อื่นๆ

HOW TO ขจัดความขี้เกียจ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
HOW TO ขจัดความขี้เกียจ

ขอคุณภาพจาก: https://www.pexels.

สำหรับเรื่องปัญหาความขี้เกียจที่เป็นสิ่งที่ทำให้เราผัดวันประกันพรุ่งและทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอย่างที่ตั้งไว้ได้  วันนี้ มีวิธีแก้ปัญหาความขี้เกียจมาแนะนำ จะได้ผลลัพธ์แบบใหนก็ขึ้นอยู่กับบุคคลและสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเองได้ตามความต้องการ

1. ตั้งเป้าความให้ชัดเจน

ก่อนที่จะเลิกนิสัยทำอะไรนิดอะไรหน่อย แล้วรู้สึกขี้เกียจ คุณจะต้องสร้างเป้าหมายที่ชัดแจ๋วเอาไว้STICK TO YOUR PLANS     อาจจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ขอยกตัวอย่าง: ถ้าอีกสามอาทิตย์มีสอบเก็บคะแนนรายวิชา เราก็ควรที่จะตั้งเป้าหมายแล้วจัดตารางการอ่านหนังสือ แค่นี้อาจจะยังไม่พอ ให้นึกเสมอว่าเราอ่านหนังสือไปเพื่ออะไร  เพื่อที่จะเก็บคะแนนของวิชานั้นๆได้ดี หรือ อยากจะทำเกรดให้ดีๆ ไว้เพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเราควรที่จะมีเป้าหมายที่ชัดเจน - การตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ไว้ก็จะเป็นแรงกระตุ้นให้เราได้ดีเหมือนกัน

Advertisement

Advertisement

2. ให้ลงมือทำเดี๋ยวนั้นเลย

พอมีเป้าหมายแล้ว เราควรที่จะลงมือทำเลย อาจจะไปทำนู้นทำนี่ก่อน แต่! สุดท้ายต้องกลับมาทำตามแผลนให้ได้ อย่าคิดว่า วางแผลนวันนี้จะทำพรุ่งนี้ แต่ให้คิดว่าวางแผลนตอนนี้ก็จะทำตอนนนี้เลย  คำพูดที่ HOLD BACK เราไว้ ก็คือ ฉันจะ.... / เดียวจะ....  สุดท้ายแล้วก็จะลงเอยด้วยการนั่งเล่น     เฟสบุ๊ค  IG หรือดูยูทูป ซึ่งพวกนี้แหละที่ทำให้เราทำตารางแผลนเราเสีย - ปิดอินเตอร์เน็ตหรือการแจ้งเตือนทุกอย่างไปเลย เพราะมันจะดึงดูดล่อลวงเราให้เสียสมาธิและลืมสิ่งที่จะต้องทำ

a woman on internetขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.

3. พยายามทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อเราทำตามแผลนไว้ได้หนึ่งวันแล้ว เราก็ต้องทำแผลนของวันต่อๆ ไปด้วย   ไม่ใช่ว่าทำวันเดียวแล้วจบคือสำเร็จแล้ว แล้วที่เหลือจะทำไว้ทำไมละ? หลังทำตามสิ่งที่ต้องทำทุกอย่างที่ list ไว้แล้ว ก็ควรจะให้รางวัลตัวเองบ้าง แต่ไม่ใช่การเล่นเฟสบุ๊ค ดูยูทูป  แต่หมายถึงการทำสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสบายกายและใจ เช่น อาบน้ำและนั่งอ่านหนังสือนิยาย การ์ตูน ฟังเพลง หรือการออกกำลังกาย - การออกกำลังกายหลังจากที่ใช้สมองมาเป็นเวลานานๆ จะช่วยทำให้เราผ่อนคลายได้ดี

Advertisement

Advertisement

a listening to music womanขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.

4. ให้คิดถึงผลลัพธ์ว่าจะลงเอยยังไง

แน่นอนว่า สิ่งที่เราทำ ทำอย่างเข้มงวดแล้วสม่ำเสมอ เพราะเราอยากจะมีผลลัพธ์ที่ดี ถ้าเราทำสิ่งที่ทำอยู่ทุกๆ วันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ผลลัพธ์ยังออกมาไม่ดีเราก็ควรที่จะพยายามให้มากกว่าเดิม หาวิธีหรือHOW TO ต่างๆ  ซึ่งถ้ามีบางช่วงที่เรารู้สึกขี้เกียจก็จงให้ระลึกถึงผลลัพธ์ว่ามันจะเลวร้ายขนาดใหน เราจะเสียใจไหมถ้าเราไม่ได้ทำตามสิ่งที่วางไว้  อย่างการอ่านหนังสือถ้าเราไม่อ่านก่อนสอบ จะมั่นใจได้ไหมว่าเราจะสอบผ่าน หรือการฝึกทำข้อสอบGATPAT ถ้าเราไม่อ่านไม่ฝึกทำข้อสอบ ตอนไปสอบเราจะงงกับแบบฟอร์มของข้อสอบซึ่งเราจะขาดความคุ้นเคยและก็จะเกิดความประหม่าและเกิดความผิดพลาดและอาจทำข้อสอบไม่ทันเลยก้ได้

a studying girlขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.

5. มองดูและสังเกตุคนรุ่นเดียวกัน

Advertisement

Advertisement

ลองมองดูเพื่อนๆ หรือคนวัยเดียวกันว่าพวกเขาไปไกลขนาดใหนแล้วให้มองย้อนมาที่ตัวเอง    ไม่ใช่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนพวกนั้นจนทำให้หมดกำลังใจนะ  แต่ให้ดูว่าคนพวกนั้นเขามีวิธีอะไร พวกเขาทำอะไรบ้างถึงประสบความสำเร็จ และมองหาวิธีที่จะพัฒนาตัวเอง เพื่อที่จะสามารถตามคนพวกนั้นได้ทัน อาจจะไม่ต้องเก่งกว่าหรือเก่งเทียบได้ แต่ให้พัฒนาตนเองไปถึงจุดที่เราพอใจและเชิดหน้าได้แค่นั้นก็ถือว่าสุดๆแล้ว อาจจะเป็นทักษะการพูดภาษาอังกฤษหรือทักษะการพูดในสถานที่มีคนมากๆ หรืออะไรก็ได้ที่เราอยากจะพัฒนาทักษะเหล่านั้น

การที่จะลบล้างความขี้เกียจคือการที่ตั้งใจทำอะไรสักอย่างและนึกถึงผลลัพธ์ที่ออกมา แม้ว่าผลลัพธ์จะดีกว่าหรือไม่ดีกว่าก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและเทคนิค  ถ้าพยายามสุดตัวแล้วแต่ยังไม่ดีเท่าที่คิดไว้ก็อย่าพึ่งท้อแท้ แค่เราลุกขึ้นมาพยายามทำทุกๆ วันให้ดี ผลลัพธ์ก็ออกมาแล้วว่าเราอยากจะพัฒนาตนเอง  STAT KNOWLEDGE - HUNGRY

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์