 ครั้ง นั้นถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆ แต่หากคนรักของคุณโทรหาแทบจะทุกชั่วโมง แล้วมักจะถามด้วยคำถามเดิม ๆ ว่า ทำอะไร อยู่กับใคร นั่งอยู่ใกล้ผู้ชายหรือเปล่า  และเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่โทร แถมยังโทรจิกโทรตามจนไม่เป็นอันทำงาน แบบนี้ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้น ของการนำไปสู่ระยะของการคุกคามทางร่างกายและจิตใจนะคะ สาว ๆ ต้องแยกให้ออกระหว่างความรักและความไว้ใจ การที่เขาโทรหาเพราะรักและคิดถึงนั้นเป็นเรื่องปกติที่ทำให้เรารู้สึกดีอยู่แล้ว แต่การโทรหาบ่อย ๆ หลาย ๆ ครั้ง นั้นส่อถึงความไม่ไว้วางใจ และความหึงหวงจนเกินพอดีค่ะ

4.ห้ามไม่ให้ไปเจอเพื่อน สังคมและคนใกล้ตัว

หากคนรักของคุณเริ่มจะห้ามไม่ให้คุณไปไหนเลย ไม่อยากให้ไปแม้แต่ไปเจอครอบครัว เพื่อนฝูงหรือเพื่อนสนิทที่คุณเคยไปเจอมาก่อน นั้นก็เป็นสัญญาณที่น่ากลัวที่คุณไม่ควรปล่อยผ่านไป หากเขาให้เหตุผลว่า กลัวไปเจอคนอื่น ๆ แล้วนอกใจ จำไว้ว่า นั้นคือ ความเห็นแก่ตัว และไม่เคารพในตัวคุณ ถึงตอนนั้นคุณควรถามตัวเองว่า แม้แต่พื้นที่ส่วนตัวที่คุณเคยมีนั้น คุณจะต้องทิ้งมันไปเพื่อใช้เวลาอยู่กับคน ๆ นี้ มันคุ้มไหมที่จะทำ อย่ามัวแต่คิดในแง่บวกว่ามันคือความรัก และเขารักคุณอย่างบ้าคลั่งจนไม่อยากให้ไปไหน เพราะจริง ๆ แล้วมันคือ ความเห็นแก่ตัว และอาจนำไปสู่เหตุการณ์อย่างอื่นที่รุนแรงกว่านี้อีก

ภาพถ่ายโดย Kat Jayne จาก Pexels

5. เริ่มมีการใช้กำลัง ทำร้ายร่างกาย

จำไว้ว่าหากเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นใช้กำลังทำร้ายร่างกายกันนั้น ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม  คุณควรตั้งสติและรีบถอยออกมาจากสถานการณ์นั้นโดยเร็วที่สุด การคิดในแง่ดีว่า เขาทำไปด้วยความไม่ตั้งใจและคิดว่าความดีของคุณนั้นจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง เพราะไม่มีใครเปลี่ยนแปลงใครได้ หากเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง และการทำร้ายร่างกายกันนั้น ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและไม่ควรประนีประนอมยอมความกัน เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะมองว่าเป็นเรื่องของคนรักกัน สามีภรรยาย่อมมีปากเสียง แต่อย่าลืมว่าเพราะการทำร้ายร่างกายนี้แหละ ที่นำไปสู่เหตุอันน่าสลดใจหลายต่อครั้งโดยที่เหยื่อมักจะมองในแง่ดีว่า มันแค่การ " ไม่ตั้งใจ"

เราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อสาว ๆ หลาย ๆ คนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุขและไม่สบายใจนะคะ ความรักดี ๆ นั้นควรจะทำให้เรารู้สึกดีและสบายใจ ไม่ใช่ต้องคอยมานั้นอธิบายเหตุผลต่าง ๆ แล้วจบลงด้วยการทะเลาะและใช้กำลังต่อกัน หากเพื่อน ๆ เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากแชร์ให้คนที่คุณรักด้วยค่ะ

ภาพถ่ายโดย Odonata Wellnesscenter จาก Pexels