อื่นๆ
6 G Internet Of thoughts

หลังจากที่จบยุค 5G ไปแล้ว ทายสิครับว่าต่อไปคืออะไร??
เฉลยย..............นั่นก็คือ 6G นั่นเอง
แต่ก่อนจะไปถึง 6G ขอแวะสักนิดนึงครับ
ตอนนี้มีสองประเทศที่ได้ยินข่าวจะพัฒนา 6G นั่นก็คือ จีนและอเมริกา
สองประเทศมหาอำนาจของโลกในตอนนี้ ซึ่งอเมริกานั่นเสียท่าในเรื่อง 5G ให้กับจีนไปแล้วพอสมควร
จึงอยากกู้หน้าคืนด้วยการพัฒนา 6G ไปเลย
ว่าแต่ว่า 6G นี่มันจะเร็วขนาดไหนกัน??
ความเร็วตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ แต่ที่แน่ ๆ เร็วกว่า 5G แน่นอน
แต่อย่างว่าครับ 5G นี่มันก็เร็วมากแล้ว คนเราจะต้องการความเร็วมากขนาดนั้นไปเพื่ออะไรกัน??
นี่แหละครับคือคำตอบของ 6G
มันไม่ได้มีมาเพื่อตอบสนองคน
แต่มีมาเพื่อตอบสนอง AI นั่นเอง
6G จะทำให้ AI สามารถรับส่งข้อมูลให้กันและกันอย่างรวดเร็ว
เพราะความเร็วขนาดนั้น มีไว้เพื่อถ่ายข้อมูลระดับ Big DATA นั่นเอง
Advertisement
Advertisement
ยุคนี้ จะเป็นยุคที่เรียกว่า Internet of Though
ทำไมถึงใช้คำนี้นะหรอครับ??
เพราะจะมีตัวแปรที่สำคัญมาก ๆ เข้ามาตัวหนึ่ง
ตัวแปรที่ว่านั้น เรียกว่า นาโนบอท (nanobot)
ซึ่งปัจจุบัน ถูกคิดค้นขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ที่รัฐ Arizona ประเทศอเมริกา
โดย nanobot นั้นมีหน้าที่เข้าไปยับยั้งการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงเนื้อร้าย ที่เราเรียกกันว่ามะเร็ง เพื่อให้เนื้อร้ายหยุดการเจริญเติบโตและก็ตายไป
(ใครอยากอ่านเพิ่มเติมถึงรายละเอียดขออนุญาตแปะลิงค์ไว้ให้นะครับ)
https://www.thaiphysicsteacher.com/nanobots-find-and-destroy-tumors/
ซึ่งด้วยเทคโนโลยีนี้ เรียกว่า เป็นอนาคตของ มวลมนุษย์ชาติ เลยก็ว่าได้ ที่ต่อไปในอนาคต เราจะสามารถสู้กับโรคร้ายที่ชื่อว่ามะเร็งได้แล้ว
แต่อย่าพึ่งดีใจไปครับ เพราะตอนนี้ เจ้า นาโนบอทที่พัฒนามา สามารถ กำจัดมะเร็งได้แค่ 4 ชนิดเท่านั้น
Advertisement
Advertisement
คือ มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งรังไข่ และมะเร็งปอด
ซึ่งนี่คือเทคโนโลยีเบิกทางให้กับมนุษย์ที่่จะทำให้เราสามารถเอาชนะโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
เรย์ เคิร์ซเวล (Ray Kurzweil) ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมจากค่ายบริษัท ‘กูเกิล (Google)
ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ในปี 2030 โลกจะมีเทคโนโลยี ของ Nanobot ที่เข้าไปสู่ในสมองของคนเพื่อเชื่อมกับเส้นประสาทต่าง ๆ
พอเรานึกถึงเรื่องอะไร เจ้า Nanobot จะดึงความรู้จาก Cloud ที่เป็นเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่บน Network มาใส่ในหัวเราได้ในทันที
เรียกว่าคิดถึงอะไร ก็ได้ข้อมูลทันทีไม่ต้องหากันทีเดียว
นี่แหละครับ ที่ทำให้เกิดยุค Internet Of Though
(อ้างอิง)
https://www.synes.co.th/blog/nanobot/
https://cosmosmagazine.com/the-future/the-internet-of-thoughts-is-coming
Advertisement
Advertisement
https://www.wisdomplexus.com/blogs/internet-of-thoughts/
แน่นอนว่าไอ้เจ้า nanabot นี่คงจะถูกใช้และประยุกต์ทำงานที่หลากหลายมาก ๆ ในอนาคต
ซึ่งไม่ทราบว่าจะไปถึงขนาดไหน ไม่แน่ว่า มนุษย์ในอนาคต อาจจะแก่ช้าขึ้น และมีชีวิตที่ยาวนานกว่าปกติ เพราะ nanobot พวกนี้ก็เป็นไปได้
6G ที่ว่านั้น ถูกนำมาเพื่อเชื่อมต่อ nanobot กับ cloud หรือระบบที่ใช้นี่แหละครับ ซึ่งเป็นการเชื่อมกันระหว่าง AI และ AI
ถ้าถามว่า ไอ้ Nanobot เล็กแค่ไหน เปรียบง่าย ๆ ก็เหมือนเอาเส้นผมเราไปผ่าอีกสักสามครั้ง คือครั้งแรกผ่าแล้วได้สอง เอาหนึ่งจากสองไปผ่าอีก และเอาหนึ่งจากสองที่ผ่าอีกที ก็จะเป็นนาโนครับ
ขนาดตามสมการจริงก็คือ 1x10^-9
ลองคิดกลับกันนะครับ กิโลนั่นคือ 1x10^3
แต่นาโน เป็น -9 มันจึงเล็กเอามาก ๆ ถึงขนาดเข้าไปในหลอดเลือดของมนุษย์อย่างเราได้
เอาหละครับทีนี้ อีกแค่ 11 ปี ไม่รู้ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
นอกจากเทคโนโลยีที่ได้กล่าวมาจะสามารถเขย่าโลกนี้ได้อีกครั้งแล้ว
อย่าลืมว่า เทคโนโลยีอื่น ๆ ก็ยังถูกพัฒนาไปอีกด้วยเช่นกัน
มาถึงตอนนี้ คนที่อ่าน คงจะเป็น คนที่รู้ก่อนแล้วว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
ตอนนี้อยู่ที่คุณแล้วหละ ว่าจะเลือกทำตัวแบบไหน
ชีวิตเรา เลือกทางของเราเองนะครับ
อย่าให้คนอื่นมาเลือกให้เราเลย
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก frepix และ pixabay ด้วยนะครับ
ถ้าใครอยากอ่านบทความ แบบทุกวัน แนะนำที่ ฉุดคิด ทั้งเพจ
Facebook และ blockdit นะครับ

เขียนและแชร์สิ่งที่เรียนรู้ให้ทุกท่าน ฉุด ความคิดของทุกคน ที่ได้เข้ามาอ่าน เพื่อให้ ความคิดนั้นตื่นข
ความคิดเห็น
