อื่นๆ

7 How to แก้เครียดให้รู้สึกผ่อนคลาย เอาใจวัยทำงาน

101
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
7 How to แก้เครียดให้รู้สึกผ่อนคลาย เอาใจวัยทำงาน

สำหรับเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนที่เริ่มต้นด้วย May Day หรือวันแรงงาน แน่นอนว่าชาววัยทำงานนั้นก็ได้หยุดพักผ่อนกันไปแล้วนะคะ แต่ความเครียดหรือความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นจากงานที่ทำมาตลอดคงไม่สามารถหายไปในพริบตาเดียวแน่ๆ ดังนั้น วันนี้เราจะมานำเสนอ 7 Activity สุดผ่อนคลายเอาใจวัยทำงานกันค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าถึงแม้บางข้อจะทำให้เพื่อนๆคิดว่า จะทำให้เราเครียดหรือเหนื่อยกว่าเดิมหรือเปล่านะ? แต่จริงๆแล้วร่างกายของเราต้องการอะไรแบบนี้แหละค่ะ มาปัดเป่าความเครียดที่สั่งสมมาตลอดวัน จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1. โยคะ YOGA

ต้องขอเบรคก่อนว่า สำหรับคนที่คิดว่าเอ๊ะ ถ้าฉันเล่นโยคะหลังจากทำงานมาเหนื่อยๆ ร่างกายจะยิ่งไม่แย่ไปกันใหญ่เหรอ? ต้องบอกก่อนเลยค่ะว่า เจ้าโยคะที่ว่านี้ ช่วยเสริมสร้างสมรรถนะความแข็งแรงของระบบหัวใจที่รวมไปถึงระบบทางเดินหายใจ ปอด และการไหลเวียนโลหิต ซึ่งเมื่อการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ก็จะส่งผลไปยังระดับอ็อกซิเจนที่เข้าสู่สมอง ทำให้ความตึงเครียดลดลง และโยคะยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราต้องกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งก็เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งนอกจากจะทำให้ความเครียดลดลงแล้ว ก็ยังช่วยให้สมองแล่นได้อีกด้วยค่ะ ทั้งยังให้ของแถมเป็นกล้ามเนื้อที่กระชับขึ้นได้อีกด้วย แค่เพียงฝึกโยคะอย่างน้อยวันละ 10 นาที ก็จะช่วยให้เราหลับสบายขึ้นค่ะ

Advertisement

Advertisement

โยคะ

2. ชาคาโมมายล์ Chamomile Tea

ชาคาโมมายล์เป็นไอเทมที่ดีสุดๆสำหรับชาวออฟฟิศเลยล่ะค่ะ เพราะในดอกคาโมมายล์จะมีสารพฤษเคมีหลากหลายชนิด แต่พบอะพิจีนีนเป็นสัดส่วนสูงที่สุด ซึ่งสารอะพิจีนีนนี้มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยขับลมในกระเพาะและช่วยให้รู้สึกสงบ คลายความกังวล ช่วยให้หลับสนิท แถมยังมีกลิ่นหอม ทานง่าย ปัจจุบันในร้านสะดวกซื้อก็ทำแบบดื่มง่ายออกมาเอาใจคนที่นอนหลับยากด้วยค่ะ (ขอแอบกระซิบว่าเราซื้อกินบ่อยมาก และคนรอบตัวเราแทบทุกคนกินคาโมมายล์แบบพร้อมดื่มเพื่อแก้อาการนอนไม่หลับ ก็ได้ผลทุกคนเลยค่ะ)

3. กลิ่นบำบัด Aroma therapy

ปัจจุบันก้านไม้หอม ก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยค่ะ เพราะกลิ่นของก้านไม้หอมที่ฟุ้งกระจายก็จะช่วยให้สมองลดความตึงเครียดลง กลิ่นหอมที่หลากหลายให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป ทั้งช่วยผ่อนคลายความเครียด เสริมสร้างพลังงาน มีความกระปรี้กระเปร่า สดชื่น ร่างเริง และอีกมากมาย เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นวานิลลา กลิ่นส้ม กลิ่นโรสแมรี่ กลิ่นกุหลาบ และกลิ่นยูคาลิปตัส ซึ่งถ้าเพื่อนๆชอบกลิ่นไหนก็ลองหาซื้อมาตั้งไว้ที่โต๊ะทำงาน หรือที่บ้านก็ได้นะคะ แต่ข้อควรระวังก็คือ บางกลิ่นจะช่วยให้ง่วงนอนค่ะ ดังนั้นหากจะนำไปไว้ในที่ทำงานก็เช็คสรรพคุณของกลิ่นก่อนนะคะ เดี๋ยวจะง่วงนอนตอนทำงานได้ค่ะ

Advertisement

Advertisement

กลิ่นบำบัด

4. การนวด Massage

การนวด นอกจากจะเป็นการแก้ปวด หรือเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อแล้ว การนวดยังช่วยบำบัดอาการทางจิตใจได้อีกด้วย ดังนั้นเราจึงจะเห็นว่า จะมีการแชร์ทริคการนวดง่ายๆด้วยตัวเองสำหรับชาวออฟฟิศอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าหากใครอยากนวดแบบเต็มรูปแบบ ก็จะมีร้านสำหรับนวดโดยมืออาชีพมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการนวดแบบอโรม่า สปา หรือแบบนวดแผนไทยก็แล้วแต่คนชอบได้เลยค่ะ ซึ่งราคาก็จะคิดเป็นรายชั่วโมงค่ะ แต่การนวดนั้นแม้จะทำเองก็ได้ แต่เราก็ควรศึกษาวิธีการนวดที่ถูกต้องก่อนนะคะ เพราะถ้าหากเรานวดผิดวิธีล่ะก็ อาจเกิดอาการเจ็บปวดแทนการผ่อนคลายได้ค่ะ และยังมีข้อห้ามสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด หรือการห้ามกินข้าวอิ่มใหม่ๆแล้วนวด และยังมีการห้ามอาบน้ำทันทีหลังนวดด้วยค่ะ

5. อาหาร Food

เคยได้ยินมั้ยคะ กับคำกล่าวที่ว่า "กินแก้เครียด" ซึ่งการกินนั้นแก้เครียดได้จริงๆค่ะ แต่ต้องเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารนะคะ ที่จะช่วยให้หายเครียดอย่างแท้จริง เพราะถ้าหากเรากินอาหารที่เต็มไปด้วยไขมัน หรือน้ำตาลเข้าไปมากๆ ก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ค่ะ ซึ่งอาหารที่ช่วยลดความเครียดได้แก่ อาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้งหรือธัญพืชที่ไม่ขัดสี,อาหารที่มีกรดอะมิโน ทริปโตเฟน (Tryptophan) ได้แก่ กล้วย ถั่วเปลือกแข็ง เนื้อสัตว์และไข่,ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้มหรือฝรั่ง,อาหารที่มีสารอิพิแกโลคาเทชิน แกลเลต (Epigallocatechin gallate) หรือ EGCG เช่น ชาเขียว (ซึ่งในชาเขียวเองก็มีคาเฟอีนอยู่ด้วย หากใครคิดจะดื่มชาเขียวก็ไม่ควรดื่มก่อนนอนนะคะ) ,อาหารที่มีแร่ธาตุแมกนีเซียม (Magnesium) เช่น ผักโขม ,อาหารที่มีกรดโฟลิก (Folic acid) ได้แก่ บร็อกโคลี ถ้าหากใครอยากจะผ่อนคลายความเครียดง่ายๆ ก็ลองใช้อาหารในแต่ละมื้อเป็นตัวเลือกในการลดความเครียดดูก็ได้ค่ะ

Advertisement

Advertisement

อาหารคลาเครียด

6. ตกแต่งห้องนอนด้วยจิตวิทยาโทนสีผ่อนคลาย Bedroom Relax Color

ปฎิเสธไม่ได้เลยค่ะ ว่าห้องนอนของเราคือสถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายที่สุด สำหรับบางคนในวันหยุดก็แทบไม่ออกจากห้องนอนเลยทีเดียว ดังนั้นการแต่งห้องนอนด้วยโทนสีสบายตาก็จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ สีที่ได้รับการแนะนำมากที่สุด ก็จะมีสีฟ้า หรือสีฟ้าอ่อน ที่เหมาะสำหรับการเป็นสถานที่พักผ่อนมากๆค่ะ เพราะให้ความรู้สึกสบายตา หรือจะแต่งห้องนอนโทนสีเขียว ที่ให้ความรู้สึกเหมือนใบไม้ ก็จะให้ความรู้สึกสบายและสดชื่นไปพร้อมกันค่ะ หรือใครชอบแนวโมเดิร์นหน่อยๆ ก็จะใช้สีเทาอ่อนๆไปเลยก็ได้ค่ะ เพราะความที่สีเทาไม่จัดจ้าน หรือ มืดดำจนเกินไปก็ช่วยให้เรารู้สึกสบายๆไม่อึดอัดได้ค่ะ แต่สำหรับใครที่ต้องการแต่งห้องนอนสีขาวล้วนก็ไม่แนะนำนะคะ เพราะสีขาวของผนังจะสะท้อนสีของวัตถุในห้องให้โดดเด่นเกินไปได้ค่ะ แนะนำให้ใส่สีอื่นๆที่ทึบๆตามขอบประตูหรือหน้าต่าง ก็จะช่วยให้หลับสบายขึ้นค่ะ

ตกแต่งห้องนอน

7. สเปรย์ฉีดหมอน Pillow Mist

สำหรับใครที่นอนไม่หลับ แล้วก็ไม่ชอบดื่มชาคาโมมายล์ ก็ยังมี สเปรย์ฉีดหมอน หรือ Pillow Mist ที่ช่วยให้หลับสบาย ผ่อนคลายมากขึ้น แน่นอนว่าถ้าหากเรานอนหลับสนิท ตื่นมาเราก็จะไม่ง่วง และไม่อ่อนเพลีย ดังนั้นเจ้าสเปรย์ฉีดหมอนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับวัยทำงานเลยค่ะ ซึ่งก็มีตั้งแต่ราคา หลักร้อยถึงหลักพันให้เราได้เลือกใช้กันเลยล่ะค่ะ

สเปรย์ฉีดหมอน

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับวิธีผ่อนคลายความเครียด สำหรับวัยทำงาน มีข้อไหนที่โดนใจเพื่อนๆกันบ้างคะ

รูปภาพโดยนักเขียน

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
RynTaCha
RynTaCha
อ่านบทความอื่นจาก RynTaCha

ชอบเขียนอะไรไปเรื่อยเปื่อย เบื่อๆก็ค่อยทำ

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์