อื่นๆ

ครูระนาดเอก

153
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ครูระนาดเอก

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง​ ย้อนไป​ 13​ ปีที่แล้ว

ณ​ โรงเรียนแห่งหนึ่งกลางใจเมืองตรัง​ โรงเรียนแห่งนี้​ มีอาคารเรียนอยู่ภายในวัด​ เป็นโรงเรียนเล็กๆ​ มีอาคารอยู่​ 3 หลัง​ ​โรงเรียนแห่งนี้​ ณ​ ช่วงเวลานั้นเริ่มมีชื่อเสียงในจังหวัดตรัง​ และผู้ปกครองก็ไว้ใจส่งลูกเข้ามาเรียนที่นี่มากขึ้นเพราะมั่นใจในคุณภาพ​ของโรงเรียน

ในปีนั้น​ ผอ.โรงเรียน​ ได้จัดให้มีการตั้งวงดนตรีไทยขึ้นภายในโรงเรียน​ เครื่องดนตรีที่ทางโรงเรียนเตรียมให้เป็นเครื่องดนตรีเก่าที่ซื้อเหมามาทั้งวง​ โดยประกอบด้วย​ ระนาดเอก​ ฆ้องวงใหญ่​ ระนาดทุ่ม​ จระเข้​ ขิม​ ซออู้​ ซอด้วง​ กลองแขก​ และฉิ่ง​ เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นสภาพดี​ เสียงไพเราะและไม่เพี้ยน​ เพราะเครื่องดนตรีถูกดูแลอย่างดีโดยอาจารย์ใหม่ที่พึ่งรับเข้ามา​ เขาชื่อว่าอาจารย์​ ชาลี

อาจารย์​ชาลีเป็นเจ้าของเครื่องดนตรีเก่าพวกนี้​ก่อนที่โรงเรียนจะซื้อมา ทางโรงเรียนเห็นว่าซื้อเครื่องดนตรีมาแล้วก็จ้างครูมาด้วยแล้วกัน​ อาจารย์ชาลีได้ตั้งชมรมดนตรีไทยขึ้นในโรงเรียน และตอนนี้เขาได้เปิดรับสมัครนักเรียนที่สนใจอยากเล่นเครื่องดนตรีไทย

Advertisement

Advertisement

ถึงวันเลือกชมรมของเด็กนักเรียน มีแค่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้นที่เข้ามาสมัครชมรมดนตรีไทย จำนวนรวมทั้งสิ้น 10 คน โดยมีเด็กนักเรียนผู้หญิง 7 คนและเป็นเด็กนักเรียนผู้ชาย 3 คน เมื่อถึงวันเข้าชมรม อาจารย์ชาลีได้เรียกเด็กทั้ง 10 คน เข้ามาแนะนำและอธิบายประวัติความเป็นมา วิธีการเล่นของเครื่องดนตรีไทยแต่ละชนิดให้เด็กๆได้รับทราบก่อน ก่อนที่อาจารย์ชาลีจะพูดจบก็ได้เน้นกับนักเรียน ให้รัก เคารพ ในเครื่องดนตรี เพราะเครื่องดนตรีคือครูของเราและเครื่องดนตรีทุกชิ้นมีครูดนตรีสิงสถิตอยู่ ห้ามนักเรียนทุกคนลบหลู่ครูบาอาจารย์และเครื่องดนตรีโดยเด็ดขาด และอาจารย์ชาลียังพูดต่อไป ให้นักเรียนทุกคนมาเข้าค่ายในวันเสาร์อาทิตย์หน้าด้วย เพราะอาจารย์ชาลีจะทำการปูพื้นฐานในการเล่นเครื่องดนตรีให้กับทุกคน นักเรียนทั้ง 10 คนพยักหน้าและตอบรับพร้อมกัน ครับ/ค่ะนักเรียนขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay student

Advertisement

Advertisement

วันเข้าค่ายดนตรีไทยวันแรก นักเรียนมาเข้าค่ายทั้งหมด 10 คน อาจารย์ชาลี จัดให้นักเรียนผู้ชาย 3 คนเล่นเครื่องตี มี ระนาดเอก ระนาดทุ้มและฆ้องวงใหญ่ ส่วนนักเรียนหญิงให้เล่นเครื่องสาย มี ซออู้ ซอด้วงและขิม ในช่วงเช้าวันเสาร์ อาจารย์ชาลีได้สอนทักษะพื้นฐานให้กับเด็กๆ ส่วนช่วงเย็นจะเป็นการสอนเพลงง่ายๆ ให้เด็กๆ ได้เล่นรวมวงกัน เด็กทั้ง 10 คน เรียนรู้ได้ไว ทุกคนสามารถเล่นเพลงที่อาจารย์ชาลีสอนได้หมดทุกคน ตกดึกทุกคนก็หลับนอนในห้องดนตรีไทย

วันต่อมาซึ่งเป็นวันอาทิตย์ อาจารย์ชาลี ได้สอนเพลงง่ายๆอีกเพลงให้กับเด็กๆได้ฝึกกัน และอาจารย์บอกกับเด็กๆว่า "พอดีวันนี้ช่วงบ่ายอาจารย์จะไม่อยู่ ให้เด็กๆซ้อมเพลงที่อาจารย์สอนไปนะ แล้วช่วงค่ำๆอาจารย์จะมาทดสอบดู" เด็กทุกคนตอบรับอาจารย์ด้วยความดีใจ ช่วงบ่ายเด็กทุกคนต่างก็ซ้อมเพลงที่อาจารย์ได้สอนไว้ให้กับพวกเขาจนทุกคนสามารถเล่นได้อย่างชำนาญ เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กจึงชวนกันเล่นวิ่งไล่จับกันในห้องดนตรีไทย เด็กๆวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน วิ่งไล่กันไป วิ่งไล่กันมา จากนั้นก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของชมรมนี่แหละ ชื่อ แอร์ วิ่งหนีเพื่อนมาจนสุดทางตัน ทางตันนั้น มีเครื่องดนตรีวางอยู่รอบๆ เด็กหญิงจึงได้ตัดสินใจกระโดดข้ามระนาดเอกที่วางอยู่บนพื้นเพื่อหนีเพื่อนๆ ที่วิ่งไล่เธอ เมื่อเพื่อนของเด็กหญิงแอร์เห็น ทุกคนต่างยืนนิ่ง และมองไปที่เด็กหญิงแอร์ และพูดต่อว่าเด็กหญิงแอร์ว่า "ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ รู้ไหมพวกเราต้องเคารพเครื่องดนตรี เราห้ามกระโดดข้ามเครื่องดนตรีนะแอร์ เครื่องดนตรีทุกชิ้นมีครู" แอร์ไม่สนใจคำเตือนของเพื่อนๆ ก็ยังวิ่งหนีเพื่อนๆต่อไป เพื่อนของแอร์หยุดวิ่งไล่ และกลับมาซ้อมเพลงเช่นเดิมเพราะทุกคนไม่พอใจกับการกระทำของแอร์ เมื่อเป็นเช่นนั้น แอร์รู้สึกหงุดหงิดเพื่อนๆ ที่ไม่ยอมเล่นกับเธอ เธอจึงอุทานไปว่า "แค่เครื่องดนตรี พวกเธอจะกลัวอะไรกัน มันไม่มีอะไรหรอก ดูสิเราไม่เห็นจะกลัวเลย มันทำอะไรเราไม่ได้หรอก ถ้ามีจริงๆก็มาให้เห็นหน่อยสิ" เด็กๆทั้ง 9 คนต่างมองหน้ากันและมีเด็กชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ระวังจะเจอดีนะแอร์"ทางไปห้องดนตรีไทยขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay สถานที่หลอน

Advertisement

Advertisement

เมื่อเวลาตกค่ำ อาจารย์ชาลีก็ได้มาถึงห้องดนตรีไทย และทำการทดสอบให้นักเรียนเล่นเพลงที่ตนสอนไป เด็กๆทุกคนสามารถเล่นเพลงที่อาจารย์ชาลีสอนได้หมดทุกคน อาจารย์ชาลีจึงเอ่ยชมเด็กๆ หลังจากนั้นก็ถึงเวลานอน

ณ เวลา 3.00น. เด็กหญิงแอร์รู้สึกเหมือนมีใครมาเขย่าเธอ จึงได้ลืมตาขึ้น สิ่งที่แอร์เห็น เป็นผู้ชายแก่สวมผ้าโจงกระเบนสีแดง เสื้อสีขาว กำลังใช้เท้าเขี่ยตัวเธออยู่ แอร์เห็นก็ตกใจ จึงพยายามที่จะลุกขึ้นหนี แต่แอร์ก็ทำไม่ได้ เพราะขณะนี้ตัวเธอไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย แอร์พยายามจะตะโกนเรียกเพื่อนให้มาช่วยเธอ แต่แอร์ตะโกนไปเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงออกจากปากของแอร์เลย หลังจากนั้นผีชายแก่ก็พูดขึ้นว่า "อิหนู ครูมาหาเอ็งแล้วนะ จำไว้นะเครื่องดนตรีไทยทุกชิ้นมีครูดนตรีสิงสถิตอยู่ หนูต้องเคารพเครื่องดนตรีที่เล่น และขยันฝึกซ้อมนะ ครูมาวันนี้ ไม่ได้จะมาทำร้ายอะไรหรอก แค่มาบอกให้รู้ ว่าบางอย่างเรามองไม่เห็น ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มี ครูเห็นเอ็งเป็นเด็กเลยไม่เอาความอะไร ครูไปแล้วนะ" หลังจากนั้นผีชายแก่ก็หายไป แอร์รีบปลุกเพื่อนที่นอนข้องเธอทันที เพื่อนที่นอนข้างแอร์ตื่นขึ้นก็ตกใจ เมื่อเห็นแอร์ร้องไห้ น้ำตาน้ำมูกไหลเอ่อออกมา เสื้อที่เปียกไปด้วยเหงื่อ ตัวเย็นเฉียบ ตัวสั่นไปทั้งตัว เพื่อนแอร์จึงวิ่งไปหาอาจารย์ชาลีเพื่อให้อาจารย์มาช่วย ขณะนี้เด็กๆทุกคนต่างก็ตื่นกันหมด เมื่ออาจารย์มาถึง เห็นแอร์ตัวสั่นอยู่ก็ถามแอร์ว่า "เป็นอะไร" แอร์ตอบว่า "แอร์เจอผี ผีผู้ชายแก่ใส่โจงกระเบนสีแดงเสื้อสีขาว" อาจารย์ชาลีเอามือลูบหัวแอร์และบอกแอร์ว่า "เขาไม่ได้ทำร้ายแอร์หรอก ไม่ต้องกลัว น่าจะเป็นครูระนาดเอก เมื่อสมัยอาจารย์ยังเป็นเด็กก็พบกับครูระนาดเอกบ่อยๆ ท่านชอบมาให้เจอและให้คำแนะนำดีๆเรื่องการฝึกดนตรีไทย กับอาจารย์เสมอ อาจารย์เก่งได้ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะครูระนาดเอกนี่แหละ แอร์โชคดีมากเลยนะที่ได้เจอท่าน แล้วนี่ไปพูดอะไรเข้าล่ะ มันทำให้ท่านมาหาแอร์" เพื่อนแอร์ตอบแทนแอร์ว่า "เมื่อช่วงบ่ายตอนที่อาจารย์ไม่อยู่พวกเราเล่นวิ่งไล่กัน และแอร์ก็กระโดดข้ามระนาดเอกเพื่อหนีเพื่อนๆ" อาจารย์ชาลีจึงบอกกับเด็กๆว่า "ออ อาจารย์เข้าใจทุกอย่างแล้ว ต่อไปก็อย่าไปทำแบบนั้นกันอีก เราคนเล่นคนตรีต้องเคารพเครื่องดนตรีเข้าใจไหมเด็กๆ"

ชายแก่ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay ชายแก่

หลังจากวันนั้นเด็กทุกคนก็ตั้งใจซ้อมดนตรีอย่างจริงจัง โดยทุกคนมีครูระนาดเอกเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ จนได้เข้าไปประกวดการแข่งขันดนตรีไทยระดับประเทศ ถึงจะไม่ชนะเลิศอันดับหนึ่ง แต่พวกเขาทุกคนก็ดีใจและสนุกกับการเล่นดนตรีของพวกเขา

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์