อื่นๆ

ของ 2 สิ่ง ที่ยัง..“คงคุณค่า” เมื่อมันอยู่ในสถานะ..ที่ต่างกัน!..

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ของ 2 สิ่ง ที่ยัง..“คงคุณค่า” เมื่อมันอยู่ในสถานะ..ที่ต่างกัน!..

มีใครที่ชื่นชอบ..“การดื่มน้ำชา” Tea Break ในช่วงพักงานกันบ้าง? ครับ...ถ้าเป็นประเทศไทย..คงต้องเป็น “ชานม ไข่มุก” เท่านั้นครับ (ก็ร้อน! จนตับจะแลบลิ้น! ได้อยู่แล้วครับ) ชานม ไข่มุก..ความจริงแล้ว มาจาก “ไต้หวัน” ครับ แต่ชาของไทยเรา ก็มีเหมือนกันนะครับ...ก็จะเป็น "ชาโบราณ" รสชาติเข้ม ๆ ถ้าเติมนม..เราจะเรียก “ชาเย็น” แต่ถ้าเติมน้ำตาลเฉย ๆ เรียกว่า “ชาดำเย็น” ครับ..คนมักนิยม เป็นชาเย็น มากกว่า "ชาร้อน" ส่วน ชานม ไข่มุก.. นี่ถ้าให้เดา! นะครับ..ทางไต้หวัน น่าจะมี.."inspiration" มาจาก “บัวลอย” ของบ้านเรานะครับ..แต่ประเทศไทย..ขายดีจริง ๆ ฮิตกันมากเลยครับ..ยิ่งถ้าเป็นตอนหน้าร้อนด้วยล่ะก็ "แก้วเดียว" คงไม่น่าจะพอครับ

Tea 1 ok

จาก "เอกสารบันทึก" และ มี "เรื่องเล่า..กล่าวขาน" กันต่อ ๆ มาครับว่า “ชา” ได้ถือกำเนิดขึ้นจริง ๆ นั้น มาจาก “ประเทศจีน” เมื่อราว ๆ "สองพันปี ก่อนคริสต์ศักราช"...อันมีผู้ซึ่งปกครองเมืองอยู่ในยุคสมัยนั้น..มีนามว่า “เสินหนง” ท่านเป็นทั้ง “บัณฑิต” และ “นักสมุนไพร” ทำให้ท่านมีนิสัย "เป็นผู้รักความสะอาด" และ "ดื่ม เฉพาะน้ำต้มสุกเท่านั้น" อยู่มาวันหนึ่ง..ท่าน เสินหนง ได้เสด็จประพาสป่า..จะด้วยความบังเอิญ หรืออย่างไร?..ในขณะที่ท่านได้นั่งพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้นั้น..ได้มี “ใบไม้ชนิดหนึ่ง” ที่ปลิดปลิว..ด้วยแรงของลม จึงได้ร่วงหล่นลงในน้ำ.."ที่ท่านกำลังต้มอยู่"..เมื่อท่านได้ลองดื่มน้ำนั้นแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึก.."สดชื่น! กระปรี้กระเปร่า อย่างบอกไม่ถูก!" และจึงมีการแจกจ่ายให้กับข้าราชบริพาร ที่ติดตามมาด้วย..

Advertisement

Advertisement

Tea 2 ok

ต่อมา..จึงได้ "มีการนำเอามาเพาะปลูก" และเป็นที่ “นิยมดื่ม” กันอย่างแพร่หลาย สืบเนื่องต่อกันมา จนกระทั่ง! กลายมาเป็น “วัฒนธรรมในการดื่มชา”..ที่อยู่คู่กับชาวจีนในสมัยนั้น และ ชา "ยังมีการพัฒนาการผลิต" ด้วยกรรมวิธี หลายขั้นตอน "ทำให้มีรสชาติที่ดี" และ "มีความหอม" เพื่อให้ ได้ "ชาที่ดีมีคุณภาพ” จนมาถึงในปัจจุบัน “จีน" จึงเป็น "ประเทศที่ส่งออกใบชา มากที่สุด" "เป็นอันดับหนึ่งของโลก" เลยก็ว่าได้ครับ

Tea 3 ok

“ชาจีน” จึงกลายเป็น "จุดเริ่มต้น" และได้ "แผ่ขยายอย่างต่อเนื่องออกไปไกล ยังอีกหลาย ๆ ประเทศ" ที่ได้เคยทำการค้าด้วยกัน อีกด้วยครับ และประเทศที่ “นิยม และ หลงใหล” ในการดื่มชา และมีวัฒนธรรม ค่อนข้างจะคล้าย ๆ กัน ก็มีอีกหลายประเทศ เช่น "ประเทศอังกฤษ" มักจะ "นิยม" เฉพาะใน “กลุ่มชนชั้นสูง” เท่านั้นครับ ส่วน "ผู้เขียนเอง"..ชอบรสชาติของ “กาแฟโบราณ” ครับ..รสชาติจะเข้มข้น! มาก..รู้สึกเหมือนมีใคร? มา "CPR หัวใจ!" ให้อ่ะครับ:)

Advertisement

Advertisement

Tea 4 ok

คงเห็นแล้วใช่ไหมครับว่า “ชา” เป็นสิ่งที่ "ถูกหยิบยก" และนำขึ้นมาเพื่อ “เปรียบ” ให้ "เทียบเท่า"..มันได้ถูก "สร้าง และ บ่มเพาะ" ด้วยกระบวนการที่ “พิถีพิถัน” ทำให้เกิดกระแสขึ้นมา พร้อมกับ “คุณค่าที่สูง..อย่างมหาศาล"..ชา เหมือนเป็น "สัญลักษณ์" บางอย่าง..ที่ถูกจัดวางตำแหน่ง ตามวาระ "โอกาส และ ช่วงเวลา" ให้เกิด "ความเฉพาะ หรือ เจาะจง..ได้อย่างพิเศษสุด"..ด้วยรายละเอียด และ “รสนิยม!ที่ชมชอบ..เฉพาะชนชั้น” หรือ กับคนในหมู่พวกเดียวกันนั้น "ถูกขีดเป็นเส้นแบ่ง" ระหว่าง “ความเลอค่า และ ต่ำต้อย” เช่น กับการเป็น “คนสามัญ..ธรรมดา"..คงยากที่จะได้สัมผัสถึง “รสชาติ” และคงไม่เคยได้..ลิ้มลองเลย เพียงสักหน!..“ชาชั้นดี” มักถูกรังสรรค์ และจัดวางไว้ "ในสถานที่อันทรงเกรียรติ..คู่ควร และ เหมาะสมเท่านั้น" แม้อาจจะเคยได้ยิน..ก็เพียงคำเล่าขาน..อันเลื่องลือ แค่ในตำนานว่า “กลิ่นหอม" จากชาชั้นดี..ที่แท้จริงนั้น.."ช่างเหมือนมีอำนาจ..ที่สามารถแผ่ซ่าน..กระจายกลิ่นไปไกล" ได้ถึง “หมื่นลี้” เพราะหาก "ไม่คู่ควรแล้ว" ก็มิอาจอนุญาต หรือถูกเชื้อเชิญ!

Advertisement

Advertisement

ผู้เขียนอยากจะขอ..ยกตัวอย่าง คำกล่าวอ้าง..ที่เปรียบเปรยไว้ ที่เกี่ยวกับ “ของ ทั้ง 2 สิ่ง” นะครับ คิดว่า..มันมีมุมมองที่ดีมากครับ..

Tea 5 ok

“น้ำชา” ที่อยู่ใน “ถ้วยชา” คุณค่าของ ของ 2 สิ่ง และ “สถานะ” ของ 2 สิ่งนี้...จะยัง “คงคุณค่าดี เสมอกัน” อยู่..และหากว่า เมื่อของ ทั้ง 2 สิ่งนี้

อาจต้องมี..“สิ่งหนึ่ง?..สิ่งใด” จำเป็นต้อง “เปลี่ยนสถานะ” ไปตามวาระ!...คุณลองทายเล่น ๆ ว่าอะไร? จะยัง “คงคุณค่า..ในตัวมันเอง” อยู่ครับ

Tea 6 ok

ว่ากันว่า “น้ำชา” แม้จะ “ถูกถ่ายเปลี่ยนภาชนะ” ที่อยู่จาก “รูปทรงเดิม!” ไปยัง “รูปร่างของภาชนะใหม่!” ที่ก็อาจจะ “แตกต่างกัน” ที่รูปทรง แต่ก็จะยังเรียกได้ว่าสิ่งนั้นคือ “น้ำชา” แม้มันจะ “หกตกหล่นลงพื้น” ก็ยังเรียกได้ว่าเป็น “ชา” แต่ “ภาชนะ” หรือ “ถ้วยชา” เมื่อใด? ที่มันได้ เกิดเสียหาย แตกหัก! “ไม่อาจคงสภาพ” ดังเดิม! ได้แล้ว..มันจะ “ไม่สามารถใช้งานได้อีก” และเรียกไม่ได้ว่าเป็น ภาชนะ หรือว่า ถ้วยชา เพราะมัน “ไม่สามารถคงสภาพเดิม” ได้อีกต่อไปครับ

Tea 7

“น้ำชาในกา” ถึงแม้ว่า..จะถูกทำให้มันไหลรินไป..จะอีก “สักกี่ร้อยครั้ง” ก็ยังคือ “ชา” โดยแท้!..หากเปรียบเช่น “คนที่มีคุณค่า..คงที่” ย่อมเหมือน “ชาชั้นดี” ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะใด? ณ สถานที่ใด? “เขาก็ยังคงคุณค่า..ในตัวเองเสมอ” ครับ..อืม


รูปปก และ ภาพประกอบที่ 5 จาก: freepik.com

และภาพจาก pixabay.com

รูปภาพที่ : 1 / 2 / 3 / 4 / 6 / 7

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์