อื่นๆ

การมีชีวิตอยู่

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
การมีชีวิตอยู่

มีคนเคยบอกไว้ว่า ไม่มีใครหนีจากความตายไปได้ ดังนั้นไม่ควรปฏิบัติต่อตนเองเหมือนเป็นคนที่ไม่มีคุณค่า ให้ทำในสิ่งที่อยากทำ กินอาหารอร่อยๆ ออกกำลังกายสำผัสความอบอุ่นของแสงแดด ความงดงามของทะเลแม่น้ำ พูดในสิ่งดีๆที่อยากจะพูด ทั้งที่อยากและไม่กล้าพูดออกมาให้ใครฟัง ปลดปล่อยตัวตนของตัวเอง ทั้งความเขลา ความใจดี หรือแม้แต่ความแปลกแตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะเราทุกคนเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว...

A4_P2เช้าวันหนึ่ง "ป๊อกๆ...น๊อคๆ..." เสียงเคาะเรียกแบบเร่งรีบอะไรสักอย่าง เอกรีบสปริงตัวลุกจากที่นอนเพื่อไปที่ประตูให้เร็วที่สุด "งายเป็นไงบ้างเพิ่งตื่นเหรอ ว่าแต่วันนี้ว่างมั้ยไปช่วยตาตัดหญ้าแล้วขุดดินที่บ้านหน่อยสิ" ตาผ่องพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบวกกับน้ำเสียงที่ใจดี ทำให้ยากที่จะปฏิเสธคำชวน ตาผ่องเป็นเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บ้านหลังตรงข้ามเยื้องๆไปทางด้านขวา แกน่าจะอายุราว 60 ต้นๆน่าจะเกษียณแล้วเพราะเห็นแกอยู่บ้านทุกวัน ที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ทุกครั้งที่ไปช่วยงานแกก็จะทำอาหารให้ทาน และให้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆทุกครั้ง

Advertisement

Advertisement

A4_P3เมื่อไปถึงแกก็จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้ (ขุด+ตัด) พร้อมกับน้ำดื่มเย็นวางเตรียมไว้ไม่ให้ขาด ระหว่างที่ขุดดินแกก็จะตัดกิ่งไม้อยู่ข้างๆ พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับตัวแก และก็สังคมในอดีตให้ฟัง เช่นสมัยก่อนบ้านใกล้กันก็มักจะเชื่อใจกัน เพื่อนบ้านในระแวกนั้นทุกคนก็จะรู้จักกันหมด ดังนั้นก็ไม่มีใครทำรั้วหนามไฟฟ้าป้องกันสูงๆ หรือแม้แต่ล็อคประตูหน้าบ้าน เปิดทิ้งไว้ก็ยังได้เลย และนี่ทำให้การทำงานของเอกนอกจากจะได้ความรู้ดีๆแล้ว ยังได้รับประสบการณ์ดีๆอีกด้วย กลับกันเอกไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยนกับแกได้แต่อมยิ้มแล้วเออออไปกับแก ที่จริงแล้วหลายอย่างที่ได้ฟังก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ดีทีเดียว

"เป็นไงอร่อยมั้ย" ตาผ่องทำอาหารมาเสิร์ฟหลังจากที่งานสวนจบลงไปด้วยดี พอดีมีคำถามนึงที่อยากจะถามตามานานแล้วแต่ไม่กล้าถาม "ตาครับ ผมอยากรู้ว่าตาจะแต่งสวนแล้วก็ตกแต่งบ้านให้สวยงามอยู่สม่ำเสมอ....ไปเพื่ออะไรครับ ในเมื่อตาอยู่บ้านคนเดียวมีพื้นที่กว้างขวาง ตาไม่ต้องเหนื่อยก็ได้นิครับ" เมื่อได้ยินแบบนั้นตาผ่องยิ้มกว้าง "คนเรามันต้องมีสิ่งที่อยากจะทำ ทำแล้วมีความสุข เมื่อมีคนผ่านไปมา เขาเห็นเขาก็มีความสุขด้วย..." "บางครั้งตาก็อยากไปเที่ยวสวนสนุกแบบเด็กๆนะ ไปเดินเล่นตามที่ๆวัยรุ่นไป...แต่มันก็คงแปลกที่คนแก่จะไปอยู่ท่ามกลางเด็กๆแบบนั้น" ตาพูดจบแล้วหัวเราะ เมื่อเอกได้ยินแบบนั้นก็อดคิดตามไม่ได้ แล้วเขาเองล่ะมีอะไรที่ทำแล้วมีความสุขบ้าง ที่เห็นได้ตอนนี้ก็คือเวลาที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับตามั้ง คืนนั้นเอกกลับบ้านไปทำงานบ้านต่อ โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย เขาได้แนวความคิดดีๆจากตาได้เห็นรอยยิ้มของคนๆนึงที่มีความสุข ตอนนี้แหละมั้งความสุขที่ตาพูดถึง

Advertisement

Advertisement

A4_P4เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก 5-6 วันแล้วที่เอกไม่เห็นตาผ่องออกมาเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านของแกเหมือนทุกๆวัน ดอกไม้หรือต้นหญ้าบางส่วนก็ดูเหี่ยวเฉาลงไปบ้าง เอกตัดสินใจไปกดกริ่งหน้าบ้านเพื่อทักทายแก "กริง...กริ้งๆ" ไม่มีเสียงตอบรับ เอกเดินเล่นชมสวนของแกประมาณ 5 นาที ที่จริงก็แอบดูผลงานของตัวเองด้วย แล้วเขาก็พยายามตะโกนเรียกตาผ่องอีกครั้ง เอกรู้ดีว่าแกไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหนนอกจากอยู่กับบ้าน ตอนนี้เขาเริ่มเป็นห่วงแกขึ้นมา เอกตัดสินใจลองเปิดประตูหน้าบ้านดู ปรากฏว่าแกไม่ได้ล็อคประตูทางเข้าเหมือนกับที่แกเคยพูดเอาไว้ สิ่งแรกที่สัมผัสคือกลิ่นที่รุนแรงแบบที่ต้องเอามือมาอุดจมูกไว้ทันที เมื่อมองไปทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งเปิดโล่งและอยู่ติดกับประตูทางเข้าพอดี คุณตานั่งอยู่บนโซฟาหันหน้าไปทางตู้โชว์ที่แกสะสมของเก่าแก่ที่ชื่นชอบเอาไว้ ที่เรารู้กันว่าถ้าผู้ตาย ตายในช่วงระยะเวลาประมาณ 4-5 วัน ร่างกายจะเกิดการขึ้นอืดเต็มที่ ลิ้นจุกปาก ตาถลน ผิวหนังลอกในบางส่วน ใบหน้าบวมฉุและคล้ำจัด เนื้อเยื่อบางส่วนของร่างกายก็เริ่มหายไป ตอนนี้เหมือนร่างกายของเอกจะหยุดทำงานไปชั่วขณะเหมือนผีอำ ปรากฏภาพตาผ่องที่กำลังนั่งดูของสะสมของแกแล้วหันมาถามเอกว่า "รู้มั้ยทำไมสิ่งนี้ถึงมีคุณค่า" แล้วคุณตาก็ยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเอกตั้งสติได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาต้องวิ่งกลับหลังหันสุดตัว เอกมารู้ตัวอีกทีเมื่อเขามาอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง

Advertisement

Advertisement

A4_P5มาถึงตอนนี้เขาเข้าใจดีแล้วว่า ตัวอย่างของความสุขในการใช้ชีวิตเป็นอย่างไร และไม่มีใครเคยหนีจากความตายไปได้ เราทุกคนเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว...

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์