5 แมวสายพันธุ์นอกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด!!

---

Top 5 สายพันธุ์แมวที่คนไทยชื่นชอบ และนิยมนำมาเลี้ยงมากที่สุด ซึ่งมักถูกพูดถึงในหมู่คนที่รักสัตว์หรือชื่นชอบแมวบ่อยๆ โดยแต่ละสายพันธุ์มีทั้งจุดเด่นและความน่ารักที่แตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย รวมถึงพฤติกรรมการเลี้ยงดู เราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงดูแมวที่ทุกท่านชื่นชอบมาให้อ่าน เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่รักแมวและต้องการเลี้ยงแมวเป็นเพื่อน ดังต่อไปนี้

อันดับ 1 แมวพันธุ์เปอร์เซีย (Persian)

ราชินีแมวจากดินแดนตะวันออกกลาง มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่านในปัจจุบัน แมวสายพันธุ์เปอร์เซียเป็นแมวสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งความน่ารักทั้งหน้าตาที่น่าเอ็นดู ขนปุกปุยที่มีหลากหลายสีสัน และรวมถึงลักษณะนิสัยส่วนตัวของแมวเปอร์เซียอีกด้วย

ลักษณะของแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย

ในส่วนของอาหารการกินของแมวเปอร์เซีย ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียมักหมั่นทำความสะอาดขนด้วยการเลียขนอยู่เสมอ เป็นสาเหตุในการกินเส้นขน ทำให้เส้นขนไปรวมกันในช่องท้องเป็นจำนวนมาก ทำให้อาจมีอาการสำรอกหรือมีปัญหาต่อระบบย่อยอาหาร ทางเดินอาหารอุดตันได้

อันดับ 2 แมวสายพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)

แมวสายพันธุ์แถบอเมริกันที่สืบเชื้อสายมากจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา ในสมัยที่ชาวยุโรปล่องเรือไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ พวกเขาได้นำแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ขึ้นเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และในเวลาต่อมาได้มีการพัฒนาสายพันธุ์จนกลายเป็นแมวพื้นเมืองของอเมริกาในที่สุด

ลักษณะของแมวสายพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์

แมวอเมริกันชอร์ตแฮร์มีรูปร่างขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโตและมีกล้ามเนื้อแข็งแรง อกใหญ่ ขาใหญ่ ใบหูมีขอบเป็นทรงกลมมน ส่วนหัวมีลักษณะเป็นรูปไข่ ดวงตากลมโตมีสีเขียวมรกต มีลักษณะสีขน และรูปร่างมากกว่า 80 แบบ

ลักษณะนิสัยของแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์

เป็นแมวช่างสงสัย ร่าเริง ขี้เล่นและมีสเนห์ แต่เป็นแมวที่ฝึกค่อนข้างยาก

การเลี้ยงดูแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์

เจ้าของต้องหมั่นดูแลและเอาใจใส่อย่างมาก เพราะแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ขนสั้นส่วนใหญ่มักจะมีปัญหา เป็นเชื้อราและหวัดได้ง่าย ดังนั้นเจ้าของควรพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ ส่วนปัญหาเรื่องขนร่วงมีน้อยมาก มักจะเป็นแค่ในช่วงผลัดขนปีละ 2 ครั้ง

อันดับ 3 สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold)

แมวสายพันธ์สก็อตติช โฟลด์ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1961 ที่ประเทศสก็อตแลนด์ ชื่อว่า Susie แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบชื่อสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจากลักษณะของ Susie มีใบหูพับและมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก หลังจากนั้น Susie ก็ให้กำเนิดลูกแมวสองตัว ซึ่งมีลักษณะหูพับเหมือนกับ Susie

William Ross ผู้ค้นพบคนแรกก็ได้นำลูกแมวตัวเมียไปเลี้ยง เมื่อลูกแมวตัวนั้นโตขึ้นจึงนำไปผสมพันธ์ุ บริติช ชอร์ตแฮร์จนกลายเป็นที่มาของแมวสายพันธ์ุสก็อตติช โฟลด์ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966

ลักษณะของแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์

แมวสายพันธุ์นี้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือแบบขนสั้นกับแบบขนยาว โดยทั้ง 2 แบบจะมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ มีหูตั้งตรงขนาดกลางไปจนถึงหูพับขนาดเล็กที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่มีลักษณะกลม ในช่วง 2 - 3 อาทิตย์แรกหูแมวจะเริ่มพับลง จมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา บางตัวจะมีรูปปากที่โค้งได้รูปกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของแมวยิ้ม หรือ Smiling cat นั่นเอง

ลักษณะนิสัยของแมวสก็อตติช โฟลด์

เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง ชอบที่จะเล่นเฉพาะเวลาที่เจ้าของมาเล่นด้วย ชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง บางตัวอาจจะไม่ชอบนอนบนตัก แต่เลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ เจ้าของแทน

การเลี้ยงดูแมวสก็อตติช โฟลด์

การเลี้ยงดูแมวสก็อตติช โฟลด์ค่อนข้างง่าย แค่หมั่นแปรงขน 1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับขนสั้น แต่สำหรับขนยาวนั้นจะต้องดูแลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหูจะต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยครั้ง พอ ๆ กับการแปรงขน โดยทั่วไปส่วนใหญ่แมวพันธุ์นี้จะมีร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงนัก แต่ก็ควรดูแลและใส่ใจสัตว์เลี้ยงของคุณมาก ๆ

อันดับ 4 แมวสายพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์ (British Shorthair)

แมวสายพันธุ์ท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ เล่ากันว่าบรรพบุรุษของแมวสายพันธุ์บริติชชอร์ตแฮร์ มาจากแมวที่ชาวโรมันเอามาเลี้ยงเมื่อ 2000 ปีก่อน และเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในประเทศต้นกำเนิดและประเทศอื่น ๆ ในแถบยุโรปจนถึงปัจจุบัน แมวสายพันธุ์นี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ฝึกสัตว์ เพื่อใช้แสดงในโฆษณาหรือเข้าฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวูด เนื่องจากแมวบริติชชอร์ตแฮร์เป็นแมวที่เฉลียวฉลาดอย่างมาก

ลักษณะของแมวสายพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์

เป็นแมวที่มีขนาดกะทัดรัด สมดุลดี แข็งแรง หน้าอกเต็มและกว้าง ขาสั้น อุ้งเท้ากลม หางหนากลม หน้ากลมรับกับใบหูเล็ก ดวงตากลมโต แก้มยุ้ย คางหนา คอสั้น จมูกค่อนข้างสั้น ขนหนาและสั้น มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 - 20 ปี

ลักษณะนิสัยของแมวบริติช ชอร์ตแฮร์

เป็นแมวค่อนข้างนิ่งสงบกว่าแมวพันธุ์อื่น ๆ เป็นมิตรกับผู้คนทั่วไปรวมถึงสัตว์ชนิดอื่น ๆ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย

การเลี้ยงดูแมวบริติช ชอร์ตแฮร์

แมวสายพันธุ์เป็นแมวที่ดูแลง่าย เลี้ยงง่าย แต่ควรเลี้ยงในบ้านหรือแบบระบบปืด เนื่องจากแมวบริติช ชอร์ตแฮร์ เป็นแมวที่มีพัฒนาการเจิรญเติบโตช้าอยู่สักหน่อย

อันดับ 5 แมวสายพันธุ์เอ็กโซติก (Exotic)

แมวเอ็กโซติกสืบเชื้อสายมาจากแมว 2 สายพันธุ์ คือแมวสายพันธุ์เปอร์เซียและแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ จนมาเป็นแมวเอ็กโซติกหลากหลายสายพันธุ์ ได้แก่ Exotic Blue Tabby, Exotic Red Tabby, Exotic Cream Tabby

ลักษณะของแมวสายพันธุ์เอ็กโซติก

ลักษณะทั่วไปของแมวเอ็กโซติกเหมือนกับแมวเปอร์เซียทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหัวกลมใหญ่ ตากลมโต จมูกหักเล็กน้อย ใบหูสั้น ที่แตกต่างก็คือลักษณะขนที่สั้นกว่าและหนานุ่มคล้ายกำมะหยี่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแมวสายพันธุ์นี้

ลักษณะนิสัยของแมวเอ็กโซติก

เป็นแมวที่ซื่อสัตว์ต่อเจ้าของอย่างมาก ไม่ค่อยหงุดหงิดและมีความอดทนสูง ขี้อ้อน อุปนิสัยแทบจะไม่ต่างกับแมวเปอร์เซียเลย แมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยส่งเสียง หากต้องการเรียกร้องความสนใจ ก็จะทำแค่นั่งอยู่ข้างหน้าคุณ กระโดดมานั่งบนตักหรือเอาจมูกมาแตะที่หน้าของคุณเท่านั้น นอกจากนี้แมวเอ็กโซติกบางตัวยังชอบนั่งอยู่บนไหล่และกอดคุณเวลาเล่นด้วย

การเลี้ยงดูแมวเอ็กโซติก

เป็นแมวที่เหมาะแก่การเลี้ยงระบบปิดหรือเลี้ยงในบ้านอย่างมาก การดูแลขนของแมวสายพันธุ์นี้ต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่าแมวเปอร์เซียทั่ว ๆ ไป

แมวทั้ง 5 สายพันธุ์นี้เป็นแค่การยกตัวอย่างแมวที่คนไทยนิยมเลี้ยง ยังมีแมวอีกหลายสายพันธ์ุที่คนชื่นชอบและนิยมเลี้ยงอีกมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าคนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงแมวหรือเลี้ยงมานานแล้วต้องพึงระลึกเสมอว่า ไม่ว่าจะแมวสายพันธุ์ไหนก็ต้องการความรัก ความใส่ใจจากเจ้าของอย่างสม่ำเสมอ อยากให้เจ้าของทุกท่านตัดสินใจก่อนจะเลี้ยงแมวว่าไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดก็ตาม ท่านพร้อมจะรับผิดชอบและดูแลแมวที่ท่านจะนำมาเลี้ยง มีความพร้อมที่จะดูแลและใส่ใจมากพอหรือไม่ ท่านจะรักและดูแลไม่ว่าแมวตัวนั้นจะน่ารักหรือไม่น่ารักเท่าตอนเด็ก จะป่วยหรือแก่ก็จะไม่ทิ้งมันไป อยากให้ท่านพึงระลึกและนึกคิดก่อนที่จะเลี้ยงสัตว์สักตัว ท่านพร้อมจะรับผิดชอบตลอดชีวิตของสัตว์ตัวนั้นหรือไม่ มีเพียงเท่านี้ที่ผู้เขียนอยากฝากเอาไว้ หากท่านมีความพร้อมแล้วก็นำแมวทั้ง 5 สายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีในการตัดสินใจของท่าน

รูปภาพประกอบ

• ภาพปกจากนักเขียน
• ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://pixabay.comรูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5