ไลฟ์แฮ็ก
ก็แค่อยากเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข
หลายคนนิยามคำว่า 'ความสุข' คือการประสบความสำเร็จ มีสังคม ชื่อเสียง เงินทอง เป็นที่ยอมรับในสังคม อาจรวมไปถึงยอดวิว ยอดแชร์ ยอดไลค์ กับกระแสสังคมโซเชียลในปัจจุบันว่านั่นคือความสุข แต่บางคนกลับมีมุมมองของความสุข ว่าคือความสุขที่แท้จริงจากภายในสู่ภายนอก คือสุขทั้งกายและใจ ที่สามารถสื่อออกมาได้ทางแววตา สีหน้า และท่าทาง เพียงแค่เป็นคนธรรมดา ไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้ามากมาย ก็สามารถหาความสุขได้ มาลองหันหลังให้กับชีวิตที่ต้องมี Productivity ตลอดเวลามาเป็นคนธรรมดาที่มีความสุขด้วยกันดีกว่า
- ลองจัดเวลาโดดเดี่ยวตัวเอง ชีวิตยุคนี้ทำให้เราเชื่อมกับโลกออนไลน์ตลอดเวลา เราโดนดึงดูดจากสิ่งเร้าเหล่านี้ตลอดตั้งแต่ตื่นจนหลับ ทำให้เราอยากเชื่อมต่อกับผู้อื่นและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราจึงโดนสังคมบังคับกลายๆ ว่าต้องสนใจวิถีชีวิตของคนอื่น สนใจสิ่งรอบตัว จนเราลืมที่จะสนใจชีวิตของตัวเอง ลืมที่จะอยู่กับตัวเองเพื่อถามใจตนเองว่าเป็นชีวิตที่เราอยากได้จริงๆใช่ไหม ดังนั้นลองใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวบ้าง หัดเป็นมนุษย์ออฟไลน์ เลิกสนใจโซเชียลสักครู่ ลองปลดปล่อยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องใส่หน้ากากกับใคร ไม่ต้องใช้ชีวิตตามกระแสหรือเท่าทันโลกตลอดเวลา
- ใช้ชีวิตแบบบังเอิญเดินเล่น เอ้อระเหยบ้าง ต๊ะต่อนยอนบ้างก็ได้ ไม่ต้องเร่งรีบตลอดเวลา อาจลองใช้เส้นทางการเดินทางที่แตกต่างจากเดิม เลิกสนใจรีวิวสักขณะ ปล่อยไปตามสองเท่าที่จะพาเราก้าวเดินไปจนคุณอาจจะพบเจอร้านกาแฟฮิปๆ ที่บังเอิญเดินผ่าน ร้านอาหารเก่าแก่รสอร่อยที่แอบซ่อนอยู่ในซอยลึก เจอคนดีมีน้ำใจระหว่างทางที่จะทำให้เราเก็บเป็นความทรงจำที่ดีของวันนั้น
- ให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เพราะสิ่งนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้ว เราจะไม่มีวันกลับไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้อีกแล้ว เราจึงควรใส่ใจกับเหตุการณ์หรือผู้คนที่อยู่ตรงหน้า เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าหลังจากนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเราใส่ใจกับมันแล้ว แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้เราเสียใจน้อยลง เพราะเราได้โฟกัสกับเขาหรือเธอหรือเหตุการณ์ตรงหน้านั้นแล้ว
- มีความสุขกับเรื่องเล็กๆ รอบตัวในปัจจุบัน ไม่งั้นเราจะไม่มีความสุขเลย บางคนมีความฝันมากมาย คิดว่าถ้าฝันเป็นจริงแล้วตนเองจะมีความสุข ซึ่งบางคนอาจใช้เวลานานหลายปีกว่าความฝันจะเป็นจริง บางคนได้ทำตามความฝันแล้วกลับพบว่าความรู้สึกก็ยังไม่ได้ถูกเติมเต็มอยู่ดี เป็นแค่เพียงเรื่องผ่านมาแล้วผ่านไป เป้าหมายอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ดังนั้นอย่าไปเอาจริงเอาจังกับอนาคต อย่ายึดติดกับอดีต แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด สิ่งที่เรามีความสุขได้เลย คือความสุขเล็กน้อยในโมเมนต์ปัจจุบัน เช่น ยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน ได้กินอาหารอร่อยๆ ได้ฟังเพลงที่ชอบ ได้ดูซีรีส์ที่ใช่
- ไม่จำเป็นต้องหาความสุขตลอดเวลา ใน 1 วัน สมองของมนุษย์จะมีความคิดไม่ต่ำกว่า 60,000 เรื่อง ซึ่งมีทั้งเรื่องสุขและทุกข์ ความรู้สึกไม่พึงพอใจ ไอ้นู่นไม่ดี ไอ้นั่นไม่พอ จงเข้าใจจังหวะสุขกับทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่จำเป็นต้องสุขหรือทุกข์ตลอด หากวันไหนรู้สึกแย่ๆ ก็อนุญาตให้ชีวิตแย่บ้าง อ่อนแอบ้าง ร้องไห้บ้างก็ได้ หรือหากวันไหนมีความสุขก็อย่าประมาทกับมัน ไม่ว่าวันนี้จะเลวร้าย หรือเป็นวันดีดี ช้าหรือเร็ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
- ทดลองการใช้ชีวิตง่ายๆ ที่ไม่ต้องฝืนตัวเอง ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่ต้องใช้ของแพง ไม่ต้องกินอาหารหรู ข้าวราดแกง กับข้าวถุงก็อิ่มท้องเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นที่หนึ่งเลิศเลอเพอร์เฟกซ์ตลอดเวลา ลองทำงานตามวิถีของตัวเอง ทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับงานที่ทำ มากกว่าทำงานอย่างตั้งใจและกดดันเพียงเพื่อให้ได้ตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เพราะคนที่กดดันตัวเองก็คือตัวเราเอง
- ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ เรียนรู้ชีวิต ยอมรับความจริงว่าชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดหวังตลอดเวลา ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบ 10 เต็ม 10 ก็ได้ ทุกคนไม่จำเป็นต้องได้ทุกสิ่งตามที่ใจปรารถนา อย่าไปคาดหวังว่าสิ่งแวดล้อมต้องปรับ แต่ลองเปลี่ยนมุมมองความคิดและทัศนคติของเราใหม่ เหมือนกล้องที่ต้องปรับโฟกัสในทุกภาพที่ถ่าย ชีวิตมีหลายมิติ เหตุการณ์ที่ผ่านมาก็แค่บทหนึ่งของชีวิต เราอาจใช้วิธีจดบันทึก เพื่อวันที่เราย้อนมาดูภายหลังจะได้เรียนรู้ว่าเราผ่านเรื่องนี้มาได้อย่างไร
- ลาออกจากมาตรฐานสังคม ความทุกข์มักเกิดจากการที่เรามัวยึดกับมาตรฐานสังคมให้มามีอิทธิพลกับชีวิตของเรา หรือการเปรียบเทียบชีวิตเรากับของคนอื่น หากเราทำไม่ได้ก็จะมีปมในใจว่าเราไม่ผ่านตามมาตรฐานที่สังคมกำหนดมา ดังนั้นลองหันมาเดินทางสายกลางด้วยการเลือกเป้าหมายและรูปแบบชีวิตของตนเอง อย่าใช้ชีวิตตามรสนิยมของคนอื่น ไม่ต้องเป็นทุกอย่างให้ทุกคน อย่าใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังมากเกินไป อย่าเอาความต้องการของคนอื่นมาก่อนความต้องการของตนเอง ชีวิตต้องใช้เพื่อตัวเองบ้าง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น ไม่งั้นคุณก็ต้องวิ่งเหมือนหนูติดจั่นไปตลอดเวลา บางครั้งต้องปล่อยมือจากบางสิ่งบางอย่างบ้างเพื่อให้เรามีชีวิตที่สมดุล โฟกัสกับเรื่องที่เราอยากทำจริงๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตเหมือนคู่มือชีวิตแบบคนอื่นๆ บ้างก็ได้
- ฟังเสียงสัญญาณของตัวเรา หลายๆ คนมักให้ความสำคัญกับความต้องการของคนอื่นมากกว่าความต้องการของตัวเองเสมอ อยากให้คนอื่นพอใจ อยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคม กลัวไม่ได้รับการยอมรับ บางครั้งจึงต้องตกปากรับคำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ ดังนั้นก่อนจะตกลงรับปากใครควรถามตัวเองก่อนว่าเราอยากทำจริงหรือเปล่า บางคนอาจกลัวว่าปฏิเสธแล้วจะทำร้ายน้ำใจคนอื่น แต่ถึงเราฝืนไปก็ไม่ work อยู่ดี แถมทำให้เราพลอยกังวลและรู้สึกผิดแม้ไม่อยากจะทำ ดังนั้นเลิกเอาใจทุกคนตลอดเวลา อย่าละเลยตัวเองที่จะทำให้สุขภาพกายและจิตเสียสมดุล โดยอาจเริ่มปฏิเสธจากเรื่องเล็กๆ เพราะการปฏิเสธไม่ได้ทำให้โลกของเราพังทลายลงมา เมื่อลองปฏิเสธแล้วเราอาจจะเห็นว่าก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่นา
- ความร่ำรวยไม่ใช่ตัวเลข แต่เงินมีความหมายกับชีวิตยังไงต่างหาก ตราบใดที่เรายังมีเงินพอกิน พอใช้ พออยู่อย่างพอสมควร ไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร ยังมีเงินพอซื้อสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องกังวลก็ถือว่าเรารวยแล้ว ใช้ชีวิตที่ทำอะไรพอเพียงและพอสมควรก็เพียงพอ อย่าละโมบโลภมาก ถ้าอันไหนเป็นของเราก็จะเป็นของเราวันยังค่ำ หลายคนมีเงินและชื่อเสียงมากมายแต่ไม่มีความสุข เพราะต้องคอยกังวล มีความอยากได้ไม่รู้จบ ต้องทำให้คนยอมรับไปเรื่อยๆ เมื่อมีเงินมากก็มีความต้องการมาก พยายามไขว่คว้ามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
Advertisement
Advertisement
ความสำเร็จในชีวิตของเราไม่จำเป็นที่คนอื่นต้องมองว่ามันคือความสำเร็จ ทั้งชื่อเสียงเงินทอง การได้รับการยอมรับ เพราะความสุขที่เกิดขึ้นที่แท้จริงก็คือความสุขที่จะได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาในทุกๆ วัน ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราพอใจ ที่เราต้องการจริงๆ นั่นแหล่ะคือการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่มีความสุขโดยไม่ต้องไปยึดติดกับบริบทของสังคมใดๆ และไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
ภาพประกอบปก
ภาพประกอบ
ภาพที่ 1 pixel2013/pixabay
ภาพที่ 2 Stocksnap/pixabay
ภาพที่ 3 ArtsyBee/pixabay.com
ภาพที่ 4 Engin_Akyurt/pixabay
ภาพที่ 5 Foundry/pixabay
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น