ไลฟ์แฮ็ก

5 วิธีจัดการกับความรู้สึก "ขี้เกียจ"

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
5 วิธีจัดการกับความรู้สึก "ขี้เกียจ"

   ความขี้เกียจคงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีติดตัวอยู่แล้วอย่างแน่นอน ไม่มีใครที่จะสามารถขยันได้ 100% มันจะต้องมีสักวันหรือสักเวลาที่รู้สึกขี้เกียจ และพอได้เริ่มขี้เกียจเราก็จะรู้สึกว่ามันสบาย ๆ ไม่อยากทำอะไร อยากที่จะทำตัวขี้เกียจแล้วนอนเล่นโทรศัพท์ เล่นเกม หรือทำอะไรเล่น ๆ เรื่อยเปื่อย จนบางคนนั้นทำจนติดเป็นนิสัยเลยทำให้เวลาทำงานนั้นไม่มีไฟที่จะทำหรือกำลังทำแล้วเหมือนร่างกายมันรู้สึกอ่อนแอเมื่อเห็นงาน เราจึงอยากจะนำเสนอวิธีจัดการกับความรู้สึกที่ทำให้ขี้เกียจเหล่านั้น มันเป็นวิธีจัดการที่ได้ทดลองทำเองจากประสบการณ์ความขี้เกียจทำงานของตัวเอง 


ประสบการณ์ความขี้เกียจ

   เรียกได้ว่าหลักจากที่ได้ลาออกจากการเป็นลูกจ้างบริษัทก็ได้มีเวลาพักผ่อนอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ไม่รู้ว่าพักนานไปหรือป่าว แต่ระหว่างพักก็ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ ก็ยังหารายได้เลี้ยงชีพจากทางอื่นอยู่บ้างแต่ก็ไม่ค่อยจะพอใช้ แล้วพอได้ทำงานแบบตามใจตัวเองเหมือนว่ากำลังทำธุรกิจส่วนตัวก็รู้สึกว่ามันก็สบายดีถึงจะยังได้เงินไม่เยอะแต่ก็ยังได้เรื่อย ๆ แต่ก็นั้นละเพราะการที่เราทำงานตามใจตัวเองพอเวลาผ่านไปสักระยะใจเราก็เริ่มขี้เกียจรู้สึกว่าการได้นอน กิน นอน กิน มันสบายมาก ๆ จนเริ่มหาเงินน้อยลง จากที่ทำงานหลาย ๆ อย่างเพื่อหาเงินก็ทำน้อยลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ไม่ทำอะไรอีกเลยเพราะขี้เกียจรู้สึกว่านอนเฉยๆ ดีที่สุดละ แล้วก็นอนเฉยๆ อยู่แบบนั้นประมาณเกือบเดือนได้ทำให้เงินที่เคยหามาก็แทบจะหมดละ เลยเริ่มรู้ตัวขึ้นมาละว่าจะนอนแบบนี้ไม่ได้ละถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปลำบากแน่จึงมาตั้งสติใหม่แล้วเริ่มปรับความคิดตัวเองใหม่หมดเลย จนกลายเป็นที่มาของวิธีจัดการกับความรู้สึก "ขี้เกียจ"

Advertisement

Advertisement


วิธีจัดการกับความรู้สึกขี้เกียจ

1. ปรับ Mindset เรื่องความสบาย

1   แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ทำอะไรเลยวันนี้ก็จะสบายวันนี้เลย แต่ให้คุณลองคิดดูแบบนี้ว่าขนาดคุณมีแค่นี้ยังสบายขนาดนี้ถ้าคุณขยันทำงานหาเงิน ลงทุนหรือทำธุรกิจอะไรก็ได้ที่คุณชอบแล้วหาเงินได้มากกว่านี้ชีวิตคุณจะยิ่งสบายได้มากขนาดไหน สบายวันนี้ยังนอนกินได้เลยถ้าสบายวันหน้าจะยิ่งกว่าแค่ไหน เอาจริง ๆ มันก็คือการปรับความคิดของเราให้เราสร้างภาพตัวเองที่ประสบณ์ความสำเร็จในชีวิตเอาไว้ให้ชัดเจนที่สุดและเราก็จะรู้สึกว่ามันจะดีกว่าแน่นอนถ้าเรานั้นสามารถไปถึงจุดนั้นได้

2. หาแรงผลักดันจากสิ่งที่เราชอบจริง ๆ

2   น่าจะแทบทุกคนบนโลกที่จะต้องมีสิ่งที่ตัวเองนั้นชอบทำอย่าง อาทิเช่น ชอบเที่ยว ชอบรถ ชอบของเล่น ชอบสะสมสิ่งของต่าง ๆ และความชอบอื่น ๆ อีกมากมาย เราก็เอาความชอบเหล่านั้นละมาเป็นแรงผลักดันเราเพราะทุกความชอบของเรามันจะมีคำว่าของมันต้องมี ที่มันต้องไปเสมอแน่นอนว่าถ้าเรานั้นไม่ขยันทำงานหาเงินเราก็จะไม่มีวันมีสิ่งเหล่านั้นแน่นอน และยิ่งเราชอบสิ่งเหล่านั้นมากแค่ไหนก็จะยิ่งมีแรงผลักดันมาก ๆ ถ้าหากรู้สึกว่ามีแค่ความชอบยังมีแรงผลักดันไม่พอก็ให้หาอ่านข้อมูลหรือดูรีวิวของคนอื่นที่เขามีสิ่งเหล่านั้นมันก็จะช่วยให้เรามีความอยากได้อยากมีอยากไปก็จะช่วยให้เรานั้นมีแรงสู้ที่ว่าสักวันหนึ่งมันจะต้องเป็นของเรา

Advertisement

Advertisement

3. ให้มองคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา

3   หากใครที่มองไปหาสิ่งที่ไกลแล้วรู้สึกว่ามันไกลไปคงไปไม่ถึงหรอก งั้นลองย้อนกลับไปมองคนที่อยู่หลังเราคนที่มองคำว่าความสบายได้ไม่เห็นคนที่มีเป้าหมายสูงสุดเพียงแค่สามารถใช้ชีวิตให้รอดไปได้ในแต่ละวัน แล้วให้คุณลองคิดว่าถ้าเกิดคนคนนั้นต้องเป็นคุณเองละคุณจะทำยังไงกับชีวิตต่อไป มันก็เป็นแค่หลักจิตวิทยาง่าย ๆ เป็นการเล่นกับความกลัวของตัวเองเพราะมันคงไม่มีใครที่อยากจะให้ชีวิตตัวเองนั้นตกตํ่าลงขนาดนั้นมันก็จะกลายเป็นว่าคุณก็จะรู้สึกกลัวที่จะขี้เกียจเพราะถ้าชีวิตมันพังเพราะความขี้เกียจนั้นคุณคงจะรับสภาพตัวเองไม่ได้แน่ ๆ 

4. คุยกับตัวเอง

4   หลายคนก็คงจะ งง ว่าคุยกับตัวเองมันจะได้อะไร แต่เอาจริง ๆ แล้วการคุยกับตัวเองมันคือการหยุดคิดถึงเรื่องอื่น ๆ แล้วมาโฟกัสกับความคิดตัวเองว่าเอาจริง ๆ แล้วเป้าหมายในชีวิตเราคืออะไรจากประสบการณ์ที่ตัวผมเองได้พบเจอผู้คนมาหลาย ๆ คนก็แทบไม่รู้เลยว่าเอาจริงๆแล้วชีวิตเรานั้นจะต้องเริ่มต้นตอนไหนแล้วไปสิ้นสุดที่ไหน คุณเคยเลือกวันตายให้ตัวเองไหม ถ้าไม่ให้คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณจะตายตอนอายุ 80 ปี คุณจะต้องใช้ชีวิตแบบใช้ชีวิตตามใจตัวเองจริง ๆ ตอนอายุเท่าไหร่ถึงจะคุ้มก่อนตาย แล้วคุณจะต้องมีอะไรบ้างก่อนที่จะเริ่มใช้ชีวิตแล้วคุณจะต้องมีมันตอนอายุเท่าไหร่ ผมเชื่อได้เลยว่าแทบทุกคนคิดไม่ได้ว่าจะมีความพร้อมที่จะออกไปใช้ชีวิตได้ตอนไหนเพราะทุกวันนี้ก็แทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนลองถามตัวเองดูว่าชีวิตต้องการอะไรกันแน่และจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่แค่นี้คุณก็จะได้เป้าหมายหลักของชีวิตละว่าถ้าจะต้องไปให้ถึงเป้าหมายตั้งแต่วันนี้ไปจะต้องทำอะไรบ้างและต้องทำมากขึ้นมากน้อยแค่ไหน

Advertisement

Advertisement

5. มองคนในครอบครัว

5   แน่นอนว่าคนเราจะถ้าไม่ทำเพื่อตัวเองก็ต้องทำเพื่อครอบครัวแล้วเมื่อเราคิดและตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่างแล้วก็ควรคิดถึงครอบครัวเข้าไว้ว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นมันจะส่งผลเสียต่อครอบครัวหรือไม่ เพราะถ้าหากคุณท้อแท้หรือคุณแพ้ขึ้นมาคนที่จะเดือดร้อนอาจจะไม่ได้มีคุณแค่คนเดียวเพราะฉะนั้นอยากให้คุณได้มองไปครอบครัวเข้าไว้เมื่อท้อแท้อยากยอมแพ้ ครอบครัวคุณก็จะคอยให้กำลังใจกับคุณเสมอไม่ว่าจะดีหรือร้ายยังไงครอบครัวก็ยังเป็นครอบครัวเสมอ พลังของครอบครัวนี่ละที่จะทำให้คุณนั้นสามารถผ่านความรู้สึกขี้เกียจไปได้


   หลังจากที่ผมได้ทำการปรับเปลี่ยนตัวเองในทุกวิธีที่ได้บอกไปข้างต้นผมได้ก็ตั้งเป้าหมายชีวิตว่าต้องการที่จะเกษียณอายุการทำงานประจำตอนอายุ 35 ปีแล้วก็ออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่โดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องงานเรื่องเงิน แต่ก็ต้องทำงานส่วนตัวบางอย่างไปด้วยเพื่อให้ยังมีรายได้เข้ามาเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ผมเลยเลือกที่จะทำงานหลาย ๆ อย่างควบคู่ไปกับการลงทุนและตั้งใจทำมันทุกวันแบบไม่มีวันหยุดแต่เสาร์ อาทิตย์ก็อาจจะทำเป็นเวลาสั้น ๆ เน้นให้มีเวลาพักผ่อนบ้าง และผมได้ทำแบบนี้มาได้ตลอด 1 ปีกว่าแล้วและก็ยังมี Passion ในการทำงานเยอะขึ้นทุกวัน ๆ ไปได้อีกเรื่อย ๆ เพราะมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน ได้ลงทุนกับสิ่งที่ชอบ และก็ทำให้ครอบครัวรู้สึกแฮปปี้ที่เราขยันทำงานแล้วผมก็เชื่อว่าสักวันจะต้องประสบความสำเร็จ

   โดยวิธีจัดการกับความขี้เกียจเหล่านี้ผมได้มาจากประสบการณ์ของตัวผมเองซึ่งมันอาจจะไม่สามารถช่วยจัดการกับความรู้สึกขี้เกียจได้ทุกคนแต่อย่างน้อยก็อาจจะเป็นหนึ่งในแรงบัลดาลใจให้กับทุกคนที่เข้ามาอ่านให้รู้สึกมีแนวทางในการสร้างแรงผลักดันให้ตัวเองได้ไม่มากก็น้อยและสิ่งที่สำคัญก็คือจงขยันให้ถูกที่ถูกเวลาแล้วความขยันนั้นจะพาคุณประสบความสำเร็จเอง 

ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบ : รูปภาพที่ 1 โดย mohamed_hassan / รูปภาพที่ 2 โดย SplitShire / รูปภาพที่ 3 โดย avi_acl / รูปภาพที่ 4 โดย geralt / รูปภาพที่ 5 โดย TheVirtualDenise

ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบปก : รูปภาพที่ 1 โดย mohamed_hassan / รูปภาพที่ 2 โดย OpenClipart-Vectors

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

cover anime

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565

ร่วมส่องโปรดีๆ โปรเด็ดๆ ที่ไม่ลับและไม่ควรพลาด มาร่วมแบ่งปันกันได้ที่ Community แชร์โปร

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์