ความทรงจำไม่เคยลืม ตอน จะคลอดแล้วนะ

ความทรงจำไม่เคยลืม ตอน  จะคลอดแล้วนะ

ปกติคนทั่วไปเมื่อถึงกำหนดคลอดประมาณ 280 วัน หรือประมาณสัปดาห์ที่ 38-40 ก็จะเริ่มมีอาการท้องลด   ตอนนั้นไปตรวจตามหมอนัดครั้งสุดท้ายเหลืออีก 5 วัน  ก็จะครบกำหนดคลอด  คิดไว้ว่าตรวจเสร็จจะไปทำงานอีก 2 วันก็จะลางานแล้วตามที่เขียนในใบลาไว้ พอตรวจเสร็จหมอก็ให้กลับบ้านแต่กลับรู้สึกว่าตัวเองปวดท้องนึกถึงทฤษฎีตามหนังสือที่เคยอ่านว่าตอนใกล้จะคลอดถ้ารู้สึกปวดท้องโดยจะเจ็บมาเป็นระยะห่างเท่าๆกัน เช่น เจ็บท้อง 10 นาที  เป็น 7 นาที และ 5 นาที  เจ็บแบบถี่ ๆ แสดงว่ามีสัญญาณเตือนแล้วว่าเป็นการเจ็บท้องจริงใกล้คลอดแล้ว

ตัดสินใจโทรหาคุณหมอที่ฝากพิเศษไว้  คุณหมอให้รีบมาโรงพยาบาลด่วนตอนนั้นน่าจะเป็นเวลาประมาณตี 5 กว่า ๆ ได้  ช่วงระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล   รู้สึกว่าคนขับรถช้ามากอาการปวดมาทีไรมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีเลือดไหลพุ่งออกจากช่องคลอดในช่วงระหว่างเดินทางภาวนาอย่าให้ถุงน้ำคร่ำแตกระหว่างก่อนถึงโรงพยาบาล

เมื่อพยาบาลอธิบายเสร็จก็เริ่มให้สัญญาณเตรียมครั้งที่ 1  สูดลมหายใจเข้าลึกๆ 1 2 3 เบ่ง อื้ดดดด เบ่งยาว ๆ ค่ะดีมาก  เตรียมครั้งที่ 2 สูดลมหายใจเข้าลึกๆดีมากค่ะ  1 2 3 เบ่ง อื้ดดดดดดดด   ได้ยินเสียงดังมาจากพยาบาลที่อยู่ในทีมว่าหัวเริ่มโผล่แล้ว  เบ่งครั้งที่ 3 นะ   สูดลมหายใจเข้าลึกๆ 1 2 3  เบ่ง อื้ดดดดดดดด  และในขณะเดียวกันแม่รู้สึกว่ามีของมีคมมากรีดที่บริเวณช่องคลอด แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเพราะความเจ็บมันชาไปหมดแล้ว  ทารกน้อยก็หลุดออกมาจากช่องคลอด  แต่ยังไม่หมดแค่นั้นคุณหมอยังบอกแม่ว่าต้องคลอดรกอีกครั้งหนึ่งนะ   จากนั้นทำการคลอดรอบที่ 2  วิธีการเหมือนกันคือ เบ่งแต่เบ่งเพียงครั้งเดียวรกก็หลุดออกมาแล้ว

หลังจากคลอดประมาณ 1 นาที  จะเด็กน้อยหายใจและมีเสียงร้องตามมา  พยาบาลนำไปล้างทำความสะอาด และอุ้มมาให้คุณหมอ  และบอกว่า " คุณแม่ดูซิว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย  ลืมตาแล้วบอกหมอหน่อย "  มองเห็นทารกตัวน้อยที่คุณหมออุ้มมาให้ดู    ตอนนั้นคุณหมอตัดสายสะดือเรียบร้อย   ล้างคราบเลือดและไขที่ติดมาตอนแรกคลอดออกหมด  วินาทีนั้นมันตื่นเต้นยังไงบอกไม่ถูกเป็นวินาทีการรอคอย  9 เดือนที่เล่นด้วยกันมาอยู่ด้วยกันตลอด ไปไหนไปด้วยกัน กินอะไรก็กินด้วยด้วยกัน   โดยผ่านทางรก  ตอนนี้แม่ได้เห็นหน้าหนูแล้ว

ในช่วงเวลาเดียวกันที่แม่ยังอยู่ในห้องคลอด   สามีและแม่รอลุ้นกันอยู่ ส่วนพ่อรอฟังข่าวที่บ้านเพราะไม่มีใครเฝ้าบ้าน   หมอไม่ให้ใครเข้ามาในห้องคลอดด้วยเพราะเป็นโรงพยาบาลของรัฐด้วย    ทุกคนบอกว่าตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่รู้ว่าจะได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย  เพราะตอนตั้งครรภ์เคยอัลตราซาวด์ 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่ทราบเพศคุณหมอเลยบอกว่ารอลุ้นแล้วกัน เพราะอัลตราซาวด์บ่อยไม่ดีรู้แค่เขาสมบูรณ์แข็งแรงดีก็พอแล้ว  เมื่อคุณหมอที่ดูแลออกไปที่หน้าประตูห้องคลอด   สามีถามคุณหมอว่าลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย   หมอบอกว่าเป็นผู้หญิง คือ ดีใจมาก ทำอะไรไม่ถูก เพราะที่จริงผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ แต่สามีก็หวังไว้ลึกๆว่าอยากได้ลูกผู้หญิง

แต่ยังไม่ถึงเดือน ตอนนั้นลูกเกิดมาได้เพียง 7 วัน ก็มีอาการเป็นหวัดต้องพาไปหาหมอ ผลปรากฏว่านอกจากเป็นหวัดแล้วยังตรวจเจอสิ่งผิดปกติอีกอย่างคือ ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท  และต้องนอนอยู่โรงพยาบาล 5 วัน  ระยะเวลา 2 วันแรกยังไม่สามารถจองห้องพิเศษได้เพราะห้องเต็มหมดเลย   ทำให้ต้องเฝ้าฉันอยู่คนเดียวเพราะเป็นกฎของโรงพยาบาลของห้องรวม อีกอย่างเป็นคุณแม่มือใหม่ จะอุ้มลูก จะให้นม ก็ไม่คล่อง สภาพตอนนั้นบอกเลยว่าสภาพร่างกายดูไม่ได้เลย  ทั้งเจ็บแผล น้ำนมก็ไหล  แผลช่องคลอดก็ยังเจ็บอยู่

ทั้งแม่และลูกต้องอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวันเพราะต้องฉีดยาฆ่าเชื้อให้ครบ   พอผลตรวจต่างๆออกมาอาการดีขึ้น    คุณหมอที่ดูแลแจ้งให้ไปที่โรงพยาบาลศิริราช เพราะต้องใช้เครื่องมือสำหรับตรวจเด็ก  เนื่องจากยังเหลือกรณีลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท  ต้องตรวจดูว่ารูที่ปิดไม่สนิทขนาดใหญ่หรือไม่   จำเป็นจะต้องผ่าตัดไหม   ผลตรวจออกมาคือ มีรูที่ลิ้นหัวใจเปิดนิดเดียว  คุณหมอให้รอดูอาการอีก  1 เดือน  ว่าลิ้นหัวใจจะสามารถปิดเองได้หรือไม่

พอครบ 1 เดือน วันที่หมอนัดพ่อแม่และยายพาใบเงินไปตรวจด้วยความตื่นเต้น     เมื่อถึงคิวพยาบาลก็เรียกชื่อให้เข้าไปพบหมอในห้องตรวจ  ก็อุ้มเจ้าตัวยุ่งข้าไปพบคุณหมอ   จากนั้นคุณหมอก็ใช้หูฟังแตะที่อกของเด็กน้อยเพื่อฟังการเต้นของหัวใจแล้วหันมาหาบอกว่า  " ดีใจด้วยนะคะ  ลิ้นหัวใจปิดสนิทแล้ว "  ตอนนั้นน้ำตาคลอด้วยความดีใจลุ้นกลัวลูกได้ผ่าตัด

ช่วงชีวิตหนึ่งของคนหลายคนถึงแม้ว่าจะมีเรื่องราวและปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น อาจมีทั้งเป็นเรื่องทุกข์และสุขปะปนกันไป แต่สิ่งที่ทำให้เราเข้มแข็งและอดทน สู้เพื่อคนที่เรารักและคนที่รักเรา นั่นคือ สายใยของความรัก ทุกคนในครอบครัวดูแลเอาใจกันและกันทั้งด้านกายและใจ จึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว  ปัจจุบันนี้น้องอายุ 10 ขวบแล้ว ร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีอาการใดเกี่ยวลิ้นหัวใจที่พบตอนเด็กอีกแล้ว

เขียนโดย BS ขอบอก

เครดิตภาพหน้าปก จาก gdakaska /Pixabay

เครดิตภาพ ประกอบที่ 1 จาก Please Don't sell My Artwork AS IS / Pixabay

เครดิตภาพ ประกอบที่ 2 จาก gdakaska / Pixabay

เครดิตภาพ ประกอบที่ 3 จาก Please Don't sell My Artwork AS IS / Pixabay

🌟อ่านจบแล้วเข้าไปพูดคุยในคอมมูนิตี้ที่นำเทรนด์ที่สุดในปีนี้ที่ TrueID Community 🪄✨

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !