ไลฟ์แฮ็ก
5 เทคนิคอ่านหนังสือเร็วขึ้นที่คนไม่ค่อยใช้!
สั้น ๆ : เลิกอ่านทุกตัวอักษร!
ยาว ๆ : ในยุคที่ทุกคนเร่งรีบ มีสิ่งที่ต้องทำมากขึ้น การซื้อหนังสือมาอ่านสักเล่มดูเป็นอะไรที่ใช้เวลามาก วันนี้ผมเลยจะมาแบ่งปัน 5 เทคนิคอ่านหนังสือเร็วขึ้นที่คนไม่ค่อยใช้กัน เพื่อให้คุณอ่านหนังสือได้มากขึ้นแม้จะมีเวลาไม่มากครับ
📌ขอหมายเหตุก่อนว่าคำแนะนำนี้เหมาะสำหรับหนังสือประเภท non-fiction และวัตถุประสงค์ของการอ่านคือเพื่อเรียนรู้แนวคิดต่าง ๆ จากหนังสือนั้นให้ได้มากที่สุดในเวลาที่น้อยที่สุด
📌สำหรับหนังสือประเภท fiction หรือหนังสือที่อ่านเป็นงานอดิเรก ผมแนะนำให้อ่านเพื่อดื่มด่ำกับภาษาของผู้เขียนน่าจะได้อรรถรสที่สุดครับ
หนังสือ non-fiction แทบทุกเล่ม ในแต่ละบทจะมีอยู่สี่ส่วนหลัก ๆ ครับ
1. หัวข้อ
2. คำอธิบาย
3. ตัวอย่าง
4. สรุป
ซึ่งโดยเฉลี่ยในบท ๆ นึงจะมีใจความหลักจริง ๆ แค่ 15-20% เท่านั้น ส่วนที่เหลือคือส่วนที่เราสามารถอ่านผ่าน ๆ หรือข้ามได้เลยครับ
Advertisement
Advertisement
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าส่วนไหนควรอ่าน ส่วนไหนควรข้าม?
เทคนิคที่ผมกำลังจะแนะนำนี้จะช่วยให้คุณมองออกมากขึ้นว่าเนื้อหาส่วนไหนที่เราสามารถข้ามได้ครับ
1. อ่านสารบัญ
การอ่านสารบัญจะช่วยให้เราพอมีไอเดียว่าหนังสือนี้เกี่ยวกับอะไร แต่ละบทจะพูดถึงเรื่องอะไร ซึ่งบางเล่มก็อาจจะบอกชัดเจนมาก แต่บางเล่มหัวข้อก็อาจจะไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับเนื้อหาในบทเลย แต่ก็แนะนำให้อ่านนะครับ
2. อ่านสองบทแรกให้ละเอียด
ผมจะตั้งใจอ่านสองบทแรกมาก ๆ เพื่อให้ชินกับภาษาของผู้เขียนครับ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าจังหวะไหนที่ผู้เขียนพูดถึงใจความสำคัญ จังหวะไหนที่ผู้เขียนแค่เล่าเรื่องหรือยกตัวอย่าง
3. ไม่ต้องสนว่าผู้เขียนอ้างอิงถึงใคร
เวลาผู้เขียนเล่าถึงผู้เชี่ยวชาญสักคน คำอธิบายของคน ๆ นั้นอาจจะยาวเป็นย่อหน้าจนเราลืมไปแล้วว่าต้นประโยคเขาพูดถึงเรื่องอะไรไว้ เช่น
Advertisement
Advertisement
"วันนั้นผมได้มีโอกาสคุยกับคนที่เก่งมาก ๆ คนหนึ่งชื่อคุณเอดเวิร์ด คุณเอดเวิร์ดเป็นที่ปรึกษาของบริษัทชื่อดังที่บริหารเงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท นอกจากนี้เขายังเป็นนักเขียนหนังสือ Bestseller ชื่อดังที่ติดอันดับหนึ่งมากว่าสองเดือน และยังเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาการเงินอีกด้วย ซึ่งเขาก็ได้ให้คำแนะนำในเรื่องนี้มาว่า...."
ใจความของประโยคนี้คือ
"วันนั้นผมมีโอกาสได้คุยกับคนที่เก่งมาก ๆ ชื่อเอดเวิร์ด คำแนะนำของเขาคือ..."
ซึ่งเวลาเราซื้อหนังสือสักเล่มมา เราก็คงไม่มานั่งสงสัยในตัวผู้เขียนหรือคนที่ผู้เขียนไปขอคำแนะนำมาอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราสามารถข้ามไปที่ใจความได้เลย ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นจะเป็นใครไม่มีความจำเป็นกับเราอยู่แล้วครับ
4. ข้ามตัวอย่าง
ถ้าเราจับใจความหลักของบทนั้นได้แล้ว การอ่านเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน หรือตัวอย่างคนที่เคยใช้แนวคิดนั้นในชีวิตของตัวเอง ไม่ได้เพิ่มคุณค่าให้เนื้อหาที่เราต้องการขนาดนั้น ถ้าคุณพอเห็นภาพแล้วก็ข้ามได้เลยครับ
Advertisement
Advertisement
5. อย่ารู้สึกผิดที่อ่านไม่ครบทุกหน้า
บางครั้งเวลาเราซื้อหนังสือมาสักเล่มเราก็อยากจะอ่านให้คุ้มกับราคาหนังสือ แต่ไม่ว่าเราจะอ่านหนังสือเล่มนั้นสองหน้าหรือทั้งเล่ม เราก็จ่ายค่าหนังสือไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะคำนึงถึงคือเราเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ได้เพิ่มคุณค่าให้ชีวิตเราอยู่หรือเปล่า ความคุ้มค่าของหนังสือไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราอ่านมันไปกี่หน้า แต่เราได้ข้อคิดจากหนังสือเล่มนั้นมากแค่ไหน
สรุป 5 เทคนิคอ่านหนังสือเร็วขึ้นที่คนไม่ค่อยใช้
1. อ่านสารบัญเพื่อให้รู้เนื้อหาคร่าว ๆ
2. ตั้งใจอ่านสองบทแรกเพื่อให้ชินกับสไตล์ผู้เขียน
3. เวลาผู้เขียนอ้างอิงเนื้อหามาจากคนอื่น ไม่ต้องสนว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร
4. ถ้าจับใจความได้แล้ว ข้ามตัวอย่างได้เลย
5. อย่ารู้สึกผิดที่อ่านไม่ครบทุกหน้า
เพียงแค่ทำตาม 5 เทคนิคนี้คุณก็สามารถอ่านหนังสือได้เร็วขึ้น ทำให้คุณประหยัดเวลาอ่านหนังสือในยุคที่เราต้องแข่งกับเวลาครับ
ติดตามผมได้บน Blockdit (เพจปันความคิด): https://www.blockdit.com/mindminutes
Credit รูปภาพ: unsplash.com
ความคิดเห็น