อื่นๆ

EP4. It isn’t lovely, all ALONE?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
EP4. It isn’t lovely, all ALONE?

ในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำ. ปกติเราเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียวและทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาใครถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ออกแนวติสท์ๆ อินดี้ๆ ไม่อินกับเรื่องที่คนอื่นคุยกันเว้นแต่จะเป็นเรื่องที่เราสนใจจริงๆถึงจะเข้ากับเราได้ แต่บอกตรงๆเลยว่า เมื่อไรที่คุณเริ่มทานยาปรับสมดุลสารเคมีในสมอง การพยายามอยู่คนเดียวคือสิ่งที่ทรมานมากที่สุดเลยนะ ทรมานถึงขนาดที่ว่า...คุณพร้อมจะจากไปเมื่อไรก็ได้เมื่อคุณรู้สึกดาวน์มากๆ โดดเดี่ยวและไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้อีกต่อไป

พี่ที่ทำงานยังคงเป็นห่วง โทร.มาถามอาการเป็นระยะ และเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “สัตว์เลี้ยงช่วยเยียวยาจิตใจเราได้” เรามาลองคิดดูก็อาจจะจริงนะ พี่ที่ทำงานส่วนมากเลี้ยงน้องแมวไว้เป็นเพื่อน แต่ความชอบของเรามันค่อนข้างแตกต่าง เราเป็นมนุษย์ที่ชอบ “น้องเต่า” มากๆมาแต่ไหนแต่ไร จึงตัดสินใจว่า เอาว่ะ! ลองดูก็แล้วกัน เราสั่งซื้ออุปกรณ์เตรียมเลี้ยงน้องเต่า พร้อมทั้งศึกษาวิธีเลี้ยงอย่างละเอียดและเข้าใจ จากนั้นเราก็ตัดสินใจเลือกซื้อน้องเต่ามาเลี้ยง น้องเป็นเต่าพันธุ์ Sulcata ต้นกำเนิดอยู่ที่ทะเลทราย น้องไม่ชอบความชื้นและจะฟินเมื่ออากาศดีแสงแดดจ้า พอน้องเต่าเดินทางมาถึงหอพักของเราเรารู้สึกตื่นเต้นมาก แล้วน้องน่ารักมากจริงๆ คือเราหลงน้องไปเลยอ่ะ วันๆไม่ทำอะไร ดูน้องเดิน น้องวิ่งเร็วมาก ใครบอกเต่าเดินช้าให้พิจารณาใหม่ค่ะ เราให้อาหารน้อง พาน้องไปอาบน้ำ พาน้องไปตากแดดอ่อนๆยามเช้ารับวิตามินเพื่อสร้างเสริมให้กระดองน้องแข็งแรง เออ...มันก็ช่วยได้จริงๆนะ เหมือนเรามีอะไรให้โฟกัสอยู่ตลอด การเลี้ยงสัตว์มันสนุกและผ่อนคลายแบบที่เขาบอกจริงๆ ติดที่ว่าห้าโมงเย็นน้องก็หลับแล้ว ส่วนเรา...ก็กลับมาสู่โหมดตัวคนเดียวอีกครั้ง

Advertisement

Advertisement

ในค่ำคืนนี้เป็นคืนที่ฝนตกหนักมากเป็นพิเศษ ฟ้าร้องดังกังวานอยู่ตลอดโชว์สายฟ้าให้ชมอยู่เกือบตลอด เราเปิดม่านและปิดไฟในห้องนอนจนมืดสนิท คือห้องพักของเราเป็นกระจกบานใหญ่ที่ชมวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ เรานอนเล่นดูฝนตกอยู่อย่างนั้น คือชอบดูฝนตกมากๆ ชอบฟังเสียงฝน ชอบกลิ่นไอดินที่ลอยมา ติดที่ว่าคืนนั้นเราดันเผลอไปเปิดเพลย์ลิสต์เพลงเศร้าคลอไปด้วย อาการเราเลยเริ่มกำเริบ เริ่มดาวน์ เราจำได้ขึ้นใจว่าในตอนนั้นเป็นเพลง Malibu Night อยู่ๆเราก็ตัวสั่น ร้องไห้ น้ำตาไหล หวาดกลัวอะไรไม่รู้ รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างหนักอยู่แบบนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง และความคิดที่ไม่ควรคิดก็เข้ามาครอบงำสมองและจิตใจเราอย่างรวดเร็ว

เราเดินออกไปที่ระเบียง ขณะนั้นเราอาศัยอยู่ในหอพักชั้น 6 สูงพอที่จะกระโดดลงไปและจบชีวิตอันแสนมืดมนนี่ซะ เราออกไปยืนที่ระเบียง ก้มมองลงไปข้างล่างและยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น แข่งกับเสียงฝนที่โปรยลงมาไม่ขาดสาย ในหัวเรามีแต่ความคิดที่ว่าไม่อยากอยู่แล้ว ไม่ไหวแล้ว อยากให้เรื่องนี้มันจบลงไปซะ ทรมานเหลือเกิน ฉันเดินออกไปชิดริมระเบียงเรื่อยๆ เกาะที่ราวระเบียงและเตรียมที่จะปีนขึ้นไปบนนั้น พร้อมแล้ว ฉันพร้อมจะจากไป แต่ในช่วงจังหวะหนึ่งภาพเต่าตัวน้อยแสนน่ารักกำลังมุดเล่นอยู่ในรองเท้าก็ลอยเข้ามาในหัวฉัน เป็นฉากที่แว้บเข้ามาดึงสติของฉันให้กลับมา ฉันค่อยๆก้าวถอยหลังออกมาห่างจากระเบียง ในหัวฉันมีแต่คำถามที่คิดว่าถ้าฉันไปแล้วใครจะดูแลน้องล่ะ? น้องต้องเสียใจแย่ เพราะฉะนั้นฉันต้องอยู่ อยู่เพื่อดูแลอีกชีวิตที่ฉันรับเขามาต่อไป อย่าลืมซิเค! เธอยังมีอีกชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ!

Advertisement

Advertisement

...แล้วน้องเต่าตัวน้อยก็ช่วยชีวิตฉันไว้ได้จริงๆ...

มาถึงวันแรกก็วิ่งใหญ่เลย.

เขาชอบมุดรองเท้าจริงๆนะ.

Credit: รูปภาพประกอบในบทความมาจากเจ้าของบทความเองจ้า.

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์