6 ทริคช่วยประหยัดให้อยู่รอดจนกว่าจะสิ้นเดือน

มนุษย์เงินเดือนความหวังของเราคืออยู่ที่ปลายเดือนวันเงินเดือนออก แต่ส่วนใหญ่มักจะเงินเข้าปุ๊บก็ต้องมีเรื่องให้เราต้องเสียเงินปั๊บไปกับค่าต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่พัก ค่าบัตรเครดิต หรือกินของอร่อยๆ เลี้ยงฉลองตัวเองที่อดทนทำงานมาทั้งเดือนกันซะหน่อย เพลิดเพลินกันมากเกินไปเล็กน้อยรู้ตัวอีกเงินก็เริ่มจะไม่อยู่ติดกระเป๋าทำเอาเราต้องมานั่งวางแผนบริหารตัวเองกันยกใหญ่เพื่อให้เงินเดือนที่เหลืออันน้อยนิดนั้นพอใช้ ให้เราอยู่รอดปลอดภัยแบบไม่ลำบากเกินไปจนกว่าจะสิ้นเดือน หากใครกำลังเอาตัวรอดจากเกมนี้กันอยู่ละก็เรามาช่วยให้คุณได้ไปต่อจนพ้นสิ้นเดือนแน่ๆ กับทริคการวางแผนตัวเองให้พอดีกับเงินที่เหลือก่อนจะสิ้นเดือน

1. แจงรายการค่าใช้จ่าย

เริ่มต้นเมื่อได้เงินเดือนเข้ามาเป็นอันดับแรกอย่าเพิ่งรีบร้อนเอาไปเปย์เรื่องอื่นๆ กินของอร่อย หรือซื้ออะไรตามที่กิเลสเราอยากได้ ต้องรีบเบรคตัวเองเอาไว้ก่อน มาคำนวณค่าใช้จ่ายจำเป็นที่เป็น Fix cost ที่เราต้องจ่าย ก่อนที่เราจะมาบริหารเงินส่วนที่เหลือกันในขั้นตอนถัดไป คือ เริ่มจากการจดรายจ่ายที่เราต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารเฉลี่ยต่อวัน หรือค่าโดยสารที่เราต้องเดินทางอยู่เสมอ ลิสต์ออกมาเป็นรายการคร่าวๆ ว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องหักออกและเหลือใช้ให้ได้เก็บออมหรือจะตามใจตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง ประมาณกี่บาท เพื่อเป็นการวางแผนในการแจงค่าใช้จ่ายให้พอใช้ครอบคลุมทั้งเดือน

• เครดิตภาพจาก : pixabay

4. ลดปาร์ตี้ลงบ้าง

รู้จักปฏิเสธให้เป็นหลีกเลี่ยงการไปทานอาหารกินข้าวนอกบ้าน หรือแม้แต่ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงที่มากเกินไป เพราะรู้บ้างไหมว่าการที่เราไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายแฝงมาในบางเรื่องที่เราก็คิดไม่ถึง เช่น ค่าเดินทางทั้งค่าไปและกลับ หากเราเลือกอยู่บ้านก็ไม่ทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ หรือแม้แต่ปาร์ตี้ที่ต้องมีการแชร์เครื่องดื่ม-อาหารที่เราไม่ได้ทานแต่ก็ร่วมด้วยช่วยหารแบบฟรีๆ เป็นปาร์ตี้ที่ทำให้เราฟุ่มเฟือยอย่างไม่ได้สังเกต จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องควรงดหรือเพลาๆ กับการออกนอกบ้านกันบ้างนะ

เครดิตภาพจาก : pixabay

5. ซื้อของเท่าที่จำเป็น

หลายครั้งที่เราซื้อของโดยไม่ได้ใช้เพียงเพราะแพ็กเกจ ถูกใจหรือแค่บังเอิญเดินไปแล้วสิ่งนั้นกำลังลดราคา อย่าให้ความอยากที่ผ่านสายตาทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสิ่งนั้นให้ได้หากเราไม่ได้จำเป็นต้องใช้ หรือสิ่งของที่เราอยากได้นั้นไม่ได้เป็นประโยชน์กับตัวเรามากมายขนาดนั้น เพราะมันแค่สิ่งล่อตาล่อใจหรือสิ่งที่เราเผลอไผลไปในบางครั้งเท่านั้น ก่อนจะซื้ออะไรคำนวณเรื่องเงินให้ดี คิดวิเคราะห์ถึงเหตุผลและความจำเป็นที่เราต้องมี หากไม่ใช่เรื่องด่วนหรือจำเป็นมากๆ เป็นแค่ความอยากก็ชะลอความคิดเอาไว้ก่อน พร้อมค่อยซื้อไม่ต้องตามเทรนด์ คิดอย่างใจเย็นบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมี!

• เครดิตภาพจาก : pixabay

6. หารายได้เสริม

ในเมื่อรายจ่ายที่มีก็ก้าวกระโดดและการประหยัดก็ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์กับตัวเองเท่าไหร่ ก็ต้องเริ่มคิดเริ่มหาวิธีแบบใหม่ๆ ถ้าให้ตัวเองลดรายจ่ายไม่ได้ก็ต้องหาช่องทางเพิ่มรายได้มันซะเลย เพราะหากทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จก็ต้องแก้นิสัยและกิเลสด้วยการเพิ่มตังมันนี่แหละ มองหารายได้เสริมหรือสิ่งที่เราถนัดมาทำให้เป็นอาชีพเพิ่มเติมนอกจากงานประจำ แต่ก็ต้องรับรองว่าตัวเองจะสามารถแบ่งเวลาและจัดการตัวเองได้ไม่ให้ไปกระทบงานใดงานหนึ่งให้มากไป เพราะอย่างน้อยงานหลักก็ยังเป็นแหล่งรายได้ที่เรามีอย่างสม่ำเสมอ อย่าเผลอไปโฟกัสที่งานเสริมจนเสียระบบไป ไม่อย่างงั้นจะกระทบทำให้เราถูกถอนจากเก้าอี้งานประจำได้ คราวนี้แหละได้ไปทำงานเสริมตลอดไป รายได้หลักหดหายจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เอาได้นะเนี่ย...

• เครดิตภาพจาก : pixabay

การจัดการและการวางแผนทางการเงินควรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำและคำนวณอยู่เป็นประจำในทุกๆ เดือน เพื่อเป็นการรู้และจำกัดตัวเองไปในตัวว่าต้องบริหารจัดการการเงินของเราที่มีให้อยู่ในขอบเขตแค่ไหน หากเราไม่มีวินัยหรือเผลอมีนิสัยที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากเกินไปก็อาจจะทำให้เดือดร้อนหรือต้องมาหาวิธีเอาตัวรอดแบบเดือนต่อเดือนมันทุกครั้ง แบบนี้ก็แปลว่าเราเริ่มจะบริหารจัดการเงินกับตัวเองได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนอาจจะทำให้ต้องเดือดร้อนใครๆ หรือสร้างภาระให้กับตัวเองมากมายในอนาคต