คอนเทนต์ "ขยะ"

คอนเทนต์ขยะคืออะไร???

ก่อนที่จะเรานั้นบอกว่าคอนเทนต์ขยะคืออะไร เรานั้นต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของคอนเทนต์ก่อนว่ามันคืออะไร

โดยความหมายของคอนเทนต์นั้นมีหลายความหมายเช่น ความพึงพอใจในสภาพการณ์ โดยไม่คาดหวังการเปลี่ยนแปลงใดๆ,ความคิดที่ถูกบรรจุไว้ในบทความ คำปราศรัย หรือสื่อภาพยนตร์,ทุกๆอย่างที่ถูกจุอยู่ไหนหีบห่อ

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

แต่ความหมายของคอนเทนต์สำหรับคนธรรมดาๆอย่างพวกเรานั้น มันก็คือการนำความหมายที่กล่าวมา3อย่างนี้มาผสมๆและรวมกันจนได้มีความหมายว่า"บทความภาพ เสียง หรือวิดีโอ ทุกอย่างที่ถูกบรรจุเอาไว้ในหีบห่อ ที่เรารู้สึกพอใจและไม่ได้คาดหวังอะไรสักอย่างกับมันมากๆ"และนี่แหละก็เลยเป็นปัญหาที่ตามมา โดยปัญหานั้นก็คือมันครอบคุมหมดและไม่มีขอบเขตที่แน่นอน ทำให้เมื่อมีใครสักคนทำอะไรขึ้นมาก็ถือว่าเป็นคอนเทนต์ได้หมดจึงทำให้มันเกิดอันที่มันดี มีสาระ และ อันที่ไม่มีสาระ อะไรเลย ปนเปกันไปจนทำให้คอนเทนต์ที่ไม่มีสาระเหล่านี้ถูกเรียกว่าในอีกชื่่อว่า "คอนเทนต์ขยะ" และมันมีจำนวนมากจนกลบคอนเทนต์ที่ดีๆไปหมดจนทำให้เราไม่สามารถแยกได้ว่าอันไหนที่มันดีและไม่ดีกับตัวเรา

เราจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ยังไง???

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

"และในเมื่อมีปัญหา มันก็จะมีทางแก้ไขเสมอ" จากที่ได้บอกมาแล้วว่าเหตุนั้นมันเกิดมาจากอะไร และคราวนี้เราจะมาหาทางแก้ที่อาจจะช่วยลดจำนวนของคอนเทนต์เหล่านี้กันเถอะ แต่ก่อนที่เราจะไปหาทางแก้นั้น เราจะพาคุณไปรู้จักกับคำว่า"context"กันก่อน

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

โดย context นั้นแปลได้ว่า"บริบท" หรือถ้าเกิดนำมาแปลจากไทยเป็นไทยอีกทีนั้นก็จะได้ความหมายว่า"สภาวะแวดล้อมที่มอบความหมายให้กับเรื่องราว" แล้วทีนี้ก็มีคนมาถามว่า "แล้วมันสำคัญอย่างไร" ที่ทางเราจะต้องบอกเพราะว่า คอนเทนต์นั้นมันคือเนื้อหาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา และแน่นอนว่าคอนเทนต์นั้นก็ต้องสื่อ ความหมายหรือเรื่องราว ที่อยากจะให้คนดูนั้นได้ทราบ ถ้าให้อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือ คอนเทนต์ก็คือเนื้อหาที่ถูกนำเสนอ ส่วนคอนเท็กซ์นั้นก็เหมือนกับ สภาวะแวดล้อมที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายนั้นเข้าใจตรงกัน แต่ทว่าคอนเทนต์ขยะนั้นมันกับมีแค่คอนเทนต์ดิบๆ ไม่มีคอนเท็กซ์เลยแม่แต้ซักหยด (เอาล่ะกลับเข้าเรื่องกัน) โดยทางแก้ที่อาจจะแก้ไขได้นั้นมีดังนี้

ไม่ต้องไปดู noสนnoแคร์

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่น่าจะทำได้ยากที่สุดแล้วก็ว่าได้ เนื่องจากที่ได้เคยบอกไว้แล้วว่า "คอนเทนต์ขยะนั้นมันมีจำนวนมาก จนทำให้คอนเทนต์ที่ดีๆนั้นโดนกลบไปหมด" แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้ ถ้าตัวคุณนั้นเป็นคนที่มีความพยายามและความอดทน ในการงมหาเหล่าคอนเทนต์ดีๆในกองของคอนเทนต์ขยะเหล่านี้

ตั้งราคาความสนใจในการดูคอนเทนต์

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

ในเมื่อวิธีที่แล้วมันทำยากใช่ไหม ได้ ถ้าอย่างนั้นทางเราขอเสนออีกทางนึงนั่นก็คือ "การตั้งราคาความสนใจในการดูคอนเทนต์" พอลองฟังแบบเผินๆหลายคนคงคิดว่า "มันก็จะยิ่งแย่กว่าเดิมสิ" แต่พวกคุณลองคิดตามดูนะ

ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่ดูอะไรแบบไม่เรื่องมาก ไม่สนว่าคุณภาพจะดีหรือแย่ คนที่ทำก็จะทำคอนเทนต์ขยะออกมาเรื่อยๆ หนำซ้ำคนทำก็จะได้เงินเท่าเดิมจากการที่คนดูอะไรแบบไม่เรื่องมาก อีกด้วย

แต่ถ้าเกิดคุณนั้นตั้งราคาความสนใจในการดูคอนเทนต์ จะยอมดูแต่คอนเทนต์คุณภาพเท่านั้น และจะไม่ให้ยอดวิวจากคอนเทนต์แนวนี้ ทีนี้คนที่ทำก็จะถูกบังคับให้คิดแล้วว่าคุณนั้นต้องการอะไร ทำให้ตลาดคอนเทนต์เกิดการแข่งขันขึ้น คุณภาพของคอนเทนต์ก็จะสูงขึ้น ผลประโยชน์นั้นก็จะกลับมาหาคนดู ไม่ต้องหาคอนเทนต์คูณภาพอีกต่อไป

คอนเทนต์ขยะยังจำเป็นไหม???

ภาพนี้นั้นทางเราได้จัดทำขึ้นมาเอง

เอาล่ะมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว  ตรงนี้มันคือการตัดสินใจของคุณว่าคอนเทนต์ขยะนั้นมันยังจำเป็นหรือไม่ แต่ในความคิดเห็นผมนะ(ย้ำว่าความคิดเห็นของผม) ผมว่าคอนเทนต์ขยะนั้นมันไม่จำเป็นเลย ถึงแม้ว่าคอนเทนต์ขยะนั้นมันจะช่วยทำให้ความเครียดหายได้ แต่คอนเทนต์ที่ดีและมีคุณภาพนั้นก็สามารถทำได้เหมือนกัน และอีกอย่างนึงผมมองว่าคอนเทนต์ขยะบางอันมันไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับคนดูและมันยังไม่แฟร์สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เนื่องจากคอนเทนต์ครีเอเตอร์บางคนทำคอนเทนต์ดีๆแทบตาย แต่กลับมีคนสนใจน้อย และนี่แหละก็คือเหตุผลที่ผมมองว่าคอนเทนต์ขยะนั้นไม่จำเป็น

ก็ขอบคุณที่ท่านผู้อ่านด้วยนะครับ ที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ หากมีข้อมูล หรือคำศัพท์ที่ผิดพลาด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ข้อมูลที่หามานั้นมาจากช่อง นวล

ถ้าหากชอบ ก็อย่าลืมไปกดติดตามเพจ Blockdit ของเราได้

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !