เพลง

5 เพลงประกอบละครพีเรียด สื่อถึงแก่นเรื่อง ไพเราะจับหัวใจ

407
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
5 เพลงประกอบละครพีเรียด สื่อถึงแก่นเรื่อง ไพเราะจับหัวใจ

ละครพีเรียด เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับวงการบันเทิงไทยมาอย่างยาวนาน  ละครเรื่องหนึ่งนั้นจะสมบูรณ์ได้ต้องอาศัยปัจจัยหลายด้าน ๆ สนับสนุนซึ่งกันและกัน เพลงประกอบละคร ก็เป็นอีกส่วนที่เสริมสร้างอารมณ์ให้ผู้ชมคล้อยตามและอินไปกับเนื้อหาภายใน วันนี้ผู้เขียนจึงขอแนะนำ 5 เพลงประกอบละคร ที่ลึกซึ้งกินใจ ไพเราะ และสื่อถึงแก่นของเรื่องได้เป็นอย่างดี ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลยค่ะ

1. รักแท้ จากละคร คุณชาย ปี 2565 ทางช่องวัน 31 ขับร้องโดย นุนิว - ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์

"คุณชาย" ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหลักอย่าง เทียน ทายาทอันดับ 1 ของตระกูลจีนที่มีรสนิยมเบี่ยงเบนทางเพศ หรือในละครให้คำจำกัดความกับกลุ่มคนประเภทนี้ว่า "ต้วนซิ่ว" ครอบครัวของเขาพยายามขัดขวาง ปกปิด และพยายามเปลี่ยนแปลงให้ลูกชายของตนลงเอยกับผู้หญิง เพื่อรักษาและสืบทอดอำนาจ  เมื่อเทียนตกหลุมรักจิวหนุ่มนักฆ่า พวกเขาทั้งสองจึงต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดไปด้วยกัน

Advertisement

Advertisement

ความรู้สึกหลังฟังเพลง สื่อถึงการต่อสู้ของคนที่รักเพศเดียวกันที่ต้องฝ่าฟันทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะทุกข์ยากขนาดไหนก็จะผ่านไปด้วยกัน ขอเพียงแค่หันมองไปแล้วมีคนที่รักอยู่ข้าง ๆ สิ่งเดียวที่จะทำให้ย่อท้อและพ่ายแพ้คือการที่อีกฝ่ายไม่มีใจให้ เมื่อคนทั้งสองยึดมั่นในรักแท้ก็ไม่มีวันแพ้สิ่งใด เป็นกำลังใจและเครื่องแสดงความรักอันบริสุทธิ์ เสียงร้องของนุนิวและประสบการณ์การแสดงซีรีส์วายมาทำให้เขาเข้าใจและสื่ออินเนอร์การร้องเป็นตัวแทนของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติ

2. ความรัก...ไม่มีวันละลาย จากละคร สายโลหิต ปี 2538 ทางช่อง 7  ขับร้องโดย พีระพงษ์ พลชนะ หรือ ต้อม เรนโบว์ และ จิณณา เชิญพิพัฒธนสกุล

ความรักของขุนไกรและดาวเรืองต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งศึกสงครามบ้านเมือง รวมถึงบรรดาตัวร้ายที่คอยกลั่นแกล้งและขัดขวาง เมื่อเมฆหมอกร้ายได้ผ่านพ้นไปทั้งสองจึงได้ครองรักกัน

Advertisement

Advertisement

ความรู้สึกหลังฟังเพลง ขุนไกรเป็นตัวละครที่ยึดมั่นในหน้าที่ ประพฤติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละได้ทุกอย่างเพื่อพิทักษ์บ้านเมือง ยามที่ต้องจากเมียและลูกไปออกรบซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิตสูง เพลงนี้จึงเปรียบเสมือนสื่อแทนใจให้เมียคลายทุกข์ และทำใจให้ได้ว่าหากผัวตายไม่รอดกลับมาก็ให้ปลงใจว่าได้รับใช้ชาติด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ถึงกายเราสองจะแยกจากแต่ความรักของพวกเราจะยังคงอยู่ตลอดไป เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ไพเราะ แสดงความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ในยามที่บ้านเมืองไม่สงบสุข โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบดนตรีประกอบและการร้องร่วมกันของทั้งสองท่านมาก ๆ ค่ะ แทนความรู้สึกของพี่ขุนไกรและแม่หญิงดาวเรืองได้อย่างลึกซึ้งกินใจดีค่ะ

3. เธอคือใคร จากละคร ทวิภพ ปี 2554 ทางช่อง 7  มีสองเวอร์ชัน ขับร้องโดย หญิง - นลินรัตน์ พิชัยพาณิชย์ และ อาจารย์อ๋อง - ชิตพงษ์ ตรีมาศ

Advertisement

Advertisement

*เนื่องจากผู้เขียนยังไม่พบลิงก์ของเพลงทีถูกลิขสิทธิ์  ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่อยากเขียนถึงจริง ๆ

เนื้อหาบางส่วนใน ทวิภพ ของ ทมยันตี

ทวิภพ ถือเป็นบทประพันธ์ในตำนานของการข้ามภพจากปัจจุบันไปสู่อดีตของ แม่มณี ที่ข้ามมิติแห่งกาลเวลาผ่านกระจกไปยังเรือนของคุณหลวงอัครเทพวรากร เมื่อคนต่างยุคต้องมาอยู่ร่วมเรือนเดียวกันจึงเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้น จนสามารถปลูกต้นรักของทั้งสองให้เบ่งบานในใจได้

ความรู้สึกหลังฟังเพลง ช่วงแรกสื่อถึงความแปลกใจของทั้งสองว่าเหตุการณ์ตรงหน้านั้นเป็นจริงหรือฝัน ต่อมาเมื่อทั้งสองเรียนรู้กันและกันจนเกิดเป็นความรัก แต่ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน ทั้งพระเอกและนางเอกต่างมีคนข้างหลังมากมาย ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง และชีวิตในโลกใบนั้น ๆ เมื่อการเดินทางเข้า-ออกอดีตของแม่มณีในแต่ละครั้งทำให้กระจกซึ่งเป็นสื่อกลางเกิดรอยร้าว เมื่อกระจกกำลังจะแตกเท่ากับว่าเธอและเขาต้องตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกไหน อดีต หรือ ปัจจุบัน ถ้าเป็นไปได้ทั้งสองอยากอธิษฐานต่อเบื้องบนให้มิติของเวลาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน สามารถเชื่อมโยงกันได้ตลอดไป เนื้อเพลงสามารถนำมาร้องได้สองเวอร์ชันเพื่อแทนความรู้สึกของแม่มณีและคุณหลวง โดยที่ไม่ต้องปรับคำร้องเลย ฟังแล้วรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในห้วงเวลาใดเวลาหนึ่งเหมือนแม่มณีเลยค่ะ ช่วงท้ายของเพลงผู้เขียนรู้สึกเหมือนเป็นแม่มณีที่คุณหลวงพยายามฉุดรั้งเอาไว้ไม่ให้กลับไปปัจจุบัน

4. ดั่งฝันฉันใด จากละคร หัวใจรักข้ามภพ ปี 2553 ทางช่อง 3 ขับร้องโดย รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือ แพท วง Klear

เรื่องราวของลูกจัน แม่หญิงจากอยุธยาที่ลี้ภัยสงครามจนบังเอิญข้ามภพมาสู่ยุคปัจจุบัน ได้มาพบกับ มาร์ค ผู้กำกับการแสดงหนุ่ม ความวุ่นวายสับสนอลม่านจึงเกิดขึ้น

ความรู้สึกหลังฟังเพลง ชอบตั้งแต่ดนตรีประกอบมีการนำดนตรีสากลและดนตรีไทยมาประยุกต์เข้าด้วยกัน ขิม สื่อถึงความเป็นกุลสตรีของแม่ลูกจันและบอกเล่าการเดินทางของความรัก  เสียงกลองแสดงถึงศึกสงครามและการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อบ้านเมืองของสตรี ส่วนดนตรีสากลสื่อถึงโลกยุคปัจจุบันและพระเอกที่นางเอกต้องเรียนรู้ ท้ายที่สุดเขาและเธอก็สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกันได้เพราะความรักเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง เรียกได้ว่าเนื้อหาในละคร ดนตรีรวมถึงถึงคำร้องของเพลงเข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นเพลงประกอบละครพีเรียดครั้งแรกของวง Klear ซึ่งถือว่าผสมผสานได้ดีระหว่างความโมเดิร์นและความพีเรียด

5. แต่ปางก่อน จากละคร แต่ปางก่อน ปี 2560 ทางช่องวัน 31 ขับร้องโดย ปัณฑพล ประสารราชกิจ หรือ โอม  COCKTAIL และ พรชนก เลี่ยนกัตวา หรือ ปิ่น เดอะสตาร์ 12

สามภพ สามชาติ ที่เขาและเธอต่างรอเพื่อกลับมาคู่กัน

ความรู้สึกหลังฟังเพลง โอม และปิ่นคือตัวแทนของพระเอก-นางเอกที่รอคอยการสมหวังในรักแบบเป็นรูปธรรม ฟังแล้วมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลง ทำไมเราถึงรู้สึกผูกพันกับบางคนได้ถึงเพียงนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน แรกพบสบตาก็รู้สึกเหมือนเราเคยรักกันมาก่อน คงจะเป็นบุญพาวาสนาส่งที่ทำให้เราได้เจอกันอีก ยิ่งอินไปกับเนื้อหาของละคร ทุก ๆ คำร้องของเพลงยิ่งกรีดซ้ำถึงความเจ็บปวด อดีต และการรอคอยเพื่อจะได้อยู่ร่วมกัน ถึง สามชาติที่ทั้งสองต่างรอคอยกันมา สำหรับเราถ้าต้องรอคอยอะไรนานขนาดนี้คงทรมานจิตใจอย่างรุนแรง แต่ตอนท้ายของเพลงก็ได้ให้พลังบวกกับความสุขที่ได้จากการอดทนและเพียรพยายาม เป็นการเรียบเรียงดนตรีและสไตล์การร้องที่ทำให้เพลงนี้มีความร่วมสมัยมากขึ้น สามารถดึงอารมณ์ของผู้ฟังยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

เพลงประกอบละครทั้ง 5 เพลงเป็นเพลงที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ จึงอยากนำมาแบ่งปันให้ทุกท่าน เวลาฟังทีไรเหมือนผู้เขียนได้ย้อนไปในช่วงที่ชมละครเรื่องนั้น ๆ เลยค่ะ คิดถึงวันวานยังหวานอยู่  การดูละครและฟังเพลงถือเป็นการพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวันได้ดีมาก ๆ ค่ะ

เครดิต

ภาพพื้นหลังหน้าปก

ภาพหน้าปก

ภาพประกอบเนื้อหา

ลิงก์คลิปวิดีโอ

จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์