ไลฟ์แฮ็ก
5 เคล็ดลับ หางานใหม่ ตอนอายุ 30+ อย่างไรให้เป๊ะและตรงใจ
จะหางานตอนอายุ 30 ไปแล้วมันคงไม่ใช่เลยง่าย.....
ใครจะอยากรับคนที่อายุ 30 ไปแล้ว จ้างเด็กจบใหม่น่าจะดีกว่านะ....
ถ้าลาออกไปจะหางานได้ไหม.....
ความคิดเหล่านี้คงอยู่ในหัวคนที่อายุ 30 ปีไปแล้วแต่เริ่มหมดไฟในการทำงานและกำลังมองหางานใหม่ รายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงความมั่นคงใหม่ ๆ ด้วยใช่ไหมคะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความไม่มั่นใจว่าถ้าเปลี่ยนงานใหม่ไปแล้วจะได้งานที่ต้องการไหม และต้องปรับตัวกับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างไรดี บทความนี้ขอแนะนำ 5 เคล็ดลับในการหางานใหม่ตอนอายุ 30 ให้ตรงใจมากที่สุดมาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ภาพถ่ายโดย Kaboompics .com จาก Pexelshttps://www.pexels.com/th-th/photo/6384/
เคล็ดลับ ที่ 1 ถามตัวเองให้เคลียร์!!!
ก่อนที่คิดจะหางานใหม่ สิ่งแรกที่ควรจะทำและสำคัญมาก ๆ เลย คือการตั้งคำถามกับตัวเองก่อน ทำไมคุณถึงอยากเปลี่ยนงาน หาเหตุผลจริง ๆของคำถามนี้ให้ได้ก่อน เพราะมีหลาย ๆ คนที่อยากเปลี่ยนงานเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เบื่องาน เจ้านายดุ งานเยอะ เบื่อเพื่อนร่วมงาน และอื่น ๆ ซึ่งเหตุผลเหล่านี้มันคือ "อารมณ์" ของคุณล้วน ๆ ซึ่งนั้นขอบอกเลยว่ายังไม่เพียงพอ ดังนั้นสิ่งที่เราจะขอให้เพื่อน ๆทำในการที่จะเตรียมหางานใหม่คือ เตรียมกระดาษขึ้นมา 1 แผ่น แล้วตอบคำถามที่เราจะให้เพื่อน ๆ ถามตัวเองดังนี้
Advertisement
Advertisement
- ข้อดีของการทำงานกับบริษัทนี้ คืออะไร (เขียนออกมาให้เยอะที่สุด โดยที่ต้องไม่มีความคิดอคติในด้านลบเลย)
-ข้อเสียของการทำงานกับบริษัทนี้ คืออะไร (เขียนออกมาให้เยอะที่สุดเช่นเดียวกัน)
-ข้อเสียที่กล่าวมาทั้งหมด มีอะไรที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงแก้ไข หรือไม่ใส่ใจมันได้บ้าง
-ลักษณะงานในฝันที่คุณอยากจะทำ มีอะไรบ้าง เขียนออกมาให้ละเอียด
-งานที่คุณทำอยู่มีส่วนไหนบ้างที่คล้ายกับงานในฝันของคุณ
หากเขียนออกมาทั้งหมดแล้ว พบว่าข้อดีของงานที่คุณทำอยู่มีเยอะมากกว่าข้อเสียแบบเห็นได้ชัด แสดงว่างานที่คุณทำอยู่ เป็นงานที่ตรงใจคุณอยู่แล้วก็ได้ เพียงแต่งานทุกงาน ล้วนแต่มีพาร์ททีไม่ได้ถูกใจคุณไปทุกอย่าง
ภาพถ่ายโดย Moose Photos จาก Pexelshttps://www.pexels.com/th-th/photo/1586996/
2. Clear Mindset ตัวเองให้ได้ว่าการเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
Advertisement
Advertisement
หากเขียนคำตอบออกมาแล้ว พบว่าข้อเสียมีมากมายเหลือเกิน และงานที่คุณทำก็ล้วนทำร้านสุขภาพจิต สุขภาพของคุณมาก ๆ โอกาสเติบโตก็ไม่มี บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เวลาที่เราทำงานกับองคืกรไหนเป็นเวลานาน ๆจนอายุล่วงเลยมาถึง 30 ++ แล้ว สิ่งที่เป็นตัวขัดขวางเราไม่ให้ไปต่อก็คือ "Mindset" นี้แหละ เพราะเรามักจะติดกับดักความคิดที่ว่า อายุขนาดนี้แล้ว จะหางานใหม่คงยาก ไหนจะเรื่องปรับตัวกับที่ทำงานใหม่อีก เรียนรู้งานใหม่จะสู้เด็กรุ่นใหม่ได้ไหม .... ซึ่งขอบอกว่าหากคุณต้องการความก้าวหน้าในอาชีพการงาน การปรับวิธีคิดเรื่องอายุที่มากขึ้นจะหายากจึงเป็นสิ่งที่ควรทำหากอยากเดินหน้าต่อในการทำงานสายอาชีพตัวเอง เพราะแม้บางงานอาจจะต้องการเด็กจบใหม่ก็จริง แต่ในบางสายอาชีพนั้นก็ต้องการคนทำงานที่มีประสบการณ์ มีทักษะที่หลากหลาย มากกว่าการใช้เวลาในการเทรนด์เด็กจบใหม่ให้เข้าใจงานและมีประสบการณ์ที่เยอะขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจกับตัวเองคือ การหางานใหม่ตอนอายุ 30 นั้นไม่ยาก หากคุณมีทักษะหรือประสบการณ์การทำงานที่ดี นายจ้างจะวิ่งตรงเข้ามาหาคุณอย่างแน่นอน
Advertisement
Advertisement
3. ถ้าตัดสินใจที่จะออก รอหางานให้ได้ก่อน ค่อยเซ็นใบลาออกแบบงามๆ
ยิ่งเราอายุมากขึ้นนั้น การหางานเพื่อให้ตรงใจนั้นเป็นเรื่องที่ช้า เพราะในมุมมองของผู้จ้างงานนั้น ยิ่งอายุเยอะเราจะยิ่งเลอะประสบการณ์ และฐานเงินเดือนของเราก็จะสูงกว่าเด็กที่จบมาใหม่ด้วย เลยไม่ใช่เลยแปลกที่กว่าจะหางานที่ตอบโจทย์ทั้งลักษณะงานและรายได้ที่ดีจะหาปุ๊บได้ปั๊บ มันต้องใช้เวลา ดังนั้นใหม่อยากให้ใช้คำว่า อดทน ในการทำงานที่เดิมไปก่อนถ้าเกิดความรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนงานแล้ว แล้วค่อยๆหางานที่สนใจไปเรื่อยๆ ยิ่งถ้าคุณมีประสบการณ์และการทำงานที่ดีแล้วละก็ เชื่อว่าเราจะได้งานที่ตรงใจแน่นอนค่ะ
ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexelshttps://www.pexels.com/th-th/photo/3205570/
4. หางานให้ตรงกับความถนัดมากที่สุดและพัฒนาทักษะตัวเองให้ดีอยู่เสมอ
หากคุณคิดว่า จะหางานอะไรก็ได้ ขอให้ได้งานใหม่ไว้ก่อน ขอบอกว่าหากคุณคิดแบบนั้น ในไม่ช้า คุณจะเกิดปัญหาแบบเดิม ๆ คือ ทำงานไม่มีความสุข เพราะได้งานที่ไม่ตรงกับความถนัดของตัวเอง แถมต้องใช้เวลาในการเรียนรู้งานอย่างมาก แทบจะสู้เด็กรุ่นใหม่ ๆไม่ได้เลย นั้นก็เป็นเพราะว่าคุณเลือกงานที่ไม่ตรงกับความถนัดหรือความสามารถของคุณเองยังไงละ ข้อแนะนำคือ เมื่อคุณรู้แล้วว่างานในฝันที่คุณอยากได้จริง ๆคืองานลักษณะไหน และทักษะอะไรในงานนั้น ที่คุณควรจะต้อง "มี" และ "เก่ง" คุณก็ควรใช้เวลาเรียนรู้และศึกษาในด้านนั้นจนเก่ง หรือหากงานที่คุณทำอยู่เป็นงานที่ตลาดรองรับอยู่แล้ว และคุณก็ทำมันได้ดีอยู่แล้วด้วย คุณก็สมัครงานที่ต้องกับความสามารถและทักษะของคุณไปเลย อย่าเสียเวลาในการทำงานที่คุณรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เพียงเพื่อต้องการงานมาทำเพียงเท่านั้น
ภาพถ่ายโดย Canva Studio จาก Pexelshttps://www.pexels.com/th-th/photo/3194518/
5. อย่ามองข้ามงาน Freelance
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะหางานไหนที่ตอบโจทย์คุณได้ และจุดมุ่งหมายของการหางานเพียงเพื่อต้องการรายได้ที่มากขึ้นเพื่อมารองรับรายจ่าย เราขอแนะให้ลองหางานฟรีแลนซ์หรืองานพาร์ทไทม์ทำในระหว่างที่ยังทำงานประจำอยู่ หากเป็นไปได้ลองหางานพาร์ทไทม์หรืองานฟรีแลนซ์ที่ตรงกับสายงานที่คุณอยากจะเปลี่ยนไปทำดู เพราะนอกจากจะมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว คุณยังจะได้ลองทำงานที่กำลังจะสมัครงานไปด้วย ว่าเหมาะกับคุณจริง ๆ หรือไม่ จะได้ไม่ทำให้คุณเสียเวลาในการทำงานที่ไม่ใช่และองค์กรก็จะได้คนที่ทำงานที่ใช่ไปนาน ๆ อีกด้วย
หวังว่า 5 เทคนิคที่นำมาฝากกันในวันนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ดีขึ้นก่อนการหางานใหม่นะคะ โชคดีได้งานที่ต้องการ ตรงใจกันทุกท่าน พบกันใหม่บทความหน้าจ้า
ภาพถ่ายโดย Martine Savard จาก Pexelshttps://www.pexels.com/th-th/photo/265036/
ความคิดเห็น