อื่นๆ
Zero waste, Zero effort

“Zero waste เป็นไปไม่ได้จริงหรอก” อาจเป็นความคิดของใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ เพียงคุณลองเปิดใจและอ่านบทความนี้ให้จบถึงตัวอักษรสุดท้าย แนวคิดขยะเป็นศูนย์นี้อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มเม็ดเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณก็เป็นได้ คุณอาจสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร ทางเราจึงอยากชักชวนให้คุณมาติดตามไปด้วยกัน
Zero waste ใครมันจะไปทำได้
คำตอบหัวข้อนี้ Lauren Singer ได้ฝากคำตอบไว้จากการกระทำของเธอแล้ว หลายคนอาจรู้จัก Lauren Singer ในนาม “สาวน้อยกับขวดโหลขยะของเขา” เธอคือสาวน้อยผู้เปิดฉากการเล่าเรื่องการใช้ชีวิตของเธอในงาน TEDxTeen ในปี 2015 ด้วยการแสดงขวดโหลขนาดเท่าฝ่ามือที่มีขยะถูกใส่อยู่ภายในอย่างหลวมๆ พร้อมกับประโยคที่ว่า “นี่คือ ขยะที่ฉันได้ผลิตขึ้นในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา” จากเด็กผู้หญิงธรรมดาที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เธอได้ตัดสินใจเรียนต่อสายสิ่งแวดล้อมในระดับปริญญาตรี ณ New York University (NYU) แต่ในขณะที่เธอเรียนนั้น มีเพื่อนคนหนึ่งในคลาสเรียนของเธอที่จะมาเรียนพร้อมกับถุงพลาสติกที่ถูกบรรจุด้วย ถุงขนมที่ซึ่งทำมาจากพลาสติก ขวดน้ำพลาสติก และรวมถึง ส้อมและมีดที่ทำมาจากพลาสติก เธอสังเกตได้ถึงความขัดแย้งในสิ่งที่เพื่อนของเธอทำอยู่ นั่นก็คือ พวกเรา กล่าวรวมถึงตัวเธอและเพื่อนของเธอ ต่างเรียนอยู่ในสายสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาโลกให้น่าอยู่มากขึ้น ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง แต่เพื่อนคนนี้ของเธอกลับทิ้งขยะปริมาณมหาศาลทุกครั้งหลังเลิกเรียน ด้วยความข้องใจในวันน้ัน เธอจึงเก็บมานั่งคิดเพื่อหาทางแก้ไขกับตัวเธอเอง และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้รู้จักกับแนวคิดขยะเป็นศูนย์ หรือ Zero waste สาวน้อยคนนนี้ได้ดำเนินชีวิตด้วยแนวคิดขยะเป็นศูนย์ตั้งแต่ในปี ค.ศ. 2012 เธอได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า เป้าหมายของเธอคือการไม่ส่งสิ่งใดเข้าสู่กระบวนการกำจัดขยะเลย แต่เธอกลับนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการนำกลับมาทำปุ๋ยหมัก หรือจะเป็นการใช้ซ้ำก็ดี และเธอยังกว่างอีกด้วยว่า การใช้ชีวิตรูปแบบนี้ ทำให้เธอประหยัดเงินไปได้อีกมากถึง 90% จากเดิมที่เคยต้องเสียไป
Advertisement
Advertisement
Zero waste lifestyle ทำแล้วได้อะไร?
ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในทุกวันนี้มีขยะเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน แต่คุณจะไม่เชื่อเลยว่า จริง ๆ แล้วในทุกปีเราผลิตขยะเพียงแค่ขยะพลาสติก มากถึงสามร้อยล้านตันต่อปี หรือมีค่าเทียบเท่ากับน้ำหนักของคนทั้งโลก แล้วมันเยอะขนาดไหนกันนะ? หลายคนอาจจะยังจินตนาการไม่ออก แต่ที่แน่ ๆ ต้องมีมากมายนับไม่ถ้วนแน่นอน แล้วขยะพวกนี้นอกจากส่งผลที่เห็นได้เด่นชัดในด้านของมลภาวะทางอากาศที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนไปทั่วแล้วยังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงในหลาย ๆ ด้านทั้งก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการหมักหมมของขยะส่งผลไปยังโลกที่เราอาศัยอยู่ทำให้ภาวะโลกร้อนอันจะนำมาซึ่งความแปรปรวนของธรรมชาติ การสิ้นเปลืองพลังงานในการทำการกำจัดขยะ และยังรวมไปถึงสัตว์สิ่งมีชีวิตที่กลืนกินเอาพลาสติกเข้าไปด้วยความไม่รู้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวมากอย่างที่เป็นที่พูดถึงกันในช่วงนี้ที่สัตว์น้ำเอาไมโครพลาสติกเข้าไปแล้วเราก็จับเอาสัตว์น้ำนั้นมากินอีกที เรียกได้ว่าใกล้ตัวมากจริง ๆ เห็นอย่างนี้แล้วเราจะเริ่ม Zero waste lifestyle กันเลยได้หรือยัง
Advertisement
Advertisement
Zero waste ต้องเริ่มอย่างไร?
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มสนใจอยากจะลองเริ่มดูบ้างแล้วสงสัยว่าจะทำได้อย่างไรบ้างหรือกังวลว่าจะยุ่งยากหรือลำบากมั้ย ลองทำตามหลักการง่าย ๆ ด้วยหัวใจหลักของ หลักการ Zero waste คือกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทาง การพิจารณความจำเป็นก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ร่วมด้วยกับการหลีกเลี่ยง ลด ใช้ซ้ำ และดัดแปลงเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเรียกกันอีกชื่อว่า หลัก 1A3R ซึ่งประกอบไปด้วย Avoid, Reuse, Reduce, Recycle หลายคนอาจรู้สึกว่าก็รู้ๆกันอยู่ แต่แท้จริงแล้ว มันง่ายกว่าที่ทุกคนคิด ลองมาติดตามไปด้วยกัน

1. Avoid คือการหลีกเลี่ยงการเพิ่มปริมาณขยะ หลีกเลี่ยงการใช้ single-used plastic เลือกที่จะพกกล่องอาหารส่วนตัวไปเอง แทนการใช้กล่องอาหารพลาสติกหรือโฟม ที่ซึ่งเป็นขยะที่ใช้แล้วทิ้ง หลีกเลี่ยงการซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือสิ่งที่ไม่ได้ใช้ เช่น สินค้าที่ขายในปริมาณมากๆ ที่ใครหลายคนจะคิดว่าคุ้มเมื่อหารออกมาเป็นราคาต่อชิ้น แต่หากถ้าคิดในมุมว่า หากซื้อมาในปริมาณมาก แต่เราต้องการใช้เพียง 1-2 ชิ้น แปลว่าเราต้องเสียเงินไปมากกว่าสิ่งที่เราจำเป็นมากเป็นหลายเท่า และยังเป็นการเพิ่มขยะให้กับโลกใบนี้อีกด้วย
Advertisement
Advertisement

2. Reuse คือการใช้ซ้ำ ตามหลักแนวคิดการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นหากเราไม่สามารถปฏิเสธการรับถุงหรือกล่องอาหารพลาสติก เมื่อเราได้รับมา เราควรที่จะใช้บรรจุภัณฑ์นั้นให้คุ้มกับค่าของสิ่งๆนั้นมากที่สุด สิ่งที่จะสามารถทำให้เราเห้นภาพได้มากขึ้น นั่นก็คือขวดน้ำพลาสติก การไปซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยในการไม่รับบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้น แต่หากเราได้ซื้อและครอบครองบรรจุภัณฑ์นั้นแล้ว เราก็ควรที่จะใช้มันอย่าคุ้มค่าโดยนำมาใช้ซ้ำ แต่ต้องอย่าลืมคำนึงถึงการปนเปื้อนของ microplastic ดังนั้นทางผู้เขียนจึงแนะนำให้ใช้ซ้ำเพียง 2-3 ครั้ง เพื่อไม่ให้ทำลายทั้งโลกและร่างกายของเราเอง

3. Reduce คือการลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจเป็นการยากที่จะเลิกการใช้มัน เช่น Cotton Buds หรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่นแชมพู สบู่ หรือแม้กระทั่งเครื่องปรุงในครัว การไม่ใช้เลยอาจเป็นไปได้ยาก ในสมัยนี้ร้านค้า Refill ก็มี แต่ยังไม่ได้แพร่หลาย เช่น Refill Station ปั๊มน้ำยา, Grasstonomy, ZeroMoment Refillery และอื่นๆอีกมากมาย (สามารถติดตามได้ในเพจ: greenery) ดังนั้นสำหรับจุดเริ่มต้นของการดำเนินชีวิตแบบ Zero waste เราไม่จำเป็นที่จะต้องหักดิบในทุกอย่าง เลิกใช้ทุกผลิตภัณฑ์พลาสติก เพียงเราลดพฤติกรรมที่จะนำไปสู่การสร้างขยะ นั่นก็คือการที่คุณได้ช่วยเหลือโลกของเราแล้ว

4. Recycle คือการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ เป็นคำที่คุ้นหูกันที่สุดแต่สำหรับหลายคนแล้วอาจคิดว่านี่คือข้อที่ทำได้ยากที่สุด เนื่องจากมันต้องผ่านกระบวนการแล้วจึงนำกลับมาใช้ใหม่ แต่หากคนรับบท นักสะสม ขั้นตอน recycle นี้ก็จะเป็นเรื่องง่ายไปโดยปริยาย เช่นการสะสมขวดที่สามาารถเข้ากระบวนการ recycle ได้ ละนำไปให้กับบริษัทที่รับต่างๆเช่น โครงการ “วน” บริษัท ทีบีพีไอ จำกัด, Precious Plastic BKK จักรพงษ์วิลล่า, กรมควบคุมมลพิษ และอื่นๆอีกมากมาย (สามารถศึกษาข้อมูลต่อได้ที่: Nostra 12 จุดรับรีไซเคิลขยะพลาสติก พลิกวิกฤติขยะล้นเมือง)
เห็นได้ชัดเลยว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรามักมองข้ามนั้นส่งผลกับเรามากกว่าที่คิดแล้ววิธีการช่วยบรรเทาได้นั้นก็ทำได้ง่ายกว่าที่คิด Zero waste ไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่อาจจะเป็นทางรอดของเราในอนาคต และหากคุณได้เริ่มแนวคิด Zero waste นี้ ณ วินาทีนี้ มันอาจจะเป็นหนึ่งในส่วนที่เพิ่มเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณก็เป็นได้ “The most environmentally friendly product is the one that you didn’t buy” -Joshua Becker
เครดิตภาพประกอบจาก Nichapat B. / Canva.com :รูปปก รูปที่1 รูปที่2 รูปที่3
ความคิดเห็น






