อื่นๆ

ความเชื่อ vs วิทยาศาสตร์ กับปริศนาโลกหลังความตาย

1.2k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ความเชื่อ vs วิทยาศาสตร์ กับปริศนาโลกหลังความตาย

ตายแล้วไปไหน? ชีวิตหลังความตายมีอยู่จริงไหม?ภพภูมิและการเวียนว่ายตายเกิดแท้จริงแล้วคือสิ่งใด?

คำถามเหล่านี้คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในสมองของใครหลายคน ซึ่งผู้เขียนจะขออนุญาตรวมคุณผู้อ่านเป็นหนึ่งในนั้นด้วย เพราะถ้าหากคุณไม่มีความสงสัยหรือสนใจในเรื่องที่กำลังจะอ่านต่อไปนี้ ก็มีโอกาสน้อย(หรือน้อยมาก)ที่มือของคุณจะกดเข้ามาในบทความที่คุณเองก็ไม่ทราบว่าจะตอบข้อสงสัยของคุณได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม ให้คุณคิดเสียว่านี่เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างผู้เขียนกับคุณผู้อ่านแล้วกัน ถ้าพร้อมแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเข้าประเด็นของเราเลยดีกว่า

https://cdn.pixabay.com/photo/2016/03/09/09/31/hallway-1245845__340.jpg

บนโลกนี้มีผู้นับถือศาสนาแตกต่างกันมากมาย แต่ละศาสนาย่อมมีความแตกต่างทางด้านความเชื่อ ด้านคำสอน และด้านหลักการ แต่สิ่งที่คล้ายคลึงกันคือเรื่องของกฎแห่งกรรมและ"ความเชื่อในโลกหลังความตาย"โดยบทความนี้จะขอกล่าวถึงอย่างหลังเป็นหลัก ชาวพุทธเชื่อว่า ทำดีได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วต้องตกนรก คุณเคยได้ยินประโยคเหล่านี้เป็นประจำเลยใช่ไหมล่ะ (อาจจะนับครั้งไม่ถ้วนด้วยซ้ำ) นรกสวรรค์ในศาสนาคริสต์ก็มีเช่นกัน ชาวคริสเตียนเชื่อว่าสวรรค์คือบ้านของพระบิดา ส่วนผู้ที่ทำบาปมหันต์จะถูกลงโทษในนรกด้วยไฟนิรันดร์และถูกตัดขาดจากพระเจ้าไปตลอดกาล นี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นว่าความเชื่อเหล่านี้ถูกฝังรากลึกลงในแก่นความคิดของมนุษย์ แล้วถ้ามีคนบอกว่ามันไม่ใช่ล่ะ ถ้ามีคนบอกว่าการเวียนว่ายตายเกิดและนรกสวรรค์เป็นแค่เรื่องเท็จที่เกิดขึ้นมาจากความเชื่อเท่านั้น คุณมีความคิดเห็นอย่างไร? แน่นอนว่าบทความนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อลบหลู่หรือลบล้างความคิดเหล่านี้ เพียงแต่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดในฐานะมนุษย์คนหนึ่งซึ่งอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกการเคลื่อนที่ของเข็มนาฬิกาหรือจะเรียกว่ายุคโลกาภิวัตน์ก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคนี้คือความคิดที่ยึดในหลักของเหตุผล กระบวนการ ขั้นตอน สิ่งที่พิสูจน์ได้และเป็นรูปธรรม ซึ่งมนุษย์เรียกสิ่งนั้นว่า"วิทยาศาสตร์" คำสั้นๆคำนี้แหละคือสิ่งที่เดินสวนทางกับความเชื่ออันเป็นนามธรรม

Advertisement

Advertisement

https://images.pexels.com/photos/35888/amazing-beautiful-breathtaking-clouds.jpg?auto=compress&cs=tinysrgb&dpr=2&h=650&w=940

นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้ทำการวิจัยและตั้งสมมติฐาน​เรื่องราวของโลกหลังความตาย​ ซึ่งผลวิจัยต่างๆที่ได้รับก็ยังถือเป็นทฤษฎีที่แน่นอนไม่ได้​ แม้ว่าจะได้ข้อสรุปที่น่าเชื่อถือ​ แต่ก็จะมีข้อมูลบางอย่างมาขัดกับข้อสรุปนั้นๆเสมอ​ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานวิจัยที่เกิดขึ้นนั้นสูญเปล่า​เสมอไป​ เมื่อมีบางสิ่งที่น่าสนใจของมนุษย์ถูกค้นพบขึ้น​ นั่นก็คือ​ Near Death Experience หรือ​ ประสบการณ์​ใกล้ตาย​ ภาวะนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่กำลังจะเสียชีวิต​ หรือพูดอย่างภาษาเราๆก็คือใกล้ตายนั่นแหละ​ นอกจากนี้ยังสามารถพบภาวะนี้ได้ในผู้ที่อยู่ระหว่างการทำสมาธิ​อีกด้วย​ โดยประสบการณ์​ใกล้ตายที่มีผู้เฉียดตายรอดชีวิตกลับมาเล่าให้เราฟังนั้นเป็นสถานการณ์​ที่หลากหลายไปในแต่ละบุคคล​ เช่น​ การพบเห็นวิญญาณ​ เห็นแสงสว่างสีขาว​ เห็นญาติที่ล่วงลับ​ไปแล้ว​ หรือแม้แต่เห็นตัวเองกำลังจะออกจากร่าง​ คุณคิดว่ามันฟังดูเหมือนเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติใช่ไหม​ แต่เรื่องพวกนี้นักวิจัยสามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์​และจิตวิทยา​ว่าประสบการณ์​ใกล้ตายเกิดจากกกระบวนการของสมองในขณะที่เซลล์สมองกำลังจะตาย ประกอบกับการทำงานของจิตใต้สำนึกและความทรงจำต่างๆชั่วขณะเท่านั้น

Advertisement

Advertisement

สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ผู้เขียนหนังสือ'ประวัติย่อของการเวลา'ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า35ภาษา และเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ อาทิ การแผ่รังสีของฮอว์คิงและทฤษฎีแห่งสรรพสิ่ง ศาสตราจารย์ผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้ที่กล่าวว่าโลกหลังความตายไม่มีอยู่จริงเช่นกัน โดยฮอว์คิงได้กล่าวว่าสมองของมนุษย์เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ เมื่อส่วนประกอบต่างๆหยุดทำงานหรือพังลง คอมพิวเตอร์ก็จะพังลงด้วย และไม่มีโลกหลังความตายสำหรับคอมพิวเตอร์ที่เสียไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของศาสตราจารย์ณอน แคร์โรล นักฟิสิกส์ผู้แนะนำทฤษฎีการเดินทางข้ามเวลาให้กับผู้กำกับฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์อย่าง Avengers Endgame เพื่อนำประเด็นทางวิทยาศาสตร์มาวิเคราะห์ให้เกิดเรื่องราวของภาพยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ศาสตราจารย์ฌอนได้กล่าวเกี่ยวกับโลกหลังความตายไว้ว่าจิตใต้สำนึกและร่างกายของมนุษย์จะถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิงหลังจากเสียชีวิต ดังนั้นมนุษย์จึงไม่ควรยึดติดกับโลกหลังความตายอีกต่อไป

Advertisement

Advertisement

https://images.pexels.com/photos/162389/lost-places-old-decay-ruin-162389.jpeg?auto=compress&cs=tinysrgb&dpr=2&h=650&w=940

ในทางศาสนาโลกหลังความตายคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครทำกรรมใดต้องรับกรรมนั้นในดินแดนหลังความตายซึ่งอาจเป็นสวรรค์หรือนรกก็ตามแต่กรรมที่ได้กระทำไว้ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ชีวิตหลังความตายคือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เมื่อตายไปร่างกายจะย่อยสลายเหลือเพียงหน่วยพื้นฐานที่เรียกว่าอะตอมเท่านั้น อย่างไรก็ตามโลกใบนี้ยังมีหลายสิ่งกำลังรอการพิสูจน์ บางทีในอนาคตเรื่องราวเหล่านี้อาจจะเป็นที่ประจักษ์แก่โลก แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับปริศนาข้อนี้ คิดหรือไม่ว่าโลกหลังความตายอาจจะกลายเป็นปริศนาตลอดกาล

"ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก โดย Elti Meshau รูปภาพประกอบที่ 1 โดย Free-Photos / 2 โดย Bessi / 3 โดย Marcelo Jaboo"

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์