ไลฟ์แฮ็ก

การอนุโมทนาบุญจากวิญญาณที่ถูกลืม

122
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
การอนุโมทนาบุญจากวิญญาณที่ถูกลืม

ศาสนาและความเชื่อของคนไทย อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน เรื่องชีวิตหลังความตายก็เหมือนกันที่มีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า ทำบุญเยอะๆเมื่อตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ คำถามที่ว่านรก-สวรรค์มีจริงหรือ? ยังติดอยู่ในห้วงความคิดของหลายๆคน ขนาดตอนมีชีวิตยังลำบากหรือสบายเลยเมื่อตายไปยังจะเป็นแบบเดิมไหม มีชายคนหนึ่งยังมาเล่าอีกว่าโลกหลังตามตายก็เหมือนกับโลกปกติ เพียงแค่ว่าเป็นโลกที่มืดมิด ครึ้มๆ สลัวๆ ไม่มีแสงใดสว่างไปกว่าแสงเทียนนำทางของบุญอีกแล้ว ที่จะนำพาทุกดวงวิญญาณไปสู่แสงสว่างหรือการได้เกิดใหม่นั้นเอง

monkภาพโดย : SadahamYathra จาก : Pixabay


เมื่อผู้เขียนได้ฟังเรื่องราวเก่าแก่ของญาติ พี่ๆน้องๆ จากประสบการณ์การพบเจอวิญญาณหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จึงได้ข้อสันนิษฐานว่า การทำบุญสามารถส่งต่อได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสามารถรับได้ทั้งผู้ให้และผู้รับเปรียบเสมือนการส่งต่อแสงเทียนไปสู่ดวงวิญญาณ มีบทสวดที่สามารถบอกลักษณะของการส่งต่อบุญได้นั้นคือ

Advertisement

Advertisement

บทกรวดน้ำหรืออนุโมทนารัมภคาถา

  • ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
  • เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ
  • อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ
  • สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา จันโท ปัณณะระโส ยะถา
  • มะณิ โชติระโส ยะถา

คำแปล

  • ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสมุทรสาครให้บริบูรณ์ได้
  • ฉันใด ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วในโลกนี้
  • ย่อมสำเร็จประโยชน์แด่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วได้ ฉันนั้น
  • ขออิฏฐะผลที่ท่านปรารถนาแล้วตั้งใจแล้ว
  • จงสำเร็จโดยฉับพลันขอความดำริทั้งปวง
  • จงเต็มที่ เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ
  • เหมือนแก้วมณี อันสว่างไสวควรยินดี

จากบทสวดจะเห็นว่า เมื่อเรามีบุญพอเพียงแล้วหรือมีบุญมากแล้วเปรียบดั่งน้ำในมหาสมุทรที่มิอาจนับได้เป็นราคาหรือน้ำหนัก ยิ่งเมื่อเราเติมน้ำนั้นมากเท่าไหร่ น้ำนั้นยิ่งมีมากขึ้นส่งผลให้เห็นความแจ่มใสของพระจันทร์ที่ลอยเหนือผวิน้ำนั้นมากขึ้นกว่าเดิมนับร้อยนับพันเท่า ส่งผลให้เรานั้นมีความยินดีปรีดา ความอิ่มในสุขที่สามารถส่งต่อแสงบุญนั้นได้

Advertisement

Advertisement

เรื่องเล่าจากลุงท่านหนึ่งเมื่อได้พบเพื่อนที่ตายไปแล้วหลายสิบปี

" มีชายหนุ่มคนนึ่งจากบ้านมาไกลเพื่อมาทำงานในเมือง เนื่องจากบ้านนั้นยากจน การดิ้นรนในชีวิตจึงเกิดขึ้น หลังมาทำงานในเมืองได้ไม่นาน เกิดมีเรื่องกับนักเลงท้องถิ่นกลุ่มหนึ่ง และตนเองนั้นได้ถูกฆาตกรรมโดยการฆ่าฝังดิน โดยเมื่อสมัยก่อนนั้น กฏหมายหรือตำรวจยังไม่เข้มขลังมากนัก การตายหรือการหายตัวไปของคนๆหนึ่งซึ่งไม่มีคนรู้จักมากมายหรือคนพลัดถิ่น กลับเป็นเรื่องที่ไม่มีคนสนใจ เมื่อชายหนุ่งคนนั้นกลายเป็นผีแล้ว ก็ไม่ได้ร่อนเร่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่ตรงที่เขาถูกฝังนั้น อาศัยเพียงแสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางเพื่อคอยผู้คนผ่านไปมานับสิบปี ไม่มีคนคอยทำบุญให้จึงไม่สามารถที่จะไปเกิดได้เลย แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น ณ ตรงที่ๆเขาถูกฝั่งนั้นได้กลายเป็นถนนที่ผู้คนสัญจรไปมานับไม่ถ้วน เป็นหน้าปากซอยของหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชานเมือง ในทุกๆเช้าจะมี พนักงานโรงงานมาคอยใส่บาตรทำบุญทุกเช้า ตนเองจึงได้เข้าไปอนุโมทนาบุญ เพื่อรับเศษเสี้ยวของบุญนั้นนำทางไปเกิด แต่ใช่ว่าจะได้บุญทุกครั้ง เพราะเมื่อเจอผีที่มีบุญมากกว่า ผีเหล่านั้นจะชิงรับบุญไปก่อน ตนเองจึงได้บุญนั้นเพียงน้อยนิด เปรียบดั่ง การใส่น้ำมันในตะเกียงฉันใด ผู้ที่มีตะเกียงใหญ่กว่าย่อมได้รับมากกว่าฉันนั้น เมื่อเวลาผ่านไปจนได้มาเจอลุงผู้เล่า เขาก็ได้มีบุญเพียงพอที่จะสื่อสารได้ แต่การพบพานย่อมมีการแยกจาก ตอนที่เขาได้พบลุงซึ่งเป็นเพื่อนของเขานั้น ณ ขณะนั้นบุญของเขาเพียงพอที่จะไปเกิดใหม่แล้ว ในอีกไม่กี่วันถัดมา วิญญาณชายหนุ่มผู้ที่จากบ้านมาไกลก็ไปเกิดใหม่ "

Advertisement

Advertisement

dhammaภาพโดย Dhamma Medicine จาก Pixabay

เรื่องเล่าลุงพบผีก็มีเพียงเท่านี้ จากที่ได้ฟังก็เห็นว่า หากเราสร้างบุญไว้ตั้งแต่ตอนเรามีชีวิตนั้น ตะเกียงที่คอยรับบุญของเราย่อมมีขนาดใหญ่มากกว่า คนที่ไม่ทำบุญ มีโอกาศที่เราจะไม่ติดพันใลโลกนี้และได้ไปเกิดใหม่ได้เร็วขึ้น เรื่องนี้ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะผู้เขียนก็ได้ฟังเขามาอีกที ส่วนจะจริงหรือไม่ท่านผู้อ่างคงต้องพิสูจน์เอง

watภาพโดย Như Đặng Thùy จาก Pixabay

ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากการทำบุญ ขอยกตัวอย่างสำคัญเพียง 5 ข้อ

  1. สุขใจ เมือ่ได้ให้บุญแก่ผู้อื่น
  2. สร้างจิตที่เป็นสมาธิและเกิดปัญญาญาณ
  3. มีความสงบสำรวมเมื่อได้ปฏิบัติบุญที่มาจากธรรม
  4. ผิวพรรณหน้าตาจะผ่องใส เนื่องจากมีความสุข สงบ ลดความเครียด
  5. มีศีลคอยรักษา มีเทวดาคอยคุ้มกัน เหล่าสิ่งชั่วร้ายจะกลัวคนทำบุญ และมีศีลไม่กล้าเข้ามาทำร้าย

สุโขทัยภาพโดย Walkerssk จาก Pixabay

การทำบุญนั้น เราควรทำแต่พอดีและพอประมาณหากเราทำแล้วลำบากเราหรือคนอื่นนั้นถือเป็นบาป จะสร้างทุกข์มากกว่าสุข หรือการเชื่อมากจนถึงขั้น งมงาย นั้นก็เกินเหตุ เกินจากหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า มัชฌิมา ปฏิปทา นั้นคือการเดินทางสายกลางนั้นเอง จะส่งให้ชีวิตของเรามีความเจริญงอกงาม คล้ายกับเมื่อเรารดน้ำพรวนดินดูแลต้นไม้เราอย่างดี วันใดวันหนึ่งต้นไม้นั้นย่อนออกผลให้เราได้ทาน หรือเราสามารถใช้สอยประโยชน์จากต้นไม้นั้นได้

ภาพปกโดย StockSnap จาก Pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์