อื่นๆ

6 รถสปอร์ตญี่ปุ่นที่อยากให้กลับมาพัฒนาสานต่ออีกครั้ง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
6 รถสปอร์ตญี่ปุ่นที่อยากให้กลับมาพัฒนาสานต่ออีกครั้ง

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับคอรถยนต์สายสปอร์ตสมรรถนะสูง จากญี่ปุ่นในปัจจุบันนะครับ เพราะแม้จะมีเทคโนโลยีการพัฒนารถที่ล้ำหน้าแค่ไหนแต่ค่านิยมเรื่องการพัฒนารถสปอร์ตเริ่มจะซาลงไปมากแล้ว จะเห็นได้จากการที่ค่ายรถญี่ปุ่นหลายค่ายยุติสายการผลิตเมื่อขึ้นปี 2000 เป็นต้นมา แม้ว่าจะมีรถตัวแรงบางคันยังหลงเหลืออยู่เช่น Toyota Supra, Nissan GT-R, Honda NSX และอื่น ๆ แต่มันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับยุคก่อนเมื่อ 10-20 กว่าปีที่แล้วที่เรียกได้ว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของรถแต่ง รถสปอร์ตแรง ๆ อย่างแท้จริง

แม้อาจจะเป็นไปไม่ได้แต่เราก็ขอมาพูดถึงกันหน่อยดีกว่าว่า อยากจะให้รถรุ่นใดที่หยุดพัฒนาไปแล้วหวนกลับคืนมาอีกครั้ง (ถ้าเป็นไปได้นะครับ) เชื่อได้เลยว่าคนที่รักรถซิ่งจะต้องคิดแบบนี้เหมือนกันแน่นอน

1. Nissan Fairlady Z

spcที่มารูปภาพ: Cock-Robin จาก Pixabay

Advertisement

Advertisement

เป็นรถสปอร์ตตระกูล Z ที่มีอายุพอสมควรเพราะมันเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1969 ในชื่อ Datsun 240Z (S30) มันก็พัฒนาต่อเนื่องจนสุดทางที่ 370Z (Z34) กับเอกลักษณ์ของรถยนต์ Coupe ทันสมัย พร้อมกับสมรรถนะรถที่ให้ทั้งความแรงด้วยเครื่องยนต์รหัส VQ ที่รีดแรงม้าได้มากกว่า 300 แรงม้าและช่วงล่างที่เกาะถนนได้ดี มันเป็นรถสปอร์ตที่สามารถขับบนท้องถนนก็ได้ ปรับจูนให้ลงสนามแข่งมันก็ตอบสนองได้เหมือนกัน

ดังนั้นถ้าหาก Nissan ได้กลับมาพัฒนามันอีกครั้ง อาจจะมาในรหัสรถ Z35 พร้อมกับเครื่องยนต์ VQ เหมือนเดิมก็ได้ครับ หากมีการพัฒนาต่ออีกครั้งทาง Nissan ก็คงจะมีรถสมรรถนะสูงเพิ่มขึ้นเป็นเพื่อนพี่ใหญ่อย่าง GT-R ถึงแม้ว่าตอนนี้ 370Z  จะมีแค่การปรับโฉมเล็กน้อยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การพัฒนาเป็นรุ่นใหม่ โมเดลใหม่ ดูทรงแล้วจะดีกว่าเยอะครับ

Advertisement

Advertisement

2. Nissan Silvia

spc2ที่มารูปภาพ: DanRais จาก Pixabay

เป็นอีกสปอร์ตคาร์ของ Nissan ที่ผู้คนนิยมกันมาก ในปัจจุบันเราก็จะได้เห็นมันบ่อย ๆ ในสนามแข่งดริฟท์ เนื่องจากความสมดุลของตัวถัง ช่วงล่าง-เครื่องยนต์ที่ปรับแต่งได้หลากหลาย แถมระบบขับเคลื่อนล้อหลังก็ช่วยให้การขับแบบดริฟท์ทำได้ง่าย นอกจากนี้รูปทรงของมันก็ดูดีสวยงามมากต่อให้ไม่แต่งอะไรเลย จึงน่าเสียดายมาก ๆ ที่มันถูกยุติการผลิตเมื่อต้นปี 2000 สิ้นสุดรุ่นรถที่ S15

อย่างไรก็ดีครับในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเราก็พอจะมีข่าวลือว่าทาง Nissan จะสานต่อ Silvia S16 ขึ้นมา พร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ตามยุคสมัยปัจจุบัน ขุมกำลังเครื่องยนต์อาจจะมาในชื่อ VC-T ที่เป็นเครื่องยนต์แปรผันกำลังอัดได้อิสระ หมายความว่าสามารถรีดสมรรถนะได้เต็มที่ แต่คงประสิทธิภาพไปพร้อม ๆ กัน แต่มันก็เป็นแค่การลือกันเท่านั้นครับ ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปอย่างมีความหวังเล็ก ๆ

Advertisement

Advertisement

3. Mazda RX

spc3ที่มารูปภาพ: Anastase Maragos on Unsplash

เป็นรถสปอร์ตตระกูลที่ทุกคนคุ้นเคยดีโดยเฉพาะ RX-7 FD3S เพราะมันมีชื่อในเรื่องความแรง-การขับขี่ที่สุดยอด พร้อมกับเครื่องยนต์โรตารีสูบหมุนอันน่าภาคภูมิใจ ถึงแม้ RX-8 ตัวล่าสุดจะไม่ได้เสียงตอบรับที่ดีนัก จนยุติการผลิตไปเมื่อปี 2012 แต่ตระกูล RX ของ Mazda มันอยู่ในใจคอรถสปอร์ตหลายคน และต่างเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวังครับ

หาก Mazda จะเดินหน้าผลิตรถตระกูล RX คันใหม่คาดว่าคงจะนำเทคโนโลยี Skyactive มาผสานกับเครื่องยนต์โรตารีครับ เพราะไม่ว่าอย่างไรสปอร์ตคาร์ RX ต้องจับคู่กับเครื่องโรตารีเท่านั้น ส่วนการดีไซน์โมเดลใหม่ก็คงจะอิงแนวคิด Kodo-Design เหมือนที่ Mazda ทำตามกันมาครับ ก็คงต้องรอดูกันไปยาว ๆ ว่าทางผู้ผลิตจะหันกลับมาเปลี่ยนใจลงสู่สนามความเร็วอีกหรือไม่

4. Toyota MR

spc4ที่มารูปภาพ: Andrew Poynton จาก Pixabay 

เป็นรถยนต์ที่มีจุดเด่นคือการวางตำแหน่งเครื่องยนต์อยู่ตรงกลาง เป็นสปอร์ต Coupe ขนาดเล็กที่เน้นความสมดุลและราคาจับต้องได้ เป็นที่นิยมในไทยพอควรเพราะทาง Toyota ประเทศไทยเคยนำมาจำหน่ายด้วยตัวเอง โดยจะมีรุ่นยอดฮิตคือ MR-2 (SW20) กับ MR-S (SW30) ที่เป็นตัวถัง Roadster แต่ก็น่าเสียดายที่ตัวรถไม่ได้ถูกพัฒนาต่อจากนี้ ทำให้ปัจจุบันผู้คนต่างเอาไปดัดแปลงจนหารถสภาพเดิม ๆ ได้ยากเต็มที

การที่ Toyota จะฟื้นฟูรถสปอร์ตวางกลางราคาถูกอีกรอบ เป็นอะไรที่น่าสนใจมากขึ้นครับ เพราะจะได้เพิ่มความหลากหลายของสินค้า บางทีสำหรับคนไม่มีเงินถุงเงินถังซื้อ Supra ได้ อย่างน้อยการได้ MR-S ตัวใหม่มาครอบครองก็ยังดี แถมยังเป็นคู่แข่งแบบอ้อม ๆ ของ MX-5 ของ Mazda ด้วยเพราะเป็น Roadster หลังคาเปิดเหมือนกัน

5. Mitsubishi GTO

spc5ที่มารูปภาพ: Christina Davidson จาก Pixabay

มันเป็นรถสปอร์ตระดับ Flagship ของ Mitsubishi ที่มีดีทั้งสมรรถนะและเทคโนโลยีของช่วงล่าง ก็เพราะว่าขุมกำลังเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่สามารถรีดพลังได้ 280 แรงม้า (ในญี่ปุ่น) หากเป็นรถที่จำหน่ายที่อเมริกา มันสามารถเพิ่มพลังได้ถึง 300 แรงม้าเลยทีเดียว นอกจากนี้ทางด้านช่วงล่างของ GTO จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กันสะเทือนด้วยระบบไฟฟ้า ทีเด็ดของคันนี้ก็คือสปอยเลอร์หลังปรับระดับเองได้ตามความเร็ว

ก็เป้นที่น่าเสียดายอีกคันหนึ่งที่ทาง Mitsubishi ตัดสินใจยุติการผลิตลง แต่ยังไงก็คงมีอีหลายคนตั้งตารอคอยว่าพวกเขาจะนำรถสปอร์ตเรือธงคันนี้กลับมาพัฒนาต่อ ก็ต้องมาลุ้นกันหนักหน่อยครับเพราะสภาพการเงินของ Mitsubishi ยังไม่ค่อยคงที่นักจนต้องไปรวมกับ Renault และ Nissan ถ้าเกิดมีการพัฒนาจริงเราอาจจะได้เห็นตัวถังของ Renault เทคโนโลยี Nissan+Mitsu แน่นอน แต่คงยากเพราะรถแรลลี่ Lancer Evolution ยังไม่มีทีท่าจะกลับมาผลิตต่อเลยครับ

6. Honda S2000

spc6ที่มารูปภาพ: dariusmoore2006 จาก Pixabay

สปอร์ต Roadster ของค่าย H ที่ได้รับความนิยมเป็นที่พูดถึงมากในยุคที่มันเปิดตัวใหม่ ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีทั้งความแรงกับการขับขี่ เครื่องยนต์ F20C VTEC ในรุ่น AP1 ที่สามารถกดคันเร่งให้เข็มวัดรอบแตะที่ 9,000 รอบได้แบบสบาย ๆ การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ทำให้รถมีความสมดุลในตอนออกตัว-เบรค-เข้าโค้ง ทำให้มันเป็น Roadster ที่ขับสนุกมากคันหนึ่งในโลก เทียบชั้น Roadster จากยุโรปได้เลย

แต่แล้ว Honda เองก็ตัดใจยุติการผลิต S2000 ลงในปี 2009 ถึงแม้ว่าล่าสุดพวกเขาจะปล่อยชุดแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเสริมหล่อ แต่ก็นั่นแหละครับเหล่าสาวกคงอยากจะเห็น S2000 ในโฉมใหม่ AP3 เสียมากกว่า ซึ่งก็มีข่าวลือ ๆ กันว่า S2000 ใหม่จะใช้บริการเครื่องยนต์ 1.5 VTEC Turbo ก็คงต้องรอดูกันไปครับ มาช้ายังดีกว่าไม่มาเลย

ทั้ง 6 คันนี้ก็เป็นรถสปอร์ตแดนซามูไร ที่เราอยากให้มันกลับมาโลดแล่นบนถนน ถูกนำมาพัฒนาต่ออีกครั้ง แม้ว่าจะมีความหวังแค่ริบหรี่ก็ตาม ขึ้นอยู่กับทางค่ายผู้ผลิตรถแล้วล่ะครับ หากผลิตขึ้นจริงเชื่อได้เลยว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยพร้อมที่จะควักกระเป๋าเงินซื้อมันมาขับในทันที 

 ที่มารูปภาพ: ahlop1988 จาก Pixabay 

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์