อื่นๆ
5 ไม้ด่างสวย ๆ สำหรับมือใหม่หัดปลูก โตเร็ว ดูแลง่าย
5 ไม้ด่างสวย ๆ สำหรับมือใหม่หัดปลูก โตเร็ว ดูแลง่าย
กระแสไม้ด่างมาแรงมาก ๆ ในช่วงนี้ แม้ว่าสินค้าหลายตัว ร้านค้าหลายที่จะได้รับผลกระทบจากพิษโควิด แต่ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่ดำเนินไปได้สวยทีเดียวคือ ธุรกิจขายต้นไม้ โดยเฉพาะไม้ด่างราคาแต่ละต้นนั้นทำเอาหลายคนตกใจเลยทีเดียวว่ามันราคาแรงขนาดนั้นเลยหรือ
กระแสไม้ด่างมีขึ้นมีลงตามจังหวะ ตามความนิยม ไม้บางตัวราคาก็ไม่เคยตกเลย เพราะไม้ด่างนั้นค่อนข้างจะเลี้ยงยากกว่าไม้เขียวแถมยังหายากกว่าอีกด้วย ส่งผลให้หลายต้นราคาทะลุดาวอังคารไปแล้ว สำหรับท่านใดที่เพิ่งจะเข้ามาวงการต้นไม้อยากจะเริ่มปลูกไม้ด่าง เป็นมือใหม่อยากจะปลูกต้นไหนดี วันนี้อ้ายฉิงขออนุญาตแนะนำ 5 ไม้ด่างสวย ๆ ให้เลือกหามาปลูกกันค่ะ รับรองว่าแต่ละต้นสวยและราคาเอื้อมถึงแน่นอน มีต้นอะไรบ้างมาติดตามกันเลย
Advertisement
Advertisement
1. เงินไหลมาด่างเหลืองและด่างขาว
สำหรับต้นเงินไหลมาด่างนั้นกระแสตกยากพอสมควรเลยทั้งเงินไหลมาด่างเหลือง เงินไหลมาด่างขาว ซึ่งไม้ 2 ชนิดนี้เป็นสกุลเดียวกันคือสกุลซิงโกเนียม (Syngonium) ในส่วนของราคาด่างเหลืองจะราคาสูงกว่าด่างขาว แต่วิธีในการเลี้ยงดูเหมือนกันเลย สามารถเลี้ยงแบบปักหลักให้เลื้อยหรือจะใส่กระถางแขวนก็ได้แต่ให้เลื้อยจะดูสวยกว่าใบต้นเงินไหลมาด่างจะสวยและมีขนาดใหญ่ขึ้น
เงินไหลมาด่างเหลืองนั้นจริง ๆ ก็มาจากต้นด่างขาวแต่ก็กลายอย่างถาวรจนเป็นชนิดของตัวเองได้ ความด่างและสีเหลืองมีความเสถียร แต่หลายคนก็ยังคงแยกไม่ออกว่าเงินไหลมาด่างเหลืองและด่างขาวนั้นต่างกันอย่างไร เนื่องจากตัวด่างขาวเองยอดใหม่มามักจะมีสีออกเหลือง ทำให้หลายคนสับสนหรือโดนคนขายหลอกเอาง่าย ๆ
ซึ่งด่างเหลืองนั้นจะมีความเหลืองเข้มทุกใบ และพอใบแก่จะสีจะซีดจางลงเป็นสีเหลืองอมขาวนวล ๆ แต่กับเงินไหลมาด่างขาวนั้นสีขาวสว่าง ขาวเหมือนสีกระดาษ A4 ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ เลย แม้ว่ายอดจะเหลืองแต่ถ้าใบอื่นขาวก็ไม่ใช่ด่างเหลือง ฉะนั้นก็ควรสังเกตดูให้ดี
Advertisement
Advertisement
ในส่วนของการดูแลนั้นก็ไม่ถือว่ายาก อย่ารดน้ำเยอะจนเกินไปเพราะจะทำให้เน่าได้ ดินปลูกควรมีความโปร่งระบายน้ำได้ดี ให้น้ำ 3 – 5 วัน/ครั้ง แต่ก็ควรดูสภาพอากาศด้วย ช่วงไหนร้อนจัดวัสดุปลูกแห้งเร็วเราก็จะต้องรด แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลการปลูกแบบชำน้ำก็น่าสนใจ ก็เอามาปักเหมือนแจกันเลย ปุ๋ยก็หาเป็นน้ำมาบำรุงก็ได้ แต่ก็ควรจะหมั่นตรวจสอบน้ำอย่าให้เน่าเสียหรือมีลูกยุงมาวางไข่ควรจะเปลี่ยนน้ำให้ใหม่เสมอ และให้อยู่ในแดดรำไร เงินไหลมาด่างไม่ชอบแดดจัด
2. ยางอินเดียด่าง( F.elastica Roxb. Ex Hornem Variegated)
ต้นยางอินเดียนั้นเรียกได้ว่าเป็นไม้ยอดฮิตแทบจะตลอดการเลย ไม่ว่าใครก็มักจะมีติดบ้าน ประดับห้อง ซึ่งเพิ่มความสวยงามให้มุมบ้านได้มากทีเดียว ยางอินเดียนั้นไม่ว่าจะต้นปกติหรือด่างก็นิยมปลูกกันเยอะมาก สำหรับคนที่ชอบแบบด่างก็ราคาไม่แพงด้วยหาซื้อมาได้เลย
Advertisement
Advertisement
ยางอินเดีย หรือ ฟิคัส อีลาสติกา ( F.elastica Roxb. Ex Hornem) เป็นต้นไม้ในเขตทวีปเอเชีย แถบประเทศ อินเดีย เนปาน ภูฏาน พม่า จีน มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย แต่ในไทยเราก็นิยมปลูกกัน เนื่องจากมีการปลูกเพื่อจำหน่ายใบอยู่แล้ว แต่การปลูกเป็นไม้ประดับก็นิยมไม่แพ้กัน ต้องใส่กระถาง วางในมุมสวย ๆ ที่มีแดดส่องถึง เพื่อให้ต้นยางอินเดียเจริญเติบโตได้ดี
สำหรับยางอินเดียใบด่างน่าสะสม น่านำมาปลูกจะมี ยางอินเดียด่างขาวหรือด่างครีม ยางอินเดียด่างสามสี ยางอินเดียด่างประเหลือง ตัวสุดท้ายนี้จะค่อนข้างหายากและราคาสูงกว่าตัวด่างอื่น ๆ เนื่องจากค่อนข้างหายากพอสมควรในไทยเรา ส่วนตัวด่างสีอื่น ๆ ก็มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ตามขนาดและฟอร์ม
การดูแลต้นยางอินเดีย สิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างแรกเลยคืออากาศจะต้องถ่ายเทสะดวก หลายคนที่ปลูกยางอินเดียในห้องแล้วเกิดอาการใบร่วง แห้ง ยืนต้นตาย เน่า สาเหตุหนึ่งมาจากอากาศภายในห้องนั้น ๆ ร้อนอับชื้นเกินไป วัสดุปลูกจะต้องโปร่ง สามารถระบายน้ำได้ดีมาก ๆ แดดจะต้องส่องถึงเพียงพอให้สังเคราะห์แสง หากแสงน้อยก็ควรหาเวลายกออกมาอาบแดดเช้าเสมอ ๆ
ปุ๋ยสามารถใช้เป็นออสโมโค้ดละลายช้ายได้ 3 เดือน/ครั้ง ส่วนน้ำให้รดแต่พอดีอย่าแฉะเกินไป หากต้นเริ่มโตสูงขึ้นให้เปลี่ยนลงปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และอย่าปลูกลงดินเพราะว่าต้นจะใหญ่เกินไป ระบบรากของต้นยางอินเดียอาจส่งผลกระทบต่อตัวบ้านได้ ฉะนั้นปลูกในกระถางจะเหมาะมากกว่า
3. หนวดปลาหมึกด่าง(S. arboricola Variegated)
ต้นนี้จะเหมาะสำหรับการปลูกในห้อง ในอาคารเลย เนื่องจากเป็นไม้ที่มีความทนร่มได้เป็นอย่างดี เป็นไม้ในสกุลเชฟเฟลอรา (Schefflera) คนไทยจะนิยมเรียกว่า ต้นหนวดปลาหมึก ซึ่งมีด้วยกันกว่า 600 ชนิด แต่ที่นิยมปลูก นิยมนำมาจัดสวนจะเป็น หนวดปลาหมึกด่างใบกลม หรือ เชฟเฟลอรา อาร์บอริโคลา (ด่าง) (S. arboricola Variegated) เป็นด่างเหลืองสวยงามโดดเด่นมาก
นอกจากด่างสีเหลืองแล้วก็ยังมีด่างสีขาวให้เลือกกันด้วย หรือจะแบบไม่ด่าง แบบแคระ ในไทยเราก็มีวางจำหน่าย ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ราคาหลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อย เรียกว่าเป็นไม้ด่างราคาถูกจริง ๆ ลักษณะจะเป็นทรงพุ่มสวยมาก เหมาะแก่การนำไปจัดสวน ใส่กระถางวางประดับ
การขยายพันธุ์นั้นทำได้ทั้งแบบปักชำและการตอนกิ่ง ขยายพันธุ์ง่าย ในบำรุงดูแลเราให้น้ำอย่างเพียงพอและไม่ควรให้มีน้ำท่วมขังหรือแฉะจนเกินไป แม้ว่าจะเป็นไม้ทนร่มแต่ยังต้องการแดดรำไรเสมอเพื่อการปรุงอาหาร วัสดุปลูกให้มีความโปร่ง ระบายน้ำได้ดี เป็นไม้ด่างที่เหมาะกับมือใหม่หัดปลูกเลย
4. ฟิโลเดนดรอน เบอร์มาร์ค(Philodendron Burle-maexii Variegated)
มาแรงไม่แพ้ใครเลยสำหรับต้นฟิโลเดนดรอน เบอร์มาร์ค (Philodendron Burle-maexii Variegated) มีถิ่นกำเนิดมาจากทางบราซิล ซึ่งก็มีต้นที่เป็นสีเขียวล้วนได้รับความนิยมมาก่อน ต้นที่เป็นสีเขียวในไทยเราจะรู้จักกันในชื่อ หยกมรกตเขียว หรือฟิโลเขียว หรือฟิโลเดนดรอน เบิร์ล-มาร์ซิอาย,ฟิโลเขียว ( P.burle-marxii G.M.Barroso ) พอเป็นตัวด่างเราก็เรียกเบอร์มาร์คนั่นเอง
ซึ่งชื่อก็ได้มาตามชื่อของนักจัดสวนและภูมิสถาปนิกชาวบราซิลที่ชื่อว่า Roberto Buele Marx นั่นเอง จริง ๆ มีการเรียกชื่อที่หลากหลายตามแต่ละประเทศด้วย ในไทยเราก็นิยมเรียกเบอร์มาร์ค หรือบางคนก็เรียกเบอร์เบิ้ลมาร์ค ก็เป็นที่รู้กันว่าคือต้นนี้ แต่ถ้าจะให้เป็นชื่อที่ถูกจริง ๆ ก็เรียกเบอร์มาร์คจะถูกต้องกว่า ความด่างมีลวดลายสวยงาม โดดเด่น สะดุดสายตามากทีเดียว
เป็นไม้ด่างอีกตัวที่มือใหม่เลี้ยงไหวเพราะดูแลค่อนข้างง่าย ดินปลูกมีความโปร่ง ระบายน้ำได้ดี ปุ๋ยบำรุงด้วยสูตรเสมอ อย่าบำรุงเยอะไปเพราะจากที่ด่าง ๆ จะกลับมาเขียวได้ หากเลี้ยงไปแล้วมีเขียวมากกว่าเราก็ควรจะตัดก้านที่เขียวแยกออกไปเลย เพื่อให้ธาตุอาหารต่าง ๆ ไปเลี้ยงใบด่างได้อย่างเพียงพอ ช่วยให้ทั้งใบและต้นแข็งแรง ด่างสวย
การขยายพันธุ์เราสามารถชำข้อได้ 1 ข้อ 1 ใบ นำไปชำขยายพันธุ์ได้เลย จะงอกออกมาเป็นต้นใหม่ ส่วนจะชำน้ำหรือชำในวัสดุปลูกอื่น ๆ ก็ได้ตามสะดวก เช่น กาบมะพร้าวสับเล็ก ขุยมะพร้าว พีทมอสผสมเพอร์ไลท์ แล้วอบควบแน่นไว้ 15 วันโดยประมาณ จากนั้นนำออกจากถุงอบแล้วรอให้ยอดใหม่แทงมาได้เลย เป็นการทำจำนวนแบบง่าย ๆ
ในส่วนของการดูแลนั้น เนื่องจากเป็นไม้ด่างจะไม่ชอบแดดจัด จะเจริญเติบโตได้ดีในแสงรำไร ชอบวัสดุปลูกที่มีความโปร่ง เป็นไม้เลื้อยที่ค่อนข้างเลื้อยช้า แม้ไม่มีหลักก็สามารถตั้งฟอร์มเป็นต้นสูงขึ้นด้วยตนเองได้ นักจัดสวนจะนิยมใช้ต้นไม้ประเภทนี้ไปตกแต่งสวยเพื่อความสวยงาม เนื่องจากเป็นไม้ที่แข็งแรงเร็ว ไม่เป็นอะไรง่าย ๆ แต่ก็อย่าปล่อยให้น้ำขัง วัสดุปลูกอุ้มน้ำมากไป ใบด่างโดนน้ำเยอะไปก็เน่าได้เหมือนกัน จุดนี้ทุกคนก็ต้องระมัดระวังกันสักนิด
5. กวักมรกตด่าง) (Zamioculcaszamiifolia (Lodd.) Engl. Variegated)
มาถึงต้นสุดท้ายที่อ้ายฉิงจะแนะนำสำหรับมือใหม่ในการปลูกนั่นคือกวักมรกตด่างนั่นเอง แต่จะเป็นกวักมรกตด่างเหลืองนะ ราคาจะค่อนข้างเอื้อมถึงได้ง่ายกว่าแต่ถ้าเป็นกวักมรกตดำด่างราคาค่อนข้างอยู่ดาวพระเสาร์เลยทีเดียว แต่ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละท่านเลย ชอบกวักด่างแบบไหนก็จัดไปตามต้องการ
ต้นกวักมรกตนี้จะอยู่ในสกุลซามิโอคัลคัส (Zamioculcas) เป็นต้นไม้ที่มีหัวเหง้าอยู่ใต้ดินคล้ายบอนสีเลย แต่เดิมเคยถูกจัดมาไว้ในสกุล Caladium เหมือนบอนสีด้วยแต่ว่ามีการจัดใหม่แล้วเป็นปัจจุบัน เป็นพืชที่มีความแข็งแรง ทนทาน ใบจะมีลักษณะแข็ง เหมาะแก่การปลูกประดับตามอาคารอย่างมาก แถมยังเป็นไม้มงคลอีกด้วยที่คนไทยนิยมปลูกกันเยอะ
ต้นกวักมรกตด่างและตัวอื่น ๆ นั้นเหมาะแก่การปลูกในอาคารที่มีแสงรำไร และแม้จะมีแสงน้อยก็อยู่ได้สบาย ๆ แต่ต้องมีแสงนะ จะไม่มีแสงเลยคงไม่ไหวแน่ ๆ การขยายพันธุ์นั้นสามารถตัดกิ่งแช่น้ำชำได้หรือจะเด็ดใบชำก็ยังได้ ขยายพันธุ์ค่อนข้างง่ายแต่ว่าใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมีหัวเหง้าเกิดขึ้นมา
ต้นกวักมรกตด่างหรือซามิโคคัลคัส ซามิอายโพเลีย (ด่าง) (Zamioculcas zamiifolia (Lodd.) Engl. Variegated) ชื่อค่อนข้างยาวเหมือนกัน แต่เรียกสั้น ๆ กันว่า “กวักด่าง” ก็พอจะเข้าใจ
สำหรับมือใหม่นั้นหากจะหากวักมรกตด่างมาเลี้ยงแนะนำว่าให้ซื้อที่เป็นต้นมาจะค่อนข้างชัวร์กว่า เนื่องจากมีการเด็ดใบสดขายด้วย หากเอาใบมาแล้วต้องเพาะชำเองมีความเสี่ยงเน่าเหมือนกัน หรือหากจะซื้อใบก็ให้เป็นใบที่มีการแทงยอดออกมาแล้ว และยอดจะต้องไม่เผื่อเป็นดี ยอดที่แตกใหม่ต้องด่างถึงจะนำมาเลี้ยงต่อได้อย่างสบายใจ หากเผือกใบจะอยู่ไม่นานก็เปื่อยไปอยู่ดี
การเลือกซื้อไม้ด่างเบื้องต้น
ไม้ด่างมีความหลากหลายทั้งด่างขาว ด่างเหลือง ด่างกระ แต่ไม่ว่าจะด่างแบบไหนก่อนตัดสินซื้อควรพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะการซื้อต้นไม้ออนไลน์ เนื่องจากมิจฉาชีพค่อนข้างเยอะ เอาสีมาทาปลอมเป็นไม้ด่างก็มีเป็นข่าวมาแล้ว และดูไม้จะต้องดูให้ดีไม่ควรดูแค่สีของใบเท่านั้นดูที่ข้อ ดูราก ดูลำต้น และอื่น ๆ ด้วย
โดยเฉพาะไม้ด่างขาวที่มีสีขาวเยอะกว่าเขียว หรือขาวเผือกเลย หรือเหลืองก็เหลืองแบบไม่มีเขียวเลย แบบนี้จะไม่ค่อยดีนักเนื่องจากไม่มีสีเขียวเลย แปลว่าไม่มีคลอโรฟิลล์ (chlorophyll) ที่จะสังเคราะห์แสง ฉะนั้นแล้วหากเห็นไม้ด่างขาวเยอะ ๆ ใจเย็น ๆ ก่อน ถ้าเป็นไปได้เลือกแบบด่างกระจายจะดีกว่า เพราะว่าความขาวที่เยอะไปตรงนั้นค่อนข้างบอบบาง ช้ำง่ายมาก ๆ ไม่นานก็จะเปื่อยไปตามกาลเวลา
นอกจากลายใบแล้วก็ขยับไปดูที่ข้อไม้ด่างหลายตัวส่วนมากใบด่างจะเกิดตรงที่มีตาด่าง ข้อด่างด้วย แต่ถ้าหากเรามีใบด่างมาแต่ได้ข้อเขียวติดมาก็มีโอกาสเขียวอยู่ดี ไม้บางต้นทำให้ด่างค่อนข้างยากและทำจำนวนได้ช้าเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นฟิโลก้ามกุ้งด่าง แม้ว่าจะปลูกง่าย ขยายพันธุ์ง่าย แต่มันไม่ใช่จะได้ด่างเสมอไป ยังได้เขียวมาก็เยอะ แถมยังได้เผือกมาก็เพียบอีกด้วย ถามว่าแล้วที่เขียวมีโอกาสกลับมาด่างไหม มันก็มี แต่น้อยมาก
สุดท้ายแล้วสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เรารู้จักต้นไม้แต่ละชนิดก็ต้องอาศัยประสบการณ์ส่วนตัวในการเลี้ยงด้วย เนื่องจากแต่ละคนก็มีวิธีเลี้ยงอาจต่างกัน บางคนเลี้ยงโรงเรือนปิด บางคนเลี้ยงแบบปล่อยให้เหมือนอยู่ในธรรมชาติ และยังไม่รวมสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่ด้วย ไม้ด่างเป็นไม้ที่ค่อนข้างเลี้ยงยากมากกว่าไม้เขียว เพราะความด่างคือความผิดปกติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาต อ้ายฉิงเองก็เลี้ยงด่างให้เขียวมาแล้วก็หลายต้น แต่ต้นที่เขียวแล้วด่างก็มี จะเรียกว่าเอาแน่เอานอนด้วยยากก็คงจะถูกนะคะ
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการต้นไม้แบบใหม่มาก ๆ เลย ก็เริ่มต้นจากไม้ด่างที่เลี้ยงง่ายก่อน ราคาจับต้องได้ เพราะถ้าแพงไปหากเลี้ยงไปเลี้ยงมาไม้ลาโลกกลับดาวไปเราคงรู้สึกเสียดายเงินไม่น้อย และข้อนี้เองเป็นความเสี่ยงที่ทุกคนต้องรับให้ได้ โดยเฉพาะคนที่หวังเลี้ยงเพื่อการลงทุนในอนาคตข้างหน้า กระแสไม้มีขึ้น มีลง ตามกาลเวลาของมันบางทีเราไม่ต้องวิ่งตามไม้กระแสก็ได้ บางทีขึ้นวันนี้ พรุ่งนี้ลงแล้วก็ติดดอย จะทำให้เสียกำลังใจในการปลูกเปล่า ๆ หากคิดจะเลี้ยงไม้ แนะนำว่าควรปลูกด้วยใจ เลี้ยงเพราะชอบต้นนั้นจริง ๆ เราจะมีความสุขกลับการปลูกต้นไม้มากขึ้นนะคะ อ้ายฉิงขอเป็นกำลังใจให้มือใหม่ทุกคนค่ะ
ภาพถ่ายโดยผู้เขียน : อ้ายฉิง
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น