อื่นๆ

"ความตื่นตัว"บนสังคมออนไลน์

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
"ความตื่นตัว"บนสังคมออนไลน์

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในสังคมอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของข่าวสารข้อมูล ความรู้ หรือนวัตกรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไร้พรมแดน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็ส่งผลไปยังความตระหนักรู้ของประชาชน ทั้งเรื่องของสิทธิ ความเสมอภาพ และเสรีภาพของประชาชน จากเดิมทีแล้วประชาชนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงความรู้ได้ แต่ในปัจจุบันประชาชนส่วนมากสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สร้างความตระหนักรู้ได้เพียงปลายนิ้ว

การเรียกร้องต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล หรือเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องอย่างที่เคยเป็น การกระจายความรู้ ความเข้าใจของความสิทธิ ความเสมอภาค และเสรีภาพไม่มีข้อจำกัดเพียงพื้นที่บริเวณใด บริเวณหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งสื่อสังคมออนไลน์ยังส่งเสริมให้เสียงแห่งการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเป็นเสียงที่ดังมากขึ้น จนบางกรณีนั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงทรงผมของสถานศึกษา ที่เป็นแรงผลักดันมาจากสังคมออนไลน์อย่าง twitter

Advertisement

Advertisement

ภาพที่ 1

ในสมัยที่ผู้เขียนได้ศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษานั้นเรียกได้ว่าการลุกขึ้นมาต่อต้านกฎหรือกติกาแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่กล้าฝันถึงมากก่อนเลยด้วยซ้ำ ผู้เขียนพียงแต่ปฏิบัติตามไปโดนไร้การตั้งคำถาม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำต่อ ๆ กันมา ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้รับบาดแผลจากกฎเหล่านี้ ทั้งโดนตีเนื่องจากผมยาวเลยกว่าติ่งหู มีหน้าม้า หรือไม่ได้ผูกโบว์สีประจำของระดับชั้น อีกทั้งเครื่องแบบโรงเรียนของผู้เขียนยังประกอบไปด้วยหมวก และเนคไท ถ้าลืมเมื่อไหรหล่ะก็จะโดนหักคะแนน และถูกนำตัวออกไปประจานหน้าเสาธง เพื่อสร้างความอับอายให้แก่นักเรียน และสนองความสะใจของครูที่เรียกตัวเองว่าพระคุณที่สาม เมื่อนึกย้อนไปในสมัยนั้นผู้เขียนก็นึกอิจฉาเด็กสมัยนี้ที่มีเครื่องมืออย่างสังคมออนไลน์ Twitter ที่สามารถเป็นกระบอกเสียงในการกระจายข่าวสารข้อมูลจนสร้างผลกระทบให้ภาพลักษณ์ของโรงเรียนที่ผู้ใหญ่พยายามรักษากันหนักหนาให้เกิดการสั่นคลอนได้ อีกทั้งช่องทางสังคมออนไลน์นี้ยังมีอิทธิพลมากพอที่ทำให้พวกผู้ใหญ่หันมาสนใจความต้องการของนักเรียนตัวเล็ก ๆ  นอกจากนี้สังคมออนไลน์ยังทำลายวิธีการกดขี่แบบเดิมของผู้ให้ความรู้ในสถาบันการศึกษาที่ใช้อำนาจเพื่อปิดปากคนไร้อำนาจ และผู้ที่เห็นต่างให้เกิดความหวาดกลัว ให้ไม่สามารถทำได้อย่างในอดีตอีกต่อไป
ภาพที่ 2

Advertisement

Advertisement

ส่วนตัวแล้วสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนไม่เคย “อิน” เลยจริง ๆ ก็คือเรื่องของการรักสถาบัน ไม่ว่าจะทำความเข้าใจอย่างไรก็ไม่เคยพบเจอกับเหตุผลที่ฟังขึ้นเลย ในเมื่อโรงเรียนไม่ดี ยังมีข้อบกพร่อง ทำไมเราต้องปกป้องสิ่งแย่ ๆ ที่ทำสืบต่อกันมานั้นด้วย ทำไมไม่ช่วยกันแก้ไขให้โรงเรียนดีขึ้น? ไม่เคยเข้าใจเลยว่าพวกผู้ใหญ่รักโรงเรียนกันจริง ๆ หรือเพียงแค่รู้สึกเสียหน้าที่ถูกตำหนิกันแน่ ?

ภาพที่ 3

ภาพจาก canva.com

ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์