ไลฟ์แฮ็ก
Get work done in Corona time ! งานเสร็จได้แม้กักตัวอยู่บ้าน

ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ว่าการทำงานจากที่บ้าน (Work from home) นั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เนื่องจากหลาย ๆท่านเคยชินกับการทำงานที่ออฟฟิศ และเมื่อไหร่ที่เราต้องการข้อมูลจากฝ่ายใดซักฝ่ายในบริษัท เพียงแค่เราลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินไปยังแผนกที่ต้องการชุดข้อมูลนั้น ก็เป็นอันสิ้นสุดของกระบวนการ และที่สำคัญมีเครื่องปรับอากาศที่แสนจะเย็นชุ่มฉ่ำเปิดให้ตลอดทั้งวัน ซึ่งแตกต่างกับการทำงานอยู่ที่บ้านอย่างสิ้นเชิง
นอกจากความยากในการทำงานที่เราต้องเผชิญแล้ว เรายังต้องต่อสู้กับความขี้เกียจในแต่ละวันพร้อมงานกองโตอีกด้วย
คำถามคือ ต้องทำอย่างไรถึงจะสร้างแรงขับเคลื่อนที่ในการเริ่มหยิบจับงานสักชิ้นขึ้นมาทำ วันนี้ผู้เขียนขอแนะนำ 5 วิธี ที่ผู้เขียนใช้แล้วเห็นผลมาฝากกันค่ะ
1.เขียนเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเรียงลำดับตามสัดส่วนความสำคัญ
Advertisement
Advertisement
เชื่อว่าผู้อ่านหลาย ๆ ท่านเคยได้ยินการเขียนเป้าหมาย หรือ to-do-list ที่เราต้องทำในแต่ละวันอยู่แล้ว แต่ก็มักจะเจอปัญหาที่ว่า เขียนไปแล้ว ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้างการเขียน to-do-list โดยเรียงตามความสำคัญช่วยได้ค่ะ โดยเริ่มจาก......
- - ตั้งเป้าหมายใหญ่ในระยะยาวลงในสมุดหรือแพลนเนอร์ที่เรามี เพื่อให้เห็นเป้าหมายหลักๆของเราในช่วงนั้น ๆ
- - ย่อยเป้าหมายใหญ่ๆ ออกเป็นเป้าหมายย่อยในรายเดือน เช่น ได้เงินเดือนเพิ่ม ซื้อหุ้นต่างประเทศดีๆซักตัว
- - เขียนเปอร์เซ็นต์ (percent) ความสำคัญของเป้าหมายและเพราะอะไรเราถึงให้% เท่านั้น เช่น จะสอบ TOEIC ให้ได้เกิน 800 เพื่อนำไปเพิ่มเงินเดือนในปีหน้า 70% เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่อเดือนค่อนข้างมาก และแบ่งอีก 30% ให้กับการอ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศเพราะตนเองสนใจซื้อหุ้นต่างประเทศ
Advertisement
Advertisement
เมื่อทำเช่นนี้แล้วการเขียน To-do-list ในแต่ละวันของเราก็จะเห็นภาพชัดขึ้นว่าเราควรใช้เวลากับอะไรมากที่สุด ที่จะทำให้เป้าหมายของเราสำเร็จได้
2. จัดตารางชีวิตโดยเริ่มตั้งแต่เวลานอน
ผู้เขียนมีโอกาสได้ฟังพอตแคสของคุณ รวิศ หาญอุตสาหะ หรือที่เรารู้จักกันในนามCEO ของศรีจันทร์ คุณรวิศได้กล่าวว่าวันของเราเริ่มตั้งแต่เวลานอน เราจะใช้วันถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับเวลานอนของเรา
เพราะฉะนั้นถ้าอีกวันคุณมีงานสำคัญรออยู่มาก การนอนดึกแล้วสะดุ้งตื่นมาพบว่าคุณพลาดประชุมสำคัญก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
3.ให้รางวัลตัวเองเมื่องานสำเร็จตามเป้าหมาย
เมื่อเราทำสามารถบรรลุเป้าหมายได้ แม้จะเป็นเพียงรายวัน รางวัลก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนตัวเองให้ไปสู่จุดหมาย
เราอาจตั้งเป้าว่า ถ้าวันนี้เราทำงานที่ได้รับมอบหมายมาได้สำเร็จ ตอนกลางคืนเราจะได้ดูหนังโปรด 1 เรื่องก่อนนอน เพื่อให้ไม่รู้สึกว่าเป้าหมายไกลตัวเกินไปนั่นเองค่ะ
Advertisement
Advertisement
4.ซื่อสัตย์ต่อตนเอง และตารางเวลา
“ขี้เกียจแล้วแหะ ไว้ทำพรุ่งนี้ดีกว่า” ประโยคคลาสสิกที่เรามักจะเจอเมื่อตนเองไม่สามารถทำเป้าหมายได้เนื่องจากถูกสิ่งอื่นแย่งความสนใจไป เช่น การเล่นอินเทอร์เน็ตจนเพลิน ผู้เขียนเคยเป็นหลายๆครั้งที่เริ่มจับโทรศัพท์ สุดท้ายต้องแก้โดยการตั้งเวลาในการพักเพื่อลิมิตตนเอง
มาที่หัวข้อของเรา การสื่อสัตย์ต่อตนเองและตารางเวลาคือ การที่เราเริ่มงานและเลิกงานแต่ละงานตรงเวลา หากเรากำหนดว่างานนี้ต้องเริ่มทำ 8 โมง ก็ต้องเริ่ม 8 โมงจริงๆ ไม่ควรที่จะเลื่อนไปเรื่อยๆ จนทำให้ตารางในวันนั้นพัง เป้าหมายเราก็จะไม่สำเร็จไปด้วย ในทางกลับกัน หากเราทำตามตารางที่วางไว้อย่างตั้งใจ เป้าหมายก็ไม่เกินเอื้อมแน่ๆ ค่ะ
5.เมื่อรู้สึกขี้เกียจให้กลับไปมองเป้าหมายที่เราเขียนไว้แต่ต้น
เราทุกคนมีสิทธิที่จะขี้เกียจ อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆ เพียงแต่ว่าเราต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอค่ะว่า ตกลงที่เราทำ ทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้ให้เรากลับไปดูเป้าหมายที่เราลิสไว้ตอนแรก ค่อยๆตกผลึกความคิดตนเองว่าเรายังคงมีเป้าหมายเดิมหรือไม่ เพราะในบางครั้งเราอาจขี้เกียจเพราะสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้อีกต่อไปค่ะ
แต่ถ้าคำตอบคือใช่เรายังต้องการเป้าหมายเดิม ลองนึกย้อนกลับไปดูค่ะว่า เราได้ทำอะไรเพื่อที่จะก้าวสู่ความสำเร็จที่เราปรารถนาแล้วหรือยัง ถ้ายังก็กลับมาลุยเลยค่ะ
5 วิธีเหล่านี้ อาจเป็นวิธีที่เรียบง่าย แต่ถ้าหากเราขาดเป้าหมายที่ชัดเจน วินัย และความซื่อสัตย์ต่อความฝัน 5 วิธีนี้จะกลายเป็นวิธีที่พูดง่ายแต่ทำยากทันที ทว่ากุญแจสำคัญของความสำเร็จก็คือ ใจของเราเองนี่แหละค่ะ หากเรามีความตั้งใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จด้วยใจจริงแล้ว เส้นชัยก็อยู่แค่เอื้อมค่ะ
สุดท้าย อย่าลืมขอบคุณตัวเองที่สามารถทำตามเป้าหมายได้ และให้อภัยตัวเองหากบางวันคุณไม่สามารถทำตามเป้าหมายเหล่านั้นได้ค่ะ :-)
ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ pexels รูปประกอบที่1 / รูปประกอบที่2 / รูปประกอบที่3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5
ความคิดเห็น
