5 วิธี ให้กำลังใจ "คนรอบข้าง" วิธีฮีลใจเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีและมีพลังบวก

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน การให้กำลังใจซึ่งกันและกันถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งเลยทีเดียวครับ มันจะช่วยให้อีกฝ่ายที่เขาประสบพบเจอกับปัญหาต่างๆ มากมายได้รับพลังบวก รู้สึกประทับใจในตัวเราที่เป็นคนให้กำลังใจ และแน่นอนว่าการให้กำลังใจโดยส่วนใหญ่แล้วหลายๆ คนก็มักจะพูดคำว่า "สู้ๆ นะ" หรือ "เป็นกำลังใจให้นะ" คำเหล่านี้เรามักจะเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งมาก ซึ่งสำหรับคำเหล่านี้แล้วสำหรับมองว่าบางคนที่ได้ฟังจะรู้สึกเฉยๆ น่าเบื่อ มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกมีพลังหรือว่ามีกำลังขึ้นมาเลยสักนิด เพราะบางคนเขาอาจจะเจอเรื่องราวหรือปัญหาที่ใหญ่หลวงกว่าเราด้วยซ้ำ เกินกว่าที่คำพูดธรรมดาๆ จะสามารถเยียวยาสภาพจิตใจของบางคนได้ และในบางครั้งมันก็สู้ไม่ไหวจริงๆ แค่คำว่าสู้ๆ มันคงจะไม่พอ บางคนคงจะได้ยินคำเหล่านี้มาเป็นล้านๆ ครั้ง มันก็ดูน่าเบื่อและน่ารำคาญสำหรับบางคน

2. สัมผัสตัวเขาบ้างเล็กๆ น้อยๆ

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ "การสัมผัสตัว" ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นการหอม การจูบ หรือลูบไล้ส่วนต่างๆ ของร่างกายนะ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย แบบนั้นจะเป็นการคุกคาม แต่มันหมายถึงการที่ได้เข้าไปสวมกอด ตบไหล่เบาๆ หรือแม้กระทั่งการจับมือกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรานั้นอยู่เคียงข้างเขาเสมอ แม้ในวันที่ที่ต้องเจอกับปัญหาก็จะมีเราที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับปัญหานี้ไปด้วยกัน นี่ถือเป็นวิธีการให้กำลังใจในอีกรูปแบบหนึ่งที่ดีที่สุดในการที่จะสามารถฮีลใจผู้คนได้

3. พยายามเป็นผู้ฟังที่ดี

เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีปัญหา หรือว่ามีเรื่องที่อัดอั้นตันใจจนอยากที่จะระบายมันออกมา เราในฐานะที่เป็นผู้ฟังควรพยายามฟังเขาอย่างตั้งใจและจริงใจอยู่เสมอ และพยายามเข้าใจเรื่องราวของเขา พยายามเข้าใจถึงสิ่งที่เขาเจอมา การแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกของพวกเขาจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามในสังคม ข้อดีของการเป็นผู้ฟังที่ดีนั้นคือทำให้เราดูน่าเคารพ ดูน่าเชื่อถือ ดูน่าเข้าหา ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่าและมีตัวตนอยู่จริงๆ ดังนั้นอย่าได้ละเลยและเมินเฉยกับเรื่องราวปัญหาของคนอื่นโดยเด็ดขาด

4. พูดในสิ่งที่ดีและน่าเชื่อถือ

การพูดที่ดีเพื่อให้อีกฝ่ายมีกำลังใจมากที่สุดนั่นคือพูดในสิ่งที่เป็นพลังบวก พูดสร้างแรงบันดาลใจ ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราเจอคนที่กำลังท้อเราก็อาจจะบอกกับเขาไปว่า "เดี๋ยวเรื่องร้ายๆ มันก็ผ่านไปนะครับ คนเราล้วนผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปทั้งหมด คนที่เขาท้อยังมีอีกเยอะ เป็นกำลังใจให้ครับ" อะไรแบบนี้ หรือไม่ก็ประสบการณ์ตรงให้เขาฟังไปเลยว่าเราเคยผ่านอะไรมาบ้าง อย่างเช่น "ผมเองก็เคยเจอปัญหาแบบเดียวกับคุณนั่นแหละ หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังยอมรับและสู้ไปกับมัน จนผมมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้" ประมาณนี้ ที่สำคัญคือต้องพูดออกมาด้วยความมั่นใจ มีสายตาและสีหน้าท่าทางที่จริงใจและดูเป็นมิตร  เพื่อให้อีกฝ่ายเกิดความเชื่อถือในตัวเรา ไม่ควรตะกุกตะกักหรือเสแสร้งแกล้งทำ

5. ชื่นชมเขาด้วยใจจริง

ข้อนี้ถือได้ว่าเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ กับชีวิตคนเราเลยก็ว่าได้ คำชมต่างๆ ล้วนมีค่าอย่างยิ่งสำหรับใครก็ตามที่ชีวิตกำลังวิกฤต ท้อแท้ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ แค่เราชื่นชมเขาด้วยใจจริงโดยที่ไม่เสแสร้งหรือถูกบังคับมา อย่างเช่นเราอาจจะชมเขาไปว่า "คุณทำดีที่สุดแล้ว ผมขอชื่นชมในความสามารถของคุณครับ ไม่มีใครที่ทำได้เท่าคุณ เก่งมากๆ ครับ" อะไรแบบนี้ เชื่อว่าเขาจะต้องรู้สึกประทับใจและตื้นตันอย่างมากเมื่อได้ยินคำชมเหล่านี้ แต่ทว่ามันก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของบางคน เพราะคนเรามันก็ไม่เหมือนกันไปซะหมดนะ บางคนที่เขาเจอปัญหาหนักๆ ในชีวิต คำชมเหล่านี้มันอาจจะไม่ได้ผล เขาจะยิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นยังไม่ค่อยดีมากพอ แนะนำว่าถ้ามันไม่ได้ผลจริงค่อยหยุด ถ้าเขาคิดได้เมื่อไหร่เขาก็จะยอมเปิดใจได้เอง

จากประสบการณ์ของผมแล้ว ก็เคยเจอคนในบ้านเขาเองก็มีความท้อเหมือนกันครับ เพียงแต่ปัญหาที่เขาเจอในแต่ละครั้งนั้นมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก สิ่งที่ผมพอจะทำได้ในวันนั้นคือปล่อยให้เขาได้จิตใจสงบเย็นลงก่อน เพราะผมเชื่อว่าเขาคงจะต้องเจอปัญหาต่างๆ แล้วทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือว่ากลุ้มใจ หลังจากจิตใจเขาสงบลงแล้วผมจึงค่อยเข้าไปคุยกับเขา และผมก็จะคอยให้กำลังใจเขาอยู่ตลอดเวลา โดยทั้ง 5 ข้อที่ผมได้กล่าวไปทั้งหมดผมเองก็ได้ลองนำไปปรับใช้บ้าง ผลปรากฏว่าสภาพจิตใจของเขาค่อยๆ ดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง และจะค่อยๆ ดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แน่นอนว่าเมื่อเขาได้รับกำลังใจดีๆ จากเราไปเขาก็จะรู้สึกประทับใจ คิดว่าตัวเองไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้ เหมือนเราคอยเป็นเพื่อนให้กับเขาอยู่เสมอ และนี่คือประสบการณ์คร่าวๆ ของผมครับ

และนี่ก็คือเนื้อหาทั้งหมดในวันนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรือว่าวัยไหน ทุกคนล้วนแต่ต้องการกำลังใจดีๆ ด้วยกันทั้งสิ้น บางคนต่อให้ภายดูจะดูเหมือนคนที่ปกติทั่วไป ดูเก่ง ดูฉลาด ดูเข้มแข็งไม่ได้อ่อนแออะไร แต่ในใจลึกๆ แล้วเขาก็ต้องการใครสักคนที่พร้อมจะเป็นกำลังแรงใจที่สำคัญ พร้อมเข้าใจในทุกๆ เรื่องราว และพร้อมที่จะรับฟังในทุกๆ ปัญหาของเราได้อย่างตั้งใจและเข้าใจเช่นกัน สำหรับใครที่เห็นว่าคนรอบข้างเกิดความท้อ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ ลองนำทั้ง 5 วิธีที่ผมได้กล่าวไปนำไปปรับใช้กันดูนะครับ และหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆ คนได้ไม่มากก็น้อย ฝากด้วยนะครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

เครดิตรูปภาพประกอบทั้งหมดออกแบบโดย : AloneLife (ผู้เขียน)

• จากเว็บไซต์ : Canva.com

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !