อื่นๆ
6 ฟีเจอร์ของรถหรู/สปอร์ตที่ถูกถ่ายทอดสู่รถบ้านยุคปัจจุบัน

หากจะกล่าวถึงรถสปอร์ตคงไม่พ้นที่จะนึกถึงขุมพลังเครื่องยนต์ที่อัดแน่นสุดแรงหรือระบบช่วงล่างอันยอดเยี่ยม ถึงอย่างนั้นการจะไม่กล่าวถึงเรื่องของระบบเทคโนโลยี/ฟีเจอร์ต่าง ๆ ภายในรถก็คงจะไม่ได้ครับเพราะความแรงกับความไฮเทคมันมาเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ที่เกริ่นมาอย่างนี้เราจะไม่ได้เจาะลึกถึงระบบของรถใด ๆ แต่จะมาพูดถึงเทคโนโลยีรถสปอร์ตที่ถูกท่ายถอดมาสู่รถบ้านในยุคปัจจุบันกัน
ในสมัยก่อนผู้ใช้รถบ้านใช้ขับขี่ทั่วไปคงจะได้แค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะได้รับเทคโนโลยีหรือฟีเจอร์บางอย่างจากรถสปอร์ตหรือรถประสิทธิภาพสูงแต่ในยุคปัจจุบัน 4.0 หรือในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีได้พัฒนาก้าวล้ำมากขึ้นจนต้นทุนการผลิตเริ่มถูกลงเลยทำให้บางอย่างที่เคยอยู่ในรถแรง ๆ ในอดีตถูกนำมาใส่ให้กับรถบ้านในยุคใหม่นี้แล้ว จากความฝันก็กลายเป็นจริงขึ้นทุกขณะแล้วล่ะครับและเรามาส่องดูกันว่า ณ ตอนนี้มันมีอะไรที่ไฮเทคหรือมีอุปกรณ์บางอย่างถูกใส่เข้ามาในรถบ้านกันแล้วบ้าง
Advertisement
Advertisement
ระบบสตาร์ทรถแบบกดปุ่ม
ที่มารูปภาพ: Mike จาก Pexels
เป็นความฝันหลายคนที่อยากจะได้รถที่มีปุ่มสตาร์ทแบบกดปุ่มเพราะมันให้ความรู้สึกเท่และทันสมัยเนื่องจากเมื่อก่อนเราจะเห็นได้ตามรถหรูหรือตามภาพยนตร์-การ์ตูนแนวรถแข่งยุคอนาคต บัดนี้ไม่ต้องรออะไรแล้วเราก็ได้รถที่มีระบบดังกล่าวมาใช้อย่างแพร่หลายไม่ต้องมีกุญแจบิดแบบเก่าและระบบดังกล่าวก็ถูกถ่ายทอดลงบนรถแทบจะทุกรุ่นลามไปถึงรถ Eco Car ด้วย
หน้าจอดิจิทัล/มัลติฟังก์ชัน
ที่มารูปภาพ: Caleb Oquendo จาก Pexels
จากหน้าจอเรือนไมล์ที่เป็นเข็มอนาล็อกที่เห็นกันมาแต่ไหนแต่ไรจนตอนนี้รถยุคใหม่ ๆ ก็มีหน้าจอแบบดิจิทัลกันแล้ว โดยจะแสดงความเร็วเป็นตัวเลขหรือแสดงค่าสถานะต่าง ๆ แบบดิจิทัลและยังเป็นจอมัลติฟังก์ชันด้วยที่จะแสดงผลอื่น ๆ เช่นอัตราบริโภคน้ำมัน , ระดับลมยาง , อุณหภูมิภายนอกรถ แม้ว่าหน้าจอประเภทนี้จะไม่ได้อยู่ในรถทุกรุ่นแต่ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะรถยนต์แพง ๆ อีกต่อไปแล้ว
Advertisement
Advertisement
ระบบแอร์ปรับอุณหภูมิแยกสองฝั่ง
ที่มารูปภาพ: Derwin Edwards จาก Pexels
ในสมัยก่อนระบบแอร์ในรถยนต์จะต้องควบคุมจากคนขับด้านหน้าโดยที่ลมจะออกจากด้านหน้าในอุณหภูมิที่เท่ากันเรียกว่าคนขับหนาวคนนั่งข้างก็หนาวตามแต่ในปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีทำให้ระบบแอร์สามารถปรับอุณหภูมิแยกฝั่งได้แล้ว มันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับรถยุโรปแต่สำหรับรถญี่ปุ่นบ้าน ๆ ทั่วไปก็มีระบบนี้กันถือว่าได้ใช้งานกันอย่างทั่วถึงแล้วและไม่ต้องทนหนาวอีกต่อไปปรับได้ตามใจเลย!
ระบบเซ็นเซอร์/กล้องรอบคัน/ระบบความปลอดภัย
ที่มารูปภาพ: Tobi จาก Pexels
ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนหรือเซ็นเซอร์ถอยหลัง กล้องรอบคันหรือระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ ส่วนมากสิ่งเหล่านี้จะถูกนำไปใส่ยังรถหรูหรือรถยุโรปราคาแพงแต่บัดนี้รถญี่ปุ่นที่มีราคาไม่แพงมากก็สามารถครอบครองเทคโนโลยีนี้ได้แล้ว เป็นประโยชน์มากในการขับขี่ทางไกลหรือช่วยให้ผู้ขับขี่มือใหม่ควบคุมรถได้ดีขึ้นเป็นตัวช่วยที่ควรจะมีมานานแต่แล้วมันก็มาเสียทีเพราะสมัยก่อนอย่างหรูสุดก็มีแค่ ABS กับถุงลมนิรภัย
Advertisement
Advertisement
Paddle Shift
ที่มารูปภาพ: Pexels จาก Pixabay
เป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์วัยรุ่นกับขาซิ่งโดยแท้จริงเนื่องจากก้าน Paddle Shift นี้มักจะอยู่ในรถประเภท Super Car หรือ Performance Car เท่านั้นแต่แล้วมันก็ถูกถ่ายทอดลงสู่รถยนต์ทั่วไป ฟังก์ชันการใช้งานของมันจะทำให้เรารู้สึกเหมือนขับเกียร์ธรรมดาเพราะสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เพียงแค่ใช้นิ้วกดที่ก้าน (จะมีสองฝั่ง + กับ - แทนการเปลี่ยนเกียร์ขึ้น/ลง) สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ขับรู้สึกสนุกเร้าใจและช่วยให้ขับขึ้น-ลงภูเขาได้ดีขึ้น
เบาะที่นั่ง
ที่มารูปภาพ: Jahoo Clouseau จาก Pexels
เบาะนั่งรถยนต์ก็เป็นเทคโนโลยีที่หลายคนมองข้ามไม่ได้ใส่ใจมากนักแต่มันเป็นส่วนสำคัญทีเดียวเพราะมันส่งผลต่อสรีระร่างกายลดความเมื่อยล้าหรือดูดซับแรงเหวี่ยงเวลาเข้าโค้งซึ่งเบาะรถยนต์ทั่วไปหลายรุ่นก็มีการออกแบบให้รองรับสรีระผู้ขับให้นั่งสบายไม่จำเป็นต้องนั่งรถหรูอีกแล้ว ขณะที่รถสปอร์ตที่มีเบาะรถแข่ง ณ ตอนนี้รถญี่ปุ่นระดับ B-Segment หรือ C-Segment ก็มีเบาะที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน
จาก 6 ข้อที่ว่ามาทำให้เห็นว่ารถยนต์มีพัฒนาการล้ำหน้าขึ้นทำให้ความฝันเรื่องเทคโนโลยีสุดล้ำที่เคยนึกคิดไว้เมื่อสมัยก่อนก็เริ่มเป็นจริงมากขึ้นมีการถ่ายทอดลงสู่รถยนต์ทั่วไปมากกว่าก่อนและเชื่อได้ว่ามันจะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่นอนครับ
ที่มารูปภาพปก: Dayron Villaverde จาก Pixabay
ความคิดเห็น






