MG5 ซิตี้คาร์ราคาเป็นมิตร-ออฟชั่นจัดเต็ม คู่แข่งใหม่ที่อาจทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นต้องหันมามอง

การแข่งขันในวงการรถยนต์กลุ่มซิตี้คาร์หรือ B-Segment ก็ถือว่าขับเคี่ยวไม่แพ้กลุ่มรถประเภทอื่น ๆ เนื่องจากชีวิตของผู้คนที่ต้องเดินทางสัญจรตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงาน ไปเรียน ประกอบกับกลุ่มลูกค้าอายุน้อยประเภทกลุ่มคนเริ่มทำงานหรือนักศึกษามีความต้องการอยากได้รถที่ใช้ขับในเมืองมากขึ้น ทำให้ค่ายรถหลายค่ายต่างนำรถของตนเองป้อนเข้าสู่ตลาดกันอย่างเข้มข้น ไม่เว้นแม้แต่ MG เองที่ส่ง MG5 มาเข้าร่วมสงครามที่มาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องราคาและ Option

การมาของ MG ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกครับ เพราะหากย้อนไปเมื่อประมาณปี 2015 ทาง MG เองก็ได้นำ MG5 มาให้คนไทยได้สัมผัสกันแล้ว แต่ต้องบอกว่าผลตอบรับที่ได้คราวนั้นไม่ค่อยสู้ดีนักทำให้ต้องม้วนเสื่อกลับไปอย่างรวดเร็ว จนเหลือแค่รถอเนกประสงค์อย่าง MG ZS ที่เป็นความหวังของหมู่บ้าน จนกระทั่งเมื่อกลางปี 2021 ทาง MG ก็ได้ตัดสินใจนำ All New MG5 กลับมาอีกครั้งเพื่อหวังที่จะเขย่าตลาดรถซิตี้คาร์

แต่ด้วย Option ที่แพรวพราวและราคาที่ไม่แพงก็ดูจะทำให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่ฝั่งญี่ปุ่นเริ่มจะขยับตัวไม่มากก็น้อย เพราะถ้าหากเปรียบเทียบกันล่ะก็ในเรื่องของการออกแบบ+สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาถือว่าเหนือกว่ามาก แถมยังแสดงให้เห็นอีกว่าลูกเล่นที่ล้ำสมัยก็สามารถมาในราคาที่จับต้องได้เช่นกัน แต่มันจะทำให้เกิดภาวะ "ตลาดแตก" หรือไม่นั้นเราก็ต้องมาดูในฝั่งของค่ายรถญี่ปุ่นกันว่าพวกเขายังมีดีพอที่จะครองตลาดรถ B-Segment และ Eco Car ได้ในระยะยาว

สิ่งที่รถยนต์ค่ายญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Honda ทำได้ดีคือระบบบริการหลังการขายที่ซัพพอร์ตลูกค้าได้ดี ค่าซ่อมบำรุงที่ไม่แพงจนเกินไปนัก ขณะที่ตัวรถก็ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่ามีความเสถียร ทนทาน อย่าง Yaris หรือ Vios เองก็เป็นรถที่ใช้งานได้อย่างไม่จุกจิก ทางฝั่ง Honda เองก็มี Honda City ที่ชูจุดเด่นเรื่องของความแรงของเครื่องยนต์เทอร์โบ หรือรถแบรนด์อื่น ๆ เช่น Mazda ก็มีข้อดีเรื่องการขับขี่ ทาง Suzuki เองก็เป็นรถยนต์ที่ไม่มีปัญหาให้กวนใจและมีค่าซ่อมที่เป็นมิตร

แม้ว่ารถยนต์ที่กล่าวมาจะให้ Option น้อยกว่ากว่า MG5 ไปบ้าง แต่สิ่งที่พวกเขามีก็คือความเชื่อมั่นในแบรนด์และบริการหลังการขายที่ดูจะเป็นข้อดีในระยะยาวมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นการมาของ MG5 มันก็ทำให้ค่ายรถได้ตระหนักว่าควรจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าบ้าง ไม่ได้หวังแค่เม็ดเงินเพียงอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกิดขึ้นเหมือนกับกลุ่มรถ SUV ที่ MG ZS ขึ้นนำเป็นเบอร์ 1 มาหลายเดือนโดยเฉพาะในปี 2563 ที่ท้องถนนจะมีแต่ MG ZS เต็มไปหมด

เหตุการณ์ที่ว่าอาจจะเกิดขึ้นกับ MG5 ก็เป็นได้หากแบรนด์จากญี่ปุ่นยังไม่ขยับตัว เพราะสมัยนี้ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้ทุกคน รับรู้ว่ารถแต่ละยี่ห้อให้อะไรมาบ้าง คุ้มค่าหรือไม่ ยิ่งในยุคนี้ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบความล้ำสมัย เทคโนโลยีไฮเทค แน่นอนว่าในกลุ่มรถ B-Segment และ Eco Car ที่มีราคาไม่แรงนักย่อมเป็นเป้าหมายของเหล่าคนรุ่นใหม่แน่นอน ซึ่งทาง MG ก็เหมือนจะเล็งเห็นจุดนี้ออกเสียด้วย

อย่างไรก็ดีการที่ MG5 ชูจุดเด่นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและการออกแบบที่ล้ำสมัยแบบนี้มันทำให้แบรนด์คู่แข่งหันมาเหลียวมองได้บ้าง และหวังว่าพวกเขาจะอัด Option ให้ทัดเทียมกันเสียที ขณะเดียวกันแม้ว่า MG จะชูจุดเด่นเรื่องความทันสมัยและคุ้มค่าเป็นหลัก สิ่งที่น่าห่วงก็คือคุณภาพของการบริการหลังการขาย การซ่อมบำรุง การสั่งอะไหล่ที่ค่อนข้างใช้เวลา หรือประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ไม่ได้เป็นจุดเด่น สิ่งเหล่านี้คงต้องใช้เวลาเป็นบทพิสูจน์ครับ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลการแข่งขันย่อมเป็นเรื่องที่ดีเพราะผลประโยชน์ทั้งหมดย่อมตกอยู่ที่ลูกค้าอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละครับ

ที่มารูปภาพ: mgcars.com: ภาพปก

รูปภาพทั้งหมด: mgcars.com: รูปที่ 1 รูปที่ 2รูปที่ 3รูปที่ 4

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !