การแผ่เมตตาพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ อานิสงส์การแผ่เมตตา

สวัสดีสมาชิกใหม่ที่พึ่งกดเข้ามาอ่านและสมาชิกที่ติดตามอยู่แล้วนะคะ ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเรียนรู้ธรรมะไปด้วยกัน หัวข้อนี้จะนำเสนอเรื่อง การแผ่เมตตาพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ อานิสงส์การแผ่เมตตา

การแผ่เมตตา คืออะไร... การแผ่เมตตา ก็คือการให้ความเมตตา แบ่งปันความเอื้ออาทร แบ่งปันบุญที่มี ที่ได้ทำแล้วให้กับผู้อื่นค่ะ เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้รับผลบุญและมีความสุขค่ะ เหมือนเราเอาน้ำพรมลงบนดินที่กำลังมีฝุ่นฟุ้งกระจาย ก็ช่วยให้ฝุ่นเบาบางลง หรือเราเอาน้ำพรมลงบนดินเลย พรมก่อนที่ฝุ่นจะฟุ้งขึ้นมา น้ำมีน้ำหนัก ก็ช่วยสยบฝุ่นที่อาจจะฟุ้งกระจายได้ หรือเหมือนฝนที่ตกลงมาให้ความชุ่มเย็นแก่ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ค่ะ นอกจากทำให้รู้สึกเย็นแล้ว น้ำก็มีประโยชน์ให้เราได้ใช้ทั้งอุปโภคและบริโภคด้วย

เมื่อเราเจอความร้อนเราจะรู้สึกร้อน แต่เมื่อได้น้ำ ได้ความเย็น ก็รู้สึกทำให้ความร้อนนั้นลดลง ร้อนน้อยลง ยิ่งถ้าน้ำเย็นๆ แล้วยิ่งชุ่มฉ่ำใจ นี่แหล่ะค่ะ การแผ่เมตตาก็เหมือนกับการกระจายความเย็นทำให้ผู้ที่ได้รับความเมตตา รู้สึกดี เย็นใจ รู้สึกอุ่นใจ มีความสุข จากที่พูดถึงตัวอย่างไปก็ทำให้เห็นภาพและเข้าใจได้ชัดขึ้นนะคะ... อานุภาพพลังของการแผ่เมตตานั้นช่วยได้ทุกภพภูมิ ที่เราอยู่กันนั้นมีภพภูมิซ้อนทับกันหลายภพภูมิค่ะ ที่เรามนุษย์คนธรรมดามองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ แต่จะพูดให้เข้าใจได้ง่าย คือ การแผ่เมตตาช่วยเหลือและส่งผลบุญได้ทั้ง 3 โลกเลยค่ะ คือ

2.โลกของดวงวิญญาณ

ดวงวิญญาณอยู่ร่วมกับเราและที่ไม่ได้อยู่ร่วมกับเรา ที่อยู่ร่วมกับเราคือเขาอาจจะเห็นเรา ว่าเราทำอะไร แต่เราคนธรรมดา ถ้าไม่มีสัมผัสพิเศษจะมองไม่เห็นวิญญาณค่ะ แต่ในบางคนที่มีสัมผัสพิเศษอาจจะรับรู้ รู้สึกได้ หรืออาจจะเห็นหรือได้ยินเสียง หรือสามารถรับสารและสื่อสารได้ในรูปแบบอื่นๆ ได้ค่ะ  ก่อนจะไปเป็นดวงวิญญาณนั้น ดวงวิญญาณเหล่านี้ก็อาจจะเคยเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นสิ่งมีชีวิตหรืออยู่ในภพภูมิอื่นๆ มาก่อนค่ะ แล้วจึงมาอยู่ในโลกของดวงวิญญาณ ซึ่งโลกของดวงวิญญาณนั้นไม่สามารถสร้างบารมี สะสมบารมีได้ค่ะ คือ สร้างบุญไม่ได้ แต่ว่าสามารถรับบุญได้ รับจากใคร... ก็รับจากมนุษย์ที่แผ่เมตตาให้ค่ะ เพราะมนุษย์เป็นภพที่สามารถทำได้ทั้งความดีและความชั่ว การทำความดีทำบุญ สั่งสมบารมี แบ่งปันบุญให้ภพภูมิอื่นได้ค่ะ

เราควรแผ่เมตตาให้ภพภูมิของวิญญาณด้วย ให้เค้าได้รับผลบุญที่เราได้ทำ เค้าจะได้ไปอยู่ภพภูมิที่สูงขึ้นไป และทำให้เค้าได้ปลดเปลื้องพันธนาการบางอย่าง หลุดพ้นจากความทุกข์ ความโกรธแค้น และได้มีความสุขค่ะ เป็นการสอนธรรมะให้กับดวงวิญญาณด้วยค่ะ เช่น เราแผ่เมตตาอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เจ้ากรรมนายเวรก็ได้รับบุญ ได้คลายความโกรธแค้นลง กรรมไม่ดีที่มีต่อกันก็เบาบาง จางลงได้ ถ้าเจ้ากรรมนายเวรให้อภัย ก็ไม่ติดค้างคาใจกันอีกต่อไป เจ้ากรรมนายเวรก็ได้ไปอยู่ภพภูมิที่สูงขึ้น หรือได้ไปเกิดค่ะ

3.โลกของเทวดา นางฟ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง

เทวดา นางฟ้า สร้างบุญไม่ได้ แต่ได้รับบุญได้ ถ้าเราแผ่เมตตาส่งบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ท่านก็จะได้บุญ มีพลังที่มากขึ้น มีบารมี เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีหรือได้รับอันตราย สิ่งสิทธิ์ท่านรู้ก็จะเมตตาช่วยเหลือเราเพราะท่านมีพลัง ที่จะสามารถช่วยเราได้ค่ะ ดังนั้นการแผ่เมตตาส่งบุญให้แก่เทพเทวา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำค่ะ และเมื่อท่านมีพลังบุญมาก ท่านก็จะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไปได้อีกค่ะ

ต่อไปจะเป็นการกล่าวถึง อานิสงส์ของการแผ่เมตตา ขอกล่าวตัวอย่างให้ฟังสัก 6 ข้อ เพื่อให้ได้เรียนรู้กันนะคะ ได้แก่

อานิสงส์ของการแผ่เมตตา

1.ช่วยให้สบายใจ ...เมื่อเราได้แผ่เมตตาออกไป ก็คือการให้ การแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้บุญแก่ผู้อื่น ย่อมส่งผลให้ ผู้ให้เกิดความปิติในบุญ อิ่มเอมใจ สบายใจและรู้สึกมีความสุข

2.เป็นการขัดเกลาจิตใจ ...จิตวิญญาณได้ขัดเกลาทำให้จิตใจดีขึ้น มีจิตภายในใสขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น แล้วก็ช่วยรักษาตนเองในระดับจิตใต้สำนึก ในเรื่องที่เคยทำไม่ดีไว้ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนเป็นการรักษาจิตใจค่ะ

3.เป็นที่รักในทุกภพภูมิ เป็นที่รักของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอมนุษย์ ...เมื่อเราทำบุญและได้แบ่งปันบุญที่ทำ ให้กับภพภูมิอื่นด้วย ก็จะถือว่าเราเป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่ว่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดวงวิญญาณหรือในภพมนุษย์ ก็จะได้เป็นที่รักใคร่ เพราะว่าความดีงามได้ถูกแผ่กระจายออกไป ผู้อื่นก็สัมผัสได้

4.ช่วยให้สิ่งดีๆ ย้อนกลับเข้ามาหาผู้แผ่เมตตา ...ในการเป็นผู้ให้ ย่อมมีพลังดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ได้รับโอกาสที่ดี ได้เจอกัลยาณมิตรที่ดี และมีความสงบสุข เบาใจ สบายใจค่ะ

5.ดวงตาเห็นธรรม ...คือ มีโอกาสบรรลุธรรม เรียนข้อธรรม ก็เข้าใจได้ง่ายและสามารถถ่ายทอดต่อได้ เรียนรู้ได้เร็ว เป็นผู้มีสติ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสติ สามารถแก้ไขปัญหาและผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้และมีสติปัญญาที่ดีค่ะ ถ้าตายไปแล้ว ได้มาเกิดเป็นคนอีกก็จะได้เกิดมาเป็นคนที่มีสติปัญญาดี มีความเฉลียวฉลาดเพราะว่าบุญที่ทำไว้ส่งผลค่ะ

6.นอนหลับสบาย ไม่ฝันร้าย ...คือ หลับได้อย่างสบายใจ ไม่คิดฟุ้งซ่าน จะไม่รู้สึกปรุงแต่ง คิดมาก จนเกิดเป็นความฝัน จะไม่มีความกังวลใจ ยิ่งถ้าได้แผ่เมตตาก่อนนอนแล้วยิ่งช่วยให้เบาสบาย ผู้กระทำจะรู้สึกได้ด้วยตนเองค่ะ

จากประสบการณ์ผู้เขียน

สิ่งที่ทำ: หลังจากการทำสิ่งที่เป็นกุศลทุกอย่างและการทำสมาธิภาวนา ตั้งใจแผ่เมตตาด้วยใจอันบริสุทธิ์ให้ทุกภพภูมิได้อนุโมทนาบุญร่วมกัน

ผลที่ได้: ได้ความสบายใจ รู้สึกเบาใจ ในการเป็นผู้ให้และแบ่งปันบุญ ก็ส่งผลให้จิตใจได้รับการขัดเกลาและยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น

จากที่ได้กล่าวอานิสงส์ไป 6 ข้อ ก็ทำให้ได้ทราบกันนะคะว่า การแผ่เมตตานั้นนอกจากจะส่งผลดีกับตนเองแล้วยังส่งผลดีกับผู้อื่นด้วย ส่งผลดีใน 3 โลกเลย อย่างไรทำบุญแล้ว อย่าลืมการแผ่เมตตาด้วยนะคะ ขอน้อมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านในทุกบ่อบุญนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในทุกวัน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง .

ฝากแชร์เพื่อให้ผู้อื่นได้เรียนรู้ไปด้วยกันเป็นการทำธรรมทานค่ะ และกดติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดการเรียนรู้ไปด้วยกันในทุกหัวข้อนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ หัวข้อนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้แล้วพบกันใหม่ในหัวข้อถัดไปค่ะ

เครดิต

• เครดิตเว็บแต่งภาพ: canva.com
• เครดิตภาพ: ภาพทั้งหมดของผู้เขียน

อ่านผลงานของผู้เขียนหัวข้ออื่นๆ ได้ที่: คุ้มค่าเกิด | Creator Profile at TrueID Creator

บทความอื่นที่น่าสนใจของผู้เขียน อยากแนะนำให้อ่านนะคะ...

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !