อื่นๆ

ขบวนขันหมาก......ที่ไปไม่ถึง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ขบวนขันหมาก......ที่ไปไม่ถึง

เมื่อตอนที่ฉันเป็นเด็ก "ยายจู" ผู้ที่เป็นยายของฉันเองมักมีเรื่องเล่าผีๆมาเล่าให้หลานๆฟัง หนึ่งในเรื่องที่ฉันจำได้ขึ้นใจคือเรื่อง "ขบวนขันหมากที่ไปไม่ถึง" วันนั้นยายบอกจะเล่าเรื่องผีให้ฟัง หลานๆจึงนั่งล้อมวงเบียดชิดกันเข้ามาโดยไม่ให้เหลือช่องว่าง ด้วยกลัวว่าจะมีสิ่งที่มองไม่เห็นมาร่วมวงฟังด้วยตามประสาเด็กๆที่มักจินตนาการไปเรื่อย เมื่อนั่งกันเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยายจึงได้เริ่มเล่าเรื่อง

ย้อนไปเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว ถนนหนทางรถราในชนบทยังไม่ได้เจริญเหมือนสมัยนี้ แต่ก็พอมีรถยนต์วิ่งกันอยู่บ้าง รถขนข้าว ขนอ้อยก็พอมีให้เห็นประปราย วันนั้นเป็นวันที่ตาและยายตื่นแต่เช้าตรู่เหมือนปกติเช่นทุกๆวัน เพราะต้องรีบหุงหาอาหารเตรียมตัวออกไปทำไร่ไถนา ขณะที่เตรียมตัวจะออกจากบ้านกันก้มๆเงยๆเตรียมของกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงดัง "โครม" เสียงนั้นดังแว่วๆมาแต่ไกล ฟังดูก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเสียงรถที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุ ตาและยายจึงชวนกันเดินไปดูที่ถนนเพราะเกรงว่าจะไม่มีใครช่วยคนเจ็บเนื่องจากในตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตี 4 ตี 5 ไฟฟื้นก็ไม่ได้มีมากเหมือนสมัยนี้ ในมือก็ถือไฟฉายที่พ่วงแบตเตอรี่แบบที่คนสมัยก่อนใช้ จูงมือกันไปในใจก็ภาวนาอย่าให้มีใครเป็นอะไรเลย เดินไปสักพักแสงไฟเจ้ากรรมก็ดันไปส่องเข้ากับ "มือ"

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://www.pexels.com/th-th/photo/3339126/ ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/3339126/

มือและแขนของมนุษย์ที่ไร้ซึ่งลำตัวของผู้เป็นเจ้าของ ยายและตาได้แต่หันมามองหน้ากัน เกรงว่าคำภาวนาคงจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว หลังจากนั้นจึงฉายไฟกราดไปรอบๆสิ่งที่เห็นแทบทำให้ยายล้มทั้งยืน ภาพที่เห็นผ่านลูกนัยน์ตาที่พอจะเห็นได้ในความมืดสลัว คือ รถกระบะพลิกหงาย ข้าวของกระจุยกระจาย ชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์เกลื่อนกราดอยู่เต็มถนน นั่นมือ นี่เท้า โน้นไส้ ไม่ได้มีชิ้นดีเลย ในทีแรกคิดว่าแค่ 4-5 คน เพราะใจไม่แข็งพอที่จะไปยืนนับกลัวลมจะจับเอาเสียก่อน จึงได้แต่ยืนรอเจ้าหน้าที่ ระหว่างนั้นชาวบ้านก็ออกมามุงกันบ้างแล้วพอจะใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่มีคนเยอะขึ้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึงเก็บร่างและชิ้นส่วนต่างๆรวมใส่ผ้าขาวของแต่ละร่าง ทั้งหมด 13 ร่าง ไทยมุงที่เห็นพอจะมีคนรู้จักกับผู้เสียชีวิตอยู่บ้างบอกว่าขอบคุณภาพประกอบจากhttps://www.pexels.com/th-th/photo/3339126/ ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://www.pexels.com/th-th/photo/3333121/

Advertisement

Advertisement

เป็นรถแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวที่อยู่อีกอำเภอหนึ่งกำลังจะไปบ้านเจ้าสาวที่อยู่ต่างอำเภอกันออกไป น่าจะขับรถมาด้วยความเร็วสูงบวกกับอาการมึนเมาและบรรทุกคนมาเป็นจำนวนมากทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำจึงเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมในครั้งนี้

หลังจากนั้นญาติของผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน ชาวบ้านแถวนั้นจึงโล่งใจไปตามๆกัน กล้าสัญจรผ่านไปมาอยู่บ้างแต่ถ้าหากถึงเวลาอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วนั้น ไม่มีใครอยากสัญจรผ่านเส้นทางนี้ถ้าไม่จำเป็นขอบคุณภาพประกอบจากhttps://www.pexels.com/th-th/photo/239107/ ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://www.pexels.com/th-th/photo/239107/

มีบางคนเล่าว่า เคยขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านในเวลากลางคืนระหว่างผ่านทางได้ยินเสียงคนร้องรำทำเพลง เคาะแก้ว เคาะขวด ด้วยความสงสัยว่าใครจะมานั่งแถวนี้ จึงกวาดสายตามองไปทั่วๆเจอเข้ากับกลุ่มคนนั่งอยู่ริมถนน จากไฟหน้ารถที่ส่องผ่านพอให้เห็นรางๆว่าผู้คนเหล่านั้นเนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยเลือด หันมายิ้มให้พร้อมกับยกแก้วเหล้าประหนึ่งเชิญชวนให้ร่วมวงสนทนาด้วย ยิ่งเป็นวันโกนวันพระยิ่งไปกันใหญ่ ใครผ่านไปผ่านมาต้องเจอกันทุกราย จนชาวบ้านบริเวณนั้นอยู่กันไม่ไหวจึงปรึกษาหารือกันว่าจะสร้างศาลให้เผื่ออะไรจะดีขึ้น

Advertisement

Advertisement

หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยชาวบ้านจึงรวมตัวกันทำพิธีตั้งศาลบอกกล่าวดวงวิญญาณเหล่านั้น เหตุการณ์ทั้งหมดจึงคลี่คลายลง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขแม้ในใจจะหวาดกลัวทุกครั้งที่ต้องสัญจรผ่านไปผ่านมาก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ออกมาให้เห็นไม่อย่างนั้นคงมีคนจับไข้หัวโกร๋นอีกเป็นแน่

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์