คนต่างวัย ความเข้าใจต่างกัน

ตรีภัคตรา

21 พ.ย. 2020|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก ตรีภัคตรา

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

มนุษย์ เป็นปัจเจกบุคคลที่เกิดมามีความแตกต่าง เราแตกต่างกันในเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม พันธุกรรม การเลี้ยงดู และอีกมากมาย ทุกอย่างเป็นสิ่งที่หล่อหลอมทำให้กลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะบุคคล ความแตกต่างเป็นเสน่ห์ ทำให้โลกใบนี้มีความหลากหลาย ในขณะที่บางครั้งความแตกต่างก็กลับกลายมาเป็นช่องว่างของความเข้าใจ และความสัมพันธ์

คนต่างวัย ความเข้าใจต่างกัน

โดยเฉพาะความแตกต่างทางด้านความคิด มักจะเป็นจุดเปราะบางในหลาย ๆ เรื่อง คนคิดต่างกันแล้วทะเลาะกัน เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าความคิดของตนนั้นถูกต้อง หรือดีกว่าอีกฝ่าย อาจจะด้วยมุมมองขององค์ความรู้ หรือประสบการณ์ที่พานพบมา ความคิดต่างมีที่มาจากหลากหลายปัจจัยดังที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น แต่ความคิดต่างที่เราจะพูดถึงในวันนี้ ก็คือ ความคิดต่างที่มีที่มาจาก "วัยที่ต่างกัน" คนต่างวัย ความเข้าใจต่างกัน

แน่นอนว่าคนต่างวัย ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะมีมุมมอง หรือมีทัศนคติกับเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน เด็กเล็กก็คิดแบบหนึ่ง เด็กโตก็คิดแบบหนึ่ง วัยรุ่นก็คิดแบบหนึ่ง วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ หรือวัยชราก็จะคิดอีกแบบหนึ่งเช่นเดียวกัน คำถาม คือ ทำไม?

"ทุกคนใส่แว่นกันคนละอัน เลยมองสิ่งต่าง ๆ กันคนละแบบ" อาจจะเป็นคำตอบที่สามารถอธิบายความแตกต่างได้ดีที่สุด แว่นที่ว่านี้ คือ แว่นแห่งความคิด หรือทัศนคติที่เรามีต่อเหตุการณ์ และแน่นอนว่ามันย่อมไม่เหมือนกัน ส่วนวัยก็ย่อมมีผลต่อมุมมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กเห็นโลกด้วยระยะเวลาที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะมีมุมมองที่แคบกว่า แต่เด็กก็มีความตื่นเต้นในการเรียนรู้มากกว่า และมักจะเรียนรู้ได้เร็วกว่า ฉะนั้น เมื่อโลกมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เด็กจึงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

เด็กมักจะมองไปข้างหน้า และพร้อมที่จะวิ่งไล่ล่าเป้าหมายชนิดที่ใครก็ฉุดไม่อยู่ ส่วนผู้ใหญ่ก็มักจะหันไปมองอดีตเพื่อพาตัวเองย้อนกลับไปมีความสุขอีกครั้ง หรือแม้กระทั่งนำกลับมาเป็นบทเรียน เพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมา ว่ามีอะไรที่ดี หรือไม่ดี ทำแล้วส่งผลดีหรือไม่ อย่างไร จะได้วิเคราะห์เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการเดินทางในก้าวต่อไปของชีวิตโดยไม่เสี่ยงมากนัก คนต่างวัย ความเข้าใจต่างกัน

เด็กมักจะใช้หัวใจนำทาง ส่วนผู้ใหญ่มักจะใช้หลักการและเหตุผลมากกว่า ซึ่งที่พูดมาทั้งหมดเป็นแค่ตัวอย่าง และไม่มีอะไรผิด ถูก ในเรื่องนี้ เพราะนี่คือ พัฒนาการของคนในแต่ละวัย และแน่นอนว่ามันย่อมแตกต่างกัน

ความจริง คือ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม มนุษย์ก็ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่วันยันค่ำ จะแตกต่างกันด้วยวัย ด้วยลักษณะนิสัยตามธรรมชาติ ด้วยพฤติกรรมของการอบรมเลี้ยงดู ด้วยทัศนคติที่ถูกหล่อหลอม หรือจะด้วยอะไรก็ตาม และไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ คนทั้งโลกก็ไม่มีวันคิดเหมือนกันทุกคน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพราะความแตกต่าง คือ การจงใจสร้างของธรรมชาติ ให้โลกมีสีสัน มีความหลากหลาย และน่าอภิรมย์ คนต่างวัย ความเข้าใจต่างกัน คิดดูสิคะ ว่ามันจะน่าเบื่อสักแค่ไหน ถ้าเราหันซ้าย แลขวา แล้วพบแต่คนที่มีหน้าตาเหมือนกัน พูดจาภาษาเดียวกัน ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกัน มีอากัปกิริยาที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน และไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าโลกนี้คงน่าเบื่อไม่น้อย แล้วอย่างนี้เราจะเหมือนกันให้มันได้อะไรขึ้นมา หลายคนอาจจะแย้งว่า ที่พูดมาทั้งหมดมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของความคิด ทัศนคติ หรือความเข้าใจของคนต่างวัย

ที่พูดมาทั้งหมดเป็นแค่เพียงการสะท้อนถึงมุมมอง ให้เรามองเห็นความสวยงามของความแตกต่าง แม้กระทั่งความแตกต่างที่ว่านั้น จะเป็นในเรื่องของความคิด ซึ่งแม้ในบางครั้ง ความคิดของใครบางคน อาจจะดูเหมือนสุดขั้วจนยากที่เราจะยอมรับ แต่โปรดเข้าใจเถอะค่ะ ว่ามันคือความไร้ขีดจำกัดของมนุษนย์ที่มีสมองอันอัศจรรย์ เพียงแต่ในความต่างนั้นต้องไม่ทำร้ายใคร หรืออะไรก็ตาม เรียนรู้ที่จะเคารพสิทธิ์เขา เคารพสิทธิ์เรา ให้เกียรติกับความไม่เหมือนกัน และเป็นผู้ฟังที่ตั้งใจ

คนต่างวัย ความเข้าใจต่างกัน ไม่ยกความคิดเรา ไม่ข่มความคิดเขา แต่ยอมรับความแตกต่างอย่างเข้าใจ แม้ยากที่จะทำใจ แต่เราควรยึดปลายทางเป็นความสันติ เพราะถึงจะอย่างไร ไม่ว่าจะวันนี้ หรือว่าวันไหน จะเป็นคนยากดีมีจน สูง ต่ำ ดำ ขาว เด็กเล็ก วัยรุ่น เด็กโต หรือวัยไหน หากเป็นคนต่างวัย ความเข้าใจก็ย่อมมีโอกาส...แตกต่างกัน