อื่นๆ
คาร์ซีทสำหรับทารก ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
บ่อยครั้งที่เราเห็นข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่เกิดขึ้นแบบรายวัน ไม่ว่าจะเกิดจากความประมาทหรือไม่ก็ตาม ความสูญเสียที่ไม่คาดฝัน และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สำหรับผู้ใหญ่กฎหมายได้บังคับให้เรารัดเข็มขัดทุกครั้งเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากอุบัติเหตุการจราจร แต่สำหรับเด็กทารกแล้วในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายบังคับในเรื่องของการนั่งคาร์ซีท
แต่ในหลายๆประเทศ มีกฎหมายบังคับใช้คาร์ซีทกันอย่างแพร่หลายแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น ในสหภาพยุโรป มีกฎหมายกำหนดเด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 150 เซนติเมตร ต้องโดยสารไปกับรถโดยใช้คาร์ซีทตลอด อาจจะมีข้อกำหนดบางอย่างที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมคือ เด็กๆทุกคนต้องนั่งคาร์ซีท เพื่อความปลอดภัย
คาร์ซีทจะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ช่วยลดอาการบาดเจ็บ และยังสามารถช่วยให้ผู้ปกครองมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะปีนป่าย กระโดด หรืออื่นๆที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
Advertisement
Advertisement
การเลือกคาร์ซีท สำหรับพ่อแม่ที่กำลังมองหาเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับลูกน้อย สิ่งที่ต้องเลือกเป็นอย่างแรกคือ การเลือกซื้อประเภทของคาร์ซีท Infant Carrier คาร์ซีทสำหรับเด็กทารกแรกเกิด คาร์ซีทแบบนี้จะใช้ได้เพราะช่วงที่เป็นทารกเท่านั้น Convertible Car Seat คาร์ซีทสำหรับทารกและเด็กเล็ก ในปัจจุบันผู้ผลิตมักเขียนกำกับระบุเอาไว้ว่าคาร์ซีทแต่ละรุ่นเด็กสามารถใช้ได้ในช่วงอายุเท่าไหร่บ้าง เพราะฉะนั้นพ่อแม่จะต้องซื้อให้เหมาะสมกับช่วงวัย
ในการติดตั้งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ
- ความแน่นของสายรัด ไม่รัดจนแน่นหรือหลวมจนเกินไป สายจะพาดจากตรงเป้าและไหล่ ตัวล็อคอยู่กลางอก ระหว่างรักแร้ทั้ง 2 ข้าง
- อุปกรณ์เสริม คาร์ซีทบางรุ่นอาจจะมีแผ่นรองเสริม ช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม หากรุ่นคาร์ซีทที่ซื้อมามีอุปกรณ์เสริมควรติดตั้งให้เหมาะสม และไม่แนะนำให้ซื้ออุปกรณ์เสริมอื่นๆมาใส่เอง
- ควรซื้อคาร์ซีทให้พอดีกับลูกน้อย หากหลวมไม่พอดีกับทารก ไม่ควรหาอุปกรณ์เสริมอื่นๆมาใส่เอง
- ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งคาร์ซีทคือ เบาะหลัง และไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทไว้เบาะหน้า เพราะถุงลมนิรภัยจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อย และควรมีผู้ใหญ่นั่งไปด้วยเสมอ
Advertisement
Advertisement
ข้อสำคัญที่ช่วยให้ทารกหายใจสะดวกขณะนั่งคาร์ซีท ในช่วงแรกคาร์ซีทสำหรับทารกจะต้องปรับอยู่ในลักษณะนอนเสมอ ทารกคลอดก่อนกำหนดบางรายอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ เพราะฉะนั้นพ่อแม่จะต้องมั่นใจว่าทารกไม่มีปัญหาเรื่องการหายใจขณะนั่งคาร์ซีท โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
- ไม่ควรให้ทารกนั่งคาร์ซีททันทีหลังกินนมเสร็จ หลังกินนมควรรอเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงจะสามารถนั่งคาร์ซีทได้
- หลีกเลี่ยงการเดินทางไกล สำหรับทารกแรกเกิดนั้นไม่ควรเดินทางเกิน 1 ชั่วโมง หากจำเป็นต้องเดินทางไกล ควรให้ทารกออกมาพักทุก 45 นาที
- ควรมีผู้ใหญ่นั่งหลังไปด้วยทุกครั้ง เพื่อมั่นใจว่าจะไม่มีการงอตัว และหมั่นสังเกตทารกระหว่างเดินทางเสมอ
การเลือกซื้อคาร์ซีท ในปัจจุบันมีผู้ผลิตคาร์ซีทออกมาหลากหลายแบรนด์ให้เราเลือกสรร ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อ พ่อแม่ควรศึกษาข้อมูล ค้นคว้า เปรียบเทียบหลายๆแบรนด์ คาร์ซีทที่ราคาแพงมักจะแลกมาด้วยเทคโนโลยี มีการรับรองผ่านการทดสอบต่างๆ แต่ใช่ว่าคาร์ซีทที่มีราคาถูกจะไม่ดีเสมอไป เพราะฉะนั้นควรตั้งราคาที่เราสามารถจ่ายได้และเลือกให้ดีที่สุดให้คุ้มกับราคาจ่ายไป
Advertisement
Advertisement
ไม่แนะนำให้ซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้ ถึงแม้จะมีราคาที่ถูกมาก แต่คาร์ซีทมีวันเดือนปีที่ผลิต และหมดอายุเช่นกัน ยิ่งใช้งานไปนาน คุณภาพก็เสื่อมไปตามกาลเวลา ในการเลือกซื้อพ่อแม่จึงควรดูวันหมดอายุของคาร์ซีทด้วย
ตัวอย่างแบรนด์ของคาร์ซีท Graco, Britax, Chicco, Diono, Graco, Safety 1st, Evenflo, Cozy N Safe
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าเราจะเดินทางใกล้หรือไกล พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เล็กๆ เพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน อย่ารอให้ต้องเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง
- ภาพปกจากหน้าปก โดย PublicDomainPictures จาก Pixabay
- ภาพที่ 1 โดยผู้เขียน
- ภาพที่ 2 โดย Sharon McCutcheon จาก unsplash
- ภาพที่ 3 โดย Kampus Production จาก Pexels
- ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น