8 วิธีทำให้คนอยู่ด้วยแล้วสบายใจ

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ย่อมต้องมีการพบปะพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน และสัมพันธภาพระหว่างบุคคลก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขหรือไม่มีความสุขได้ ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราจะลองมาสำรวจและปรับปรุงตัวเองเพื่อทำให้คนรอบข้างอยู่กับเราแล้วสบายใจและมีความสุข สนุกที่จะอยู่กับเรา เราอาจไม่เป็นคนสมบูรณ์แบบ แต่หากพยายาม คุณก็จะเป็นคนที่ผู้อื่นอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ดีกว่าเป็นคนที่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้

1. เข้าหาคนอื่นอย่างจริงใจ เมื่อคุณทำทุกอย่างด้วยความจริงใจไร้การเสแสร้ง คนอื่นก็จะสัมผัสได้ถึงความจริงใจของคุณ สิ่งนี้จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนอื่นดีขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากคุณเข้าหาผู้อื่นด้วยความเสแสร้ง แฝงหาผลประโยชน์ ไม่ช้าคนอื่นก็จะสัมผัสได้เช่นกัน ดังนั้นการเข้าหาผู้อื่นด้วยความจริงใจแต่แรก ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับการสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนนาน
   
   
2. รู้จักเป็นผู้ให้ อย่ามัวแต่คิดว่า หากฉันทำให้เขาแล้ว ฉันจะได้อะไรจากเขา เขาจะทำอะไรเพื่อฉัน ทำไมไม่มีใครรักฉัน หรือเอาแต่พร่ำบ่นไม่พอใจในชีวิต เลิกคาดหวังว่าจะให้คนอื่นทำอะไรให้ แต่ลองเปลี่ยนมาถามตัวเองว่า ฉันจะทำอะไรให้เขาได้บ้าง และค่อยๆ ลงมือทำ โดยไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะมองคุณยังไง ขอเพียงคุณตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้และมอบสิ่งดีๆ แก่คนอื่น อาจเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เช่น กล่าวคำทักทาย ให้คำขอบคุณ มอบรอยยิ้ม การให้จะนำพาสิ่งดีๆ มาให้คุณมากมาย แต่ทั้งนี้คุณต้องทำด้วยความชอบที่อยากทำ ทำเพราะอยากทำ ดีใจที่ตัวเองมีประโยชน์ต่อผู้อื่น ไม่ฝืนทำ
   
3. ทำความเข้าใจเจตนาของคนอื่น พร้อมรับฟังความเห็นและมุมมองที่แตกต่าง อย่าคิดว่าตัวเองถูกเสมอ การยัดเยียดความคิดหรือตัวตนของเราให้ผู้อื่นมากเกินไป จนไม่ยอมรับฟังใคร กลับจะทำให้คนไม่อยากเข้าใกล้ ลองเรียนรู้จากคนที่คิดต่างจากเรา เพราะเขาอาจมีข้อดีในอีกมุมที่เราไม่รู้ก็ได้ เราไม่ควรมองว่าคนที่มีความเชื่อหรือทำอะไรต่างจากเราเป็นเรื่องผิด ควรมองหลายๆ ด้าน และยืดหยุ่นเสมอ เพราะในสังคม ครอบครัวหรือที่ทำงาน แม้แต่ในกลุ่มเพื่อน เมื่อมารวมตัวกันก็ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน การคาดหวังให้คนอื่นทำตามที่เราคิดมักนำไปสู่ความผิดหวัง และมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีได้
   
   
4. ไม่จำเป็นต้องดูดีทุกเรื่อง จงเป็นตัวของตัวเอง ลองเปิดเผยข้อเสียของตัวเองบ้างก็ได้ ไม่ต้องไปตั้งธงว่าฉันต้องทำตัวสมบูรณ์แบบดูดีตลอดเวลา เพราะอาจกลับกลายทำให้คนรอบข้างรู้สึกเกร็งและรู้สึกเหนื่อยที่จะอยู่ด้วย การเปิดเผยตัวตนจริงๆ ของคุณจะทำให้คนรอบข้างก็กล้าที่จะเปิดเผยตัวเองเช่นกัน จึงทำให้เกิดความสนิทชิดเชื้อและยินดีแบ่งปันเรื่องราวระหว่างกันมากขึ้นด้วยความรู้สึกสบายใจ หากคุณพยายามทำตนให้ดีขึ้น แก้ไขปรับปรุงจุดบกพร่องที่มี เป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน คุณก็จะเห็นคุณค่าของตัวเองและรักตัวเองมากขึ้น
   
   
5. ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองและให้อภัยเมื่อผู้อื่นทำผิด ปกติคนเรามักไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ควรลองเปิดใจยอมรับว่าตัวเองก็มีจุดอ่อน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง การให้อภัยก็เช่นกัน หากคุณไม่ให้อภัยแล้วเอาแต่เก็บความแค้นไว้ในใจ คุณก็ยิ่งมีความสุขได้ยากขึ้น เพราะทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตล้วนมีส่วนทำให้เราเติบโตขึ้น การให้อภัยทั้งตัวเองและผู้อื่น จึงเป็นบันไดอีกขึ้นที่จะผลักดันให้คุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
   
   
6. มองหาแต่เรื่องดีๆ เมื่อต้องอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ร้าย บ่นนู่นนี่อยู่ตลอดเวลา ย่อมทำให้อยู่ด้วยรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ หากเราอยากให้คนที่อยู่ด้วยสบายใจ ก็ลองปล่อยวาง ทำใจสบายๆ ใจกว้างๆ ไม่คิดเล็กคิดน้อย คนเรามีแนวโน้มที่จดจ่อกับเรื่องทุกข์มากกว่า ดังนั้นจงใส่ใจเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้น ยิ่งทำบ่อยๆ ให้เกิดเป็นนิสัย เรื่องราวดีๆ ในชีวิตก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เมื่อเราเจอแต่เรื่องๆ ดี เราก็จะอารมณ์ดี มีความสุข คนรอบข้างก็จะพลอยมีความสุขและสบายใจไปด้วย สิ่งสวยงามต้องตั้งใจถึงจะมองเห็น ความสนุก ความยินดี ความตื่นเต้น ความสุข เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ดังนั้นตั้งใจมองหาความสุขที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยสิ่งที่เราควรทำเป็นอันดับแรกคือทำให้ตัวเองรู้สึกสนุกและมีความสุขก่อนและพลังแห่งความสุขจะกระจายเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้างเอง
   
   
7. อย่าปฏิเสธความเชื่อมั่นและตัวตนของคุณ การที่คุณไม่พยายามทำตัวเด่นหรือไม่กล้าแสดงตัวตนของคุณ ทำตัวหลบๆซ่อน รู้สึกกลัวตลอดเวลา จะทำให้คนรอบข้างสัมผัสได้ถึงความประหม่าของคุณและรู้สึกไม่เชื่อใจ ดังนั้นหากคุณเชื่อมั่นว่าคุณสามารถเป็นที่รักและทำให้คนอื่นเชื่อมั่นได้ คนรอบข้างก็เกิดความเชื่อมั่นและเคารพในตัวคุณเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรแสดงออกหรือแสดงความเชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไปจนทำให้คนอื่นอยากตีตัวออกห่าง ดังนั้นการเดินทางสายกลางจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
   
   
   
8. กล่าวขอบคุณให้เป็นนิสัย ลองมองหาและชื่นชมข้อดีของอีกฝ่ายอยู่เสมอ และอย่าลืมกล่าวขอบคุณคนที่ทำอะไรให้คุณจนเป็นนิสัย แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น คนที่กดลิฟต์ให้คุณ คนที่หยุดให้คุณข้ามทางม้าลาย เพื่อนร่วมงานที่ช่วยคุณยกของ คำขอบคุณด้วยความจริงใจที่คุณมอบให้จะทำให้คนรอบข้างสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่คุณมี